Intel Core Ultra คืออะไร หลังจาก Intel แถลงในงาน “AI Everywhere” ที่จัดขึ้นที่นครนิวยอร์กได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ขุมพลัง AI เพื่อให้สามารถใช้งานโซลูชัน AI ได้ทุกที่ ครอบคลุมทั้งศูนย์ข้อมูล คลาวด์ เครือข่าย และพีซี โดยหลักๆเปิดตัวดังนี้
- ตระกูลโปรเซสเซอร์โมบายล์ Intel Core Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 และยังเป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ที่สุดของอินเทลในรอบ 40 ปี ซึ่งจะเป็นไคลเอ็นต์โปรเซสเซอร์ที่ประหยัดพลังงานสูงสุดและเปิดทางสู่ยุคแห่ง “AI PC” หรือ “คอมพิวเตอร์ AI”
- ตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 5 ถูกสร้างขึ้นด้วยชิปเร่งความเร็ว AI ในทุกคอร์ นำความล้ำหน้ามาสู่ AI และประสิทธิภาพโดยรวม อีกทั้งยังลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) อีกด้วย
นายแพท เกลซิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินเทล กล่าวว่า “นวัตกรรม AI จะเพิ่มพูนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลได้สูงสุดถึงหนึ่งในสามของ Gross Domestic Product 1 (GDP) ทั่วโลก เช่นเดียวกับที่อินเทลกำลังพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันที่ช่วยให้สามารถบูรณาการและใช้งาน AI ในแอปพลิเคชันได้อย่างไร้รอยต่อ ทั้งในระบบคลาวด์ พีซี และในเอดจ์ที่เป็นระบบสร้างข้อมูลและใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น”
แพท เกลซิงเกอร์ ยังเน้นถึงขอบเขตอันกว้างขวางของอินเทลในด้าน AI ที่ครอบคลุมทั้งคลาวด์และเซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร ตลอดจนไคลเอ็นต์หรือเครื่องลูกข่ายจำนวนมากและสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานเอดจ์อย่างแพร่หลาย พร้อมเสริมว่าอินเทลกำลังดำเนินการเพื่อส่งมอบโหนดเทคโนโลยีกระบวนการใหม่อีก 5 โหนดภายในสี่ปีนี้
“อินเทลกำลังเดินหน้าตามพันธกิจเพื่อนำ AI แทรกซึมไปสู่ทุกที่ผ่านแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ พร้อมกับโซลูชันที่ปลอดภัย และการสนับสนุนสำหรับระบบนิเวศแบบเปิด พอร์ตโฟลิโอ AI ของอินเทลแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัว Intel Core Ultra ในวันนี้ ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดประตูสู่ยุคของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ โปรเซสเซอร์ Xeon เจนเนอเรชั่น 5 ที่ผสานพลัง AI สำหรับองค์กร” แพท เกลซิงเกอร์ กล่าวเสริม
Intel Core Ultra ขับเคลื่อนพลัง AI บน PC พร้อมพลิกโฉมแอปพลิเคชันไปสู่อีกระดับ
โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดของอินเทลในรอบ 40 ปี และนับว่าเป็นการเปิดตัวของ AI บน PC ที่มาพร้อมนวัตกรรมที่มอบประสิทธิภาพรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การประมวลผลกลาง (CPU), กราฟิก, พลังงาน, ความจุแบตเตอรี่ และฟีเจอร์ AI ตัวใหม่ ๆ การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาขับเคลื่อน PC ทำให้นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การใช้งาน PC ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่อินเทลได้เปิดตัว Intel Centrino ที่ทำให้แล็ปท็อปสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ทุกที่
Intel Core Ultra ถือว่าเป็นโปรเซสเซอร์ตระกูลแรกของอินเทลที่ใส่ชิปสำหรับการใช้งานกับระบบ AI หรือ AI Accelerator มาให้เป็นครั้งแรก โดยอินเทลเรียกชิปส่วนนี้ว่า Neural Processing Unit (NPU) หรือ หน่วยประมวลผลแบบโครงข่ายประสาท เพื่อให้สามารถเร่งการประมวลผลด้วย AI ที่ประหยัดพลังงาน พร้อมให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้นถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ GPU ระดับโลก และ CPU ชั้นนำของ Intel Core Ultra ก็ยังสามารถเร่งการประมวลผลของโซลูชัน AI ได้เช่นกัน
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อินเทลได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรอย่างใกล้ชิดกับผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์มากกว่า 100 ราย เพื่อนำแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI หลายร้อยรายการมาสู่ตลาด PC โดยเป็นแอปพลิเคชันที่สร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ และมอบความบันเทิงมากมาย พร้อมพลิกโฉมประสบการณ์ PC ให้ไม่เหมือนเดิม อีกทั้ง สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าเชิงพาณิชย์ ยังสามารถใช้งานชุดแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย AI ที่มีขนาดใหญ่และครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งจะทำงานได้ดีบนโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มของคู่แข่ง เช่น นักผลิตคอนเทนต์ที่ใช้โปรแกรม Adobe Premier Pro จะได้รับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
AI PC หรือ คอมพิวเตอร์ AI ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้วในร้านตัวแทนจำหน่ายบางแห่งในสหรัฐอเมริกาในช่วงเทศกาลวันหยุด และในปีถัดไป Intel Core Ultra จะนำ AI ไปใช้งานในโน้ตบุ๊กและ PC มากกว่า 230 รุ่นจากผู้ผลิตทั่วโลก โดยคอมพิวเตอร์ AI จะครองสัดส่วน 80% ของตลาด PC ภายในปี 25714 และจะนำเครื่องมือใหม่ ๆ มาสู่วิถีการทำงาน การเรียนรู้ และการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ
โปรเซสเซอร์ Xeon ตัวใหม่มอบขุมพลัง AI เหนือชั้นไปยังศูนย์กลางข้อมูล คลาวด์ เครือข่าย และเอดจ์
โปรเซสเซอร์ตระกูล Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 5 นำมาซึ่งความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ทั้งในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพในการใช้งาน เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์รุ่นก่อนหน้า โปรเซสเซอร์ Xeon เจนเนอเรชั่น 5 นี้มอบประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 21% สำหรับการประมวลผลทั่วไป และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉลี่ยสูงขึ้น 36% ต่อวัตต์ ครอบคลุมปริมาณเวิร์กโหลดที่หลากหลายของลูกค้า นอกจากนี้ ลูกค้าที่อัปเกรดระบบเป็นประจำทุก ๆ ห้าปี และอัปเกรดจากโปรเซสเซอร์รุ่นเก่าก็สามารถลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ได้มากถึง 77%
Xeon เป็นโปรเซสเซอร์ศูนย์ข้อมูลหลักเพียงตัวเดียวที่มีชิปเร่งความเร็วที่มีการฝังระบบ AI โดย Xeon เจนเนอเรชั่น 5 ตัวใหม่นี้สามารถให้การอนุมานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 42% และการปรับแต่งอย่างละเอียดในโมเดลที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 หมื่นล้านพารามิเตอร์ 9 นอกจากนี้ยังเป็น CPU ตัวเดียวที่มีชุดการฝึกอบรม MLPerf และผลการวัดประสิทธิภาพการอนุมานที่สม่ำเสมอและปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา
ชิปเร่งความเร็วที่มีการฝั่งระบบ AI ของโปรเซสเซอร์ Xeon มาพร้อมกับซอฟแวร์ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมและความสามารถของ Telemetry (การวัดและส่งข้อมูลทางไกล) ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้น ช่วยให้การใช้งานของเครือข่ายที่มีความต้องการสูงและเวิร์กโหลดเอดจ์สามารถจัดการได้และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งแต่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร เครือข่ายการจัดส่งเนื้อหา การตลาดแนวตั้งที่หลากหลาย ตลอดจนการค้าปลีก การแพทย์ และการผลิต
ในระหว่างการทดสอบ10 ภายในงาน IBM ประกาศว่าโปรเซสเซอร์ Intel Xeon เจนเนอเรชั่น 5 มีอัตราการสืบค้นที่ดีขึ้นถึง 2.7 เท่าบนแพลตฟอร์ม watsonx.data เมื่อเปรียบเทียบกับโปรเซสเซอร์ Xeon รุ่นก่อนหน้า ทำให้แพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีการวางแผนจะปรับใช้โปรเซสเซอร์ Xeon เจนเนอเรชั่น 5 ในปีหน้า โดย Google Cloud ระบุว่า Palo Alto Networks บริษัทผู้บุกเบิกการรักษาความปลอดภัย ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ 2 เท่าในโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกด้านการตรวจจับภัยคุกคาม ด้วยการใช้ชิปเร่งความเร็วภายในตัวโปรเซสเซอร์ Xeon เจนเนอเรชั่น 4 ผ่านแพลตฟอร์ม Google Cloud และสตูดิโอเกมอินดี้ Gallium Studios ก็หันมาใช้แพลตฟอร์ม AI ของ Numenta ที่ทำงานบนโปรเซสเซอร์ Xeon เพื่อให้ประสิทธิภาพการอนุมานได้รับการปรับปรุงมากกว่าอินสแตนซ์คลาวด์ที่ใช้ GPU ถึง 6.5 เท่า ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและลดเวลาแฝงในเกมที่ใช้ AI อย่าง Proxi 11 อีกด้วย
ศักยภาพเหล่านี้จะช่วยปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของ AI ขั้นสูง โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในศูนย์ข้อมูลและคลาวด์เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังเครือข่ายและแอปพลิเคชันเอดจ์ทั่วโลก
โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra และ Xeon เจนเนอเรชัน 5 จะพาผู้ใช้ไปพบกับสถานที่ต่าง ๆ ที่คาดไม่ถึง ลองนึกภาพว่าคุณไปร้านอาหารที่สามารถแนะนำอาหารตามงบประมาณที่คุณมีและตรงกับความต้องการของคุณ หรือว่าจะเป็นพื้นที่การผลิตที่สามารถเข้าถึงปัญหาด้านคุณภาพและความปลอดภัยได้ตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงด้านการแพทย์ เช่น การอัลตราซาวนด์ที่ละเอียดสามารถระบุสิ่งที่มนุษย์อาจพลาดได้ หรือแม้แต่โครงข่ายไฟฟ้าที่บริหารจัดการด้านไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
การประมวลผลข้อมูลแบบ Edge Computing เหล่านี้เป็นกลุ่มการประมวลผลที่เติบโตเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเติบโตโดยมีมูลค่าในตลาดโลกสูงถึง 4.45 แสนล้านดอลลาร์ภายในปลายทศวรรษนี้ และ AI จะเป็นเวิร์กโหลดที่เติบโตเร็วที่สุด ขณะที่อุปกรณ์เอดจ์และไคลเอ็นต์กำลังผลักดันความต้องการในการอนุมานมากกว่าศูนย์ข้อมูล12 แบบเดิมถึง 1.4 เท่า
และในหลายกรณี ลูกค้าจะใช้การผสมผสานโซลูชัน AI ที่หลากหลาย เช่น Zoom แพลตฟอร์มการสื่อสารและการทำงานร่วมกันยอดนิยม ที่มีการรันเวิร์กโหลดแบบ AI บนระบบไคลเอนต์ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Core และโซลูชันคลาวด์ที่ใช้ Intel Xeon ภายในแพลตฟอร์มการสื่อสารและการทำงานร่วมกันแบบออลอินวันเพื่อมอบประสบการณ์แก่ผู้ใช้งานและต้นทุนที่ดีที่สุด โดย Zoom มีการใช้ AI ช่วยกำจัดเสียงสุนัขที่เห่าในละแวกบ้านและเบลอฉากหลังโฮมออฟฟิศที่ดูระเกะระกะของผู้ใช้งาน และยังสามารถสรุปการประชุมและร่างอีเมลที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย
นอกจากนี้ อินเทลยังพยายามทำให้เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์แบบ AI สามารถเข้าถึงได้และใช้งานง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผ่านการสร้างตัวเร่งความเร็วในกรอบการทำงานแบบ AI ที่เหล่านักพัฒนาใช้ เช่น PyTorch และ TensorFlow และนำเสนอไลบรารีพื้นฐานผ่าน ชุดเครื่องมือ oneAPI เพื่อทำให้ซอฟต์แวร์สามารถพกพาได้ง่ายและมีประสิทธิภาพสูงบนฮาร์ดแวร์ประเภทต่าง ๆ
โดยเครื่องมือขั้นสูงสำหรับนักพัฒนา อย่างชุดเครื่องมือของอินเทล ไม่ว่าจะเป็นชุดเครื่องมือ oneAPI และชุดเครื่องมือ OpenVINO ช่วยให้นักพัฒนาสามารถควบคุมตัวเร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์สำหรับเวิร์กโหลดและโซลูชันแบบ AI อีกทั้งช่วยสร้างโมเดล AI ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมปรับให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพ และปรับใช้ได้ในเป้าหมายการอนุมานที่หลากหลาย
การเปิดตัว Intel Core Ultra มีความสำคัญอย่างไร
ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน การสตรีมมิ่ง การเล่นเกม หรือการสร้างสรรค์ผลงาน ผู้ใช้งานต่างมองหาประสิทธิภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่มากขึ้น และพร้อมใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ที่มีอยู่ในระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันเพื่อช่วยในการประมวลผล ทำให้การใช้งาน AI ใน PC / ทำให้ AI PC กลายเป็นตัวแทนของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ที่ตอบสนองความต้องการนี้ได้ เพราะด้วยความสามารถในการเร่งการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์ (AI acceleration) เข้ากับหน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit: CPU) หน่วยประมวลผลกราฟิก (Graphics Processing Unit: GPU) และหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (Neural Processing Unit: NPU) โมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra จึงเป็นโปรเซสเซอร์ที่รองรับความสามารถในการประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์และช่วยประหยัดพลังงานมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเทล
AI ใน PC มอบประสบการณ์ที่แข็งแกร่งพอ ๆ กับการใช้งานแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมเพื่อใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra เพราะกว่า 100 บริษัทผู้พัฒนาระบบ (Independent Software Vendor: ISV) และกว่า 300 ฟีเจอร์ของกระบวนการเร่งการประมวลผล AI ที่อยู่ภายใต้โครงการ AI PC Acceleration ของอินเทล ต่างได้รับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์/การปรับแต่งคุณสมบัติโดยเฉพาะสำหรับโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงแอปฯ และเฟรมเวิร์ก AI มากกว่าผู้จำหน่ายซิลิคอนคู่แข่งรายอื่น ๆ ถึง 3 เท่า
นอกเหนือจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแล้ว โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ยังมอบความสามารถในกระบวนการเร่งปัญญาประดิษฐ์ที่ประหยัดพลังงานบนเทคโนโลยี Edge พร้อมสนับสนุนเวิร์กโหลดด้านการประมวลผลภาพที่มีเวิร์กโหลดสูง อีกทั้งยังช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมหลายด้านของตลาดแนวดิ่ง (Vertical Marketing System) อาทิ ด้านการแพทย์ การค้าปลีก และการผลิต เป็นต้น
ยกระดับอะไรบ้าง
Intel Core Ultra เป็นโปรเซสเซอร์ตัวแรกที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดของอินเทลในรอบ 40 ปี และยังมีการใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ ด้วยเทคโนโลยี Foveros ที่ช่วยให้ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) ขั้นสูงสามารถจับคู่กระบวนการระดับแนวหน้าในการเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับของขีดความสามารถ โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra และช่วยยกระดับสถาปัตยกรรม Performance-core (P-core) ใหม่ โดยการปรับปรุงการตอบสนองต่อการรับสั่งต่อรอบของ IPC (Instructions Per Clock Cycle) อีกทั้ง สถาปัตยกรรม Efficient-core (E-core) และ Low-power Efficient-core (LP E-core) ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพแบบมัลติเธรดที่ปรับขนาดได้ ให้สูงเหนือคู่แข่งถึง 11% เพื่อมอบความเป็นผู้นำด้านการประมวลผล CPU สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบ Ultra Slim
นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ยังมาพร้อมกับกราฟิก Intel® Arc GPU ที่มีจำนวนคอร์ในตัว Xe-core สูงสุดถึง 8 คอร์ และยกระดับประสบการณ์ด้วยการอัปสเกลที่เสริมประสิทธิภาพด้วย AI เพื่อมอบประสิทธิภาพที่มากขึ้นพร้อมภาพที่มีความเที่ยงตรงสูงด้วย Xe Super Sampling (XeSS) รวมถึงรองรับ DX12 Ultimate และเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกขึ้นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า เคียงคู่ไปกับหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่มีการรองรับคุณสมบัติกราฟิกใหม่ อาทิ ฮาร์ดแวร์สำหรับประมวลผล Ray tracing, การแรเงาแบบตาข่าย, การเข้ารหัสและถอดรหัส AV1, HDMI 2.1 และ DisplayPort 2.1 20G
และสำหรับ Intel AI Boost แบรนด์ใหม่ล่าสุดของหน่วยประมวลผลข่ายประสาท (NPU) ของอินเทลถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อรองรับเวิร์กโหลด AI ให้สามารถทำงานได้ยาวนานขึ้นด้วยการใช้พลังงานที่ต่ำ ขณะเดียวกัน ยังเน้นการทำงานของ AI บน CPU และ GPU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนับว่ามีประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
คุณสมบัติอื่น ๆ ของตระกูลโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่:
- ปรับปรุงสถาปัตยกรรมให้สูงถึง 16 คอร์ (P-core จำนวน 6 คอร์, E-core จำนวน 8 คอร์ และ LP E-core จำนวน 2 คอร์), 22 เธรด และรองรับ Intel Thread Director เจนเนอเรชั่นใหม่เพื่อการคำนวนเวิร์กโหลดที่เหมาะสมที่สุด
- เพิ่มความถี่เทอร์โบสูงสุด 1 กิกะเฮิร์ทซ์ (GHz)
- เพิ่มความจุหน่วยความจำ LP5/x สูงสุด 64 กิกะไบต์ (GB) และหน่วยความจำ DDR5 สูงสุด 96 กิกะไบต์ (GB)
- รองรับ เทคโนโลยีระบบไร้สาย รวมถึง ผลิตภัณฑ์ Intel® Wi-Fi 6E (Gig+) แบบในตัว และ ผลิตภัณฑ์ Intel® Wi-Fi 77 (5 Gig) แบบแยกเพื่อเพิ่มความเร็วของอุปกรณ์ในการใช้ความเร็วไร้สายระดับ Multi-Gigabit ในการรับส่งไปยังอุปกรณ์ปลายทางหลายจุดมากขึ้น เพื่อการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้และเสถียร
- ซอฟต์แวร์ Intel Killer™ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออัจฉริยะและการจัดลำดับความสำคัญของการรับส่งข้อมูลเครือข่ายสำหรับแอปพลิเคชันเกมเมอร์และแอปพลิเคชันสำหรับครีเอเตอร์
- ขยายความสามารถเทคโนโลยี Intel Bluetooth LE Audio เพื่อประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม มีความเที่ยงตรงสูง และใช้พลังงานต่ำ อีกทั้งยังรองรับความสามารถ Bluetooth Auracast™ สำหรับการปรับแต่งเสียง การกระจายเสียง Personal Audio Sharing และการเข้าถึงเครื่องช่วยฟังที่ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นและระบบช่วยเหลือการฟังใหม่ ๆ อีกด้วย
- มอบความเร็วการเชื่อมต่อสูงสุด 40 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) ด้วยพอร์ต Thunderbolt 4 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อพีซีกับจอภาพระดับ 4K พร้อมกันหลายจอ อีกทั้งมีการจัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
- ชุดเครื่องมือ OpenVINO รองรับการเปลี่ยนแปลงโค้ดเพียงเล็กน้อยและการตรวจจับอุปกรณ์อัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพ AI โดยการกำหนดเส้นทางปริมาณงานไปยังกลไกประมวลผลที่เหมาะสม และปรับปรุงขั้นตอนการทำงานด้วย ONNX และ ONNX Runtime เพื่อการอนุมานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์แล็ปท็อป Intel Evo Edition ที่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra: กลุ่มผลิตภัณฑ์แล็ปท็อปรุ่น Intel Evo™ ยังคงมอบประสบการณ์การใช้งานโดยรวมที่ดีที่สุด ด้วยการมอบประสิทธิภาพการใช้งานที่ไร้ขีดจำกัดและการทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด รวมถึงการรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านแอปฯ Intel Unison ซึ่ง Intel Evo รุ่นใหม่นี้ จะมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่และมีฟีเจอร์เด่น ดังนี้
- ประสิทธิภาพและการตอบสนองที่เย็นกว่า เงียบกว่า
- ประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ด้วยอายุการใช้งานกว่า 10+ ชั่วโมงเมื่อใช้งานจริงกับงานออกแบบที่มีความละเอียดสูงเต็มรูปแบบ
- ระบบ Instant Wake และระบบชาร์จเร็ว (Fast Charging)
- ปรับปรุงเอฟเฟ็กต์วิดีโอ รวมถึง Windows Studio Effects
- กล้องคุณภาพสูงตามเกณฑ์การวัดของกล้อง VCX
- เชื่อมต่อกับโทรศัพท์และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างไร้รอยต่อด้วย/อย่างไร้ขีดจำกัดด้วยฟีเจอร์สุดพรีเมียมของ Intel Unison
- ผ่านมาตรฐาน EPEAT สําหรับการออกแบบคอมพิวเตอร์ที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืนอย่างน้อยใน ระดับ Silver
- รองรับซอฟต์แวร์ Intel connectivity สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออัจฉริยะและการจัดลำดับความสำคัญการรับส่งข้อมูลเครือข่ายเพื่อประสิทธิภาพการทำงานมาตรฐาน การทำงานร่วมกัน และความบันเทิง
นอกจากนี้ยังมีโครงการ Engineered for Intel Evo ที่จะกําหนดคุณสมบัติของอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์เสริมนั้นจะตรงตามข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพที่เข้มงวด เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น โดยในปีนี้ โครงการได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านอุปกรณ์ Bluetooth LE Audio, เครื่องช่วยฟัง, Thunderbolt docks, จอภาพ, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล, ชุดหูฟัง Bluetooth, เมาส์, คีย์บอร์ด และตัวกระจายสัญญาณอีกด้วย
การจัดจำหน่าย: คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนโดยโมบายล์โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra เริ่มวางจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันนี้ และส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม Intel vPro จะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ และนี่เป็นซีพียูที่จะมาเด่นมากและเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปีใหม่ 2024
อ้างอิง และ Cover Intel
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
Intel Core Ultra คืออะไร ? ก้าวสู่ยุคใหม่ AI ในพีซี
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs