เมื่อเทคโนโลยีทางการเงิน มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน Lifestyle ของคนทั่วโลก จากเดิมนวัตกรรมการเงินเป็นเรื่องไกลตัว แต่ปัจจุบันเป็น Solution แก้ปัญหาชีวิตประจำวันของผู้บริโภคแทบทุกมิติ ผ่านทางอินเทอร์เน๋็ตและแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย การรับข้อมูลข่าวสาร และรวมถึงพัฒนาการด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่เรียกว่า FinLife
FinLife ( Financial Lifestyle) สามารถตอบโจทย์คนยุคดิจิทัลได้ไกลเกินกว่าเป็นเพียงระบบชำระเงินออนไลน์ สะท้อนได้จากผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่เปิดช่องทางให้ผู้บริโภค กำหนดโครงสร้างหรือรูปแบบได้ตามต้องการ
Digital Wallet
คาดว่าภายในปี 2020 จะมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเป็นกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลบนสมาร์ทโฟนมากถึง 90% ข้อมูลนี้สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากเดิม Digital Wallet เป็นของใหม่ กลายเป็นฟังก์ชั่นทางการเงินที่ขาดไม่ได้ ผู้ผลิตหลายค่ายก็เริ่มลงสู่สนามการแข่ง Digital Wallet แล้วทั้ง Apple Pay , Samsung Pay และ G Pay คาดว่าในอนาคตแทบไม่ต้องใช้เงินสดหรือใช้บัตรเครดิตและบัตรพลาสติกต่างๆ เพราะจะแทนที่ด้วยระบบชำระเงินบนสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆก็จ่ายเงินได้แล้ว
App-Based Investing
หรือการลงทุนผ่านแอปบนสมาร์ทโฟน เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจและถูกจับตาในอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลกโดยเฉพาะเทคโนโลยีทางการเงินที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อทดแทนการให้คำปรึกษาด้านการออมและการลงทุนแบบตัวต่อตัว ( Face to Face Advisory ) อีกทั้งสามารถปรับสมดุลพอร์ตลงทุนอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสี่ยง และมีบริการเสริมอื่นๆ ที่เริ่มครบวงจรมากขึ้น
Super App Phenomenon
แอปพลิเคชั่นที่เรียกว่า Super App กำลังกลายเป็นปรากฎการณ์ที่พลิกโฉมรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนทั่วโลก เห็นได้ชัดอย่าง WeChat ที่พัฒนาแอปจนครองใจชาวจีน ด้วยฟีเจอร์ที่ตอบสนองคนทุกกลุ่ม ตั้งแต่ความต้องการทางการเงินในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงธุรกรรมทางการเงินที่สำคัญมากขึ้น บริการการแพทย์ การเรียกรถโดยสาร การดำเนินเอกสารทางราชการ และอื่นๆ โดยอิงกับไลฟสไตล์ของผู้ใช้เป็นสำคัญ
Biometric
เมื่อมีคนทำธุรกรรมผ่านทางสมาร์ทโฟนมากขึ้น ต้องหากระบวนการด้านความปลอดภัย ถูกต้อง โปร่งใสมากขึ้น อย่างเทคโนโลยี Biometric และกระบวนการจดจำลูกค้าแบบอัตโนมัติในลักษณะทางชีวภาพ เช่น การจดจำด้วยเสียง จดจำใบหน้า จดจำรูม่านตา จดจำลายนิ้วมือ และรูปแบบตรวจจับเส้นเลือดบนนิ้วมือ ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์ของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อป้องกันการเลียนแบบ ดังนั้นสมาร์ทโฟนทุกรุ่นต้องมี Biometric มาใช้เป็นฟีเจอร์ตรวจสอบตัวตน สำหรับด้านการเงินและการธนาคารภายในปี 2018 นี้ ซึ่ง Biometric จะมีบทบาทมาก ทั้งแวดวงธุรกิจ ระบบรักษาความปลอดภัย ตลอดจนถึงกระบวนการตรวจสอบของภาครัฐ
ดังนั้นธุรกรรมทางการเงินแบบนี้ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกวันๆ ไม่ใช่แค่เปย์ผ่านมือถือแล้วจบ แต่มันคือทุกสิ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเราในอนาคต
บทความจาก พระสยาม Magazine โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย