บริษัทเทคฯ ถูกฟ้อง รัวๆ ในเดือนมีนา 2024 ที่ผ่านมา จนนับได้ว่าเป็นเดือนแห่งฝันร้ายของบริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทั้งเรื่องโดนฟ้อง และโดนบังคับให้ขายบริษัท เกิดอะไรขึ้น? แล้วเราจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?
เกิดอะไรขึ้น! บริษัทเทคฯ ยักษ์ใหญ่ OpenAI Apple และ TikTok โดนฟ้อง โดนบังคับขายบริษัท
สำหรับคนไทย เดือนมีนาคมที่ผ่านมาไม่มีอะไรพิเศษ แต่สำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งไม่ใช่แบบนั้น เพราะมีทั้งที่โดนฟ้องจากทั้งรัฐ และเอกชนด้วยกันเอง หรือโดนออกกฏหมายสั่งให้ขายกิจการ แล้วบริษัทเหล่านั้นเป็นบริษัทระดับโลกทั้งนั้นเลย และอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ บริษัทเทคฯ ถูกฟ้อง
Elon Musk ยื่นฟ้อง OpenAI
วันที่ 1 มีนาคม 2024 มีข่าวว่า Elon Musk ได้ยื่นฟ้อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI และ Greg Brockman ประธานบอร์ดของ OpenAI ข้อหาละเมิดข้อตกลงตามสัญญาดั้งเดิม โดยให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าการพัฒนา AI ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่ Elon Mask เกี่ยวอะไร อยู่ดี ๆ ไปฟ้องเขาได้ยังไง
ความเกี่ยวข้องของ Elon Musk กับ OpenAI
ต้นกำเนิดของเรื่องนี้ต้องย้อนไปตังแต่ปี 2015 ในเวลานั้น Elon Musk เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และสมาชิกของคณะกรรมการชุดแรกของ OpenAI เขาได้รับการติดต่อจาก Sam Altman และ Greg Brockman เพื่อให้ช่วยหาทุนให้กับสตาร์ทอัพ OpenAI โดยทั้งสองสัญญาว่า OpenAI จะเป็นบริษัทที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่มุ่งเน้นการสร้าง AGI และแข่งขันกับ Google ดังนั้น Elon Musk ได้บริจาคเงิน 44 ล้านดอลลาร์ให้กับ OpenAI ในระหว่างปี 2016 ถึง 2020
AGI คืออะไร?
AGI หรือ Artificial General Intelligence คือ AI ที่มีความฉลาดและความสามารถรอบด้านเช่น การเข้าใจภาษา เข้าใจรูปภาพ เข้าใจเสียงเพลง เทียบเท่ากับมนุษย์ หรืออาจจะเก่งกว่าในบางด้าน ความสามารถของ AGI สามารถเปรียบเสมือนกับมนุษย์คนนึงเลยทีเดียว
เหตุผลที่ Elon Musk ยื่นฟ้อง OpenAI
ในปี 2018 Elon Mask ได้ลาออกจาก OpenAI ด้วยเหตุผลด้านความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของ OpenAI กับ Tesla ซึ่งไม่นานหลังจากที่ Elon Musk ออกไป OpenAI ก็ได้รับเงินลงทุนจาก Microsoft ได้ถึง 13,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนี้ก็คือจุดกำเนิดที่ทำให้ Elon Mask ฟ้อง OpenAI
รายละเอียดที่ Elon Musk ยื่นฟ้อง OpenAI
โดยรายละเอียดของการฟ้องตอนหนึ่งระบุว่า OpenAI ถูกเปลี่ยนให้เป็นบริษัทในเครือแบบปิดของ Microsoft และเน้นไปที่การพัฒนา AGI เพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุดให้กับ Microsoft มากกว่าทำเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และนี่เป็นการทรยศต่อข้อตกลงการก่อตั้ง OpenAI ตั้งแต่แรกเริ่ม
คดีนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบังคับให้ OpenAI ยึดติดกับภารกิจดั้งเดิมในการสร้าง AI เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ นอกจากนี้ยังพยายามหยุด OpenAI ไม่ให้สร้างรายได้จากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นภายใต้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อประโยชน์ของผู้บริหาร และพันธมิตรเช่น Microsoft นอกจากนี้ Elon Musk ยังขอให้ OpenAI บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการวิจัยที่เป็นประโยชน์แก่สาธารณะอีกด้วย
คำอธิบายจาก OpenAI
Jason Kwon ผู้บริหารระดับสูงของ OpenAI ปฏิเสธข้อเรียกร้องหลายประการที่ Elon Musk ฟ้อง โดยยืนกรานในบันทึกถึงพนักงานว่า บริษัทยังคงเป็นอิสระ มุ่งมั่นที่จะสร้างประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ และยังพัฒนา AGI ที่มันเป็นขั้นกว่าของ AI ไม่สำเร็จ นอกจากนี้ Jason Kwon ยังโต้ Elon Mask โดยแยกออกเป็น 3 ประเด็น
ข้อกล่าวหาที่ 1 : GPT-4 คือ AGI
คำอธิบายจาก OpenAI : GPT-4 สามารถแก้ปัญหางานเล็กๆ ในหลายงานได้ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับงานที่มนุษย์ทำแล้ว ยังแตกต่างกันมาก และประเด็นสำคัญคือ AGI จะเป็นระบบที่เป็นอิสระ สามารถหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆ ได้ แต่ GPT-4 ทำไม่ได้
ข้อกล่าวหาที่ 2 : OpenAI ได้ละทิ้งภารกิจในการสร้าง AI เพื่อประโยชน์แก่มนุษยชาติ
คำอธิบายจาก OpenAI : ความท้าทายของเราคือทั้งการสร้าง AGI และมั่นใจว่ามันจะส่งผลกระทบที่เป็นบวกมากที่สุด OpenAI พบว่าการสร้างเทคโนโลยี และการทำให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้ในวงกว้างเป็นคำตอบที่ดีที่สุด และยังทำให้อยู่ในกรอบของจริยธรรมตามที่สังคมเรียกร้อง
ข้อกล่าวหาที่ 3 : การทำหน้าที่เป็นบริษัทในเครือของ Microsoft
คำอธิบายจาก OpenAI : Jason Kwon อธิบายว่า OpenAI มีอำนาจในการตัดสินใจ วิจัย พัฒนา และบริหารบริษัท อีกทั้งยังเป็นคู่แข่งขันโดยตรงกับ Microsoft ในด้านธุรกิจ OpenAI มี ChatGPT ในขณะที่ Microsoft มี Copilot
ผลกระทบจาก กรณีที่ Elon Musk ยื่นฟ้อง OpenAI
นี่คือข้อกล่าวหาของ Elon Mask และคำอธิบายของ OpenAI แต่การฟ้องนี้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ยังต้องดูกันไปอีกไกล มันดูเหมือนบริษัทใหญ่ตีกันก็จริง แต่ AI ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของเรามากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าผลของคดีจะออกมาแบบไหน ก็น่าจะส่งผลถึงบริการของ AI ในอนาคตแน่นอน
สหรัฐผ่านกฏหมายแบน TikTok หรือบังคับขาย
สภาล่างหรือ สส. ของสหรัฐอเมรกาได้ผ่านร่างกฏหมายที่บังคับให้ ByteDance บริษัทแม่ของแอป TikTok ต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ภายใน 6 เดือน และถ้าไม่ยอมขาย TikTok จะโดนแบนโดยระงับการดาวน์โหลดแอปในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างความกังวลให้กับผู้ใช้ TikTok ในอเมริกาเป็นอย่างมาก
กฏหมายฉบับนี้ถูกโหวตผ่านด้วยคะแนน 352 ต่อ 65 เสียง ด้วยเหตุผลดังนี้
- กังวลว่า TikTok ที่เป็นบริษัทของจีนจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ทำให้รัฐบาลจีนนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์
- รัฐบาลจีนจะใช้ TikTok โฆษณาชวนเชื่อของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ถึงแม้ว่า TikTok ปฏิเสธเสียงแข็งในเรื่องนี้มาตลอด และเคยชี้แจ้งไปแล้ว แต่ก็ยังมีหลายกรณีที่ทำให้ชวนสงสัยในเรื่องนี้ เช่นในช่วงปลายปี 2022 ผู้สื่อข่าวหญิงชาวอังกฤษคนหนึ่งพบว่า เธอถูกติดตามสืบข้อมูลส่วนตัว ผ่านบัญชีติ๊กตอกที่เกี่ยวกับแมวของเธอ หรือในปี 2023 ภาครัฐหลายแห่ง เช่น รัฐบาลและรัฐสภาของสหราชอาณาจักร, สหภาพยุโรป, รวมทั้งทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ของตนใช้งาน TikTok ในโทรศัพท์ที่ใช้ทำงาน
การโต้กลับของ TikTok
TikTok ได้ออกมาตอบโต้ในเรื่องนี้ โดยซีอีโอของ TikTok คุณ Shou Zi Chew เขาได้โพสต์คลิปใน TikTok ตอบโต้ร่างกฏหมายฉบับนี้ สรุปได้ว่า ข้อมูลของผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐอเมริกา ถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัย และถ้า TikTok โดนแบนขึ้นมาจริง ๆ จะทำให้ครีเอเตอร์ และธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากต้องเสียรายได้หลายพันล้านเหรียญ และคนอีกกว่าสามแสนคนต้องเสี่ยงที่จะตกงาน และ TikTok ก็จะยังคงสู้ต่อไป
อนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ
หลังจากนี้ร่างกฎหมายฉบับนี้ก็จะถูกส่งไปยังสภาสูงหรือ สว. ให้พิจารณา และถ้าผ่าน ประธาณาธิปดี Joe Biden ก็จะพิจารณาลงนามเพื่อบังคับใช้ในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งประธาณาธิปดี โจ ไบเดน ก็ได้ออกมาบอกแล้วว่า เขาจะลงนามแน่นอน
@tiktokResponse to TikTok Ban Bill
นักการเมืองสหรัฐฯ มีแอคเคาท์ TikTok
การผ่านกฏหมายด้วยคะแนน 352 ต่อ 65 เสียง และคำสัญญาว่าจะเซ็นผ่านร่างกฏหมายจากประธานธิปดี ทำให้ดูเหมือนว่านักการเมืองสหรัฐฯ กำลังร่วมมือกันแบน TikTok แต่รู้ไหมว่า TikTok กลับถูกใช้เป็นช่องทางสำคัญสำหรับการหาเสียง
ทั้ง โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐขณะนี้ และโดนัลด์ ทรัมป์ผู้ท้าชิง ทั้งคู่ต่างมีบัญชีทางการของ TikTok และใช้ TikTok นี้เพื่อเข้าหาฐานเสียงที่เป็นคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังบัญชีของพรรค และนักการเมืองคนอื่น ๆ ด้วย ส่วนกองเชียร์ทั้งสองคนก็ช่วยกันโพสต์คลิปเชียร์กันรัว ๆ
แต่มันก็แปลกที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่า TikTok อาจจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้รัฐบาลจีนก็ได้ แต่ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิปดีทั้งสองคนกลับมีบัญชี TikTok ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่สหรัฐฯ แบน TikTok ในครั้งนี้ มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
Apple โดนฟ้องจาก USA และ EU
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และอีก 15 รัฐยื่นฟ้องบริษัท Apple โดยกล่าวหาว่าแอปเปิลผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟน และใช้อำนาจในตลาดนำมาซึ่งรายได้ที่มากขึ้นจากผู้บริโภค นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้ผลิตคอนเทนต์ ศิลปิน นักเขียน ธุรกิจรายย่อย และพ่อค้าแม่ค้า ส่งผลให้เป็นการจำกัดทางเลือกทั้งของผู้บริโภคและคู่แข่ง
รายละเอียดของการฟ้องระบุว่า แอปเปิล ละเมิดมาตรา 2 ของกฎหมายป้องกันการผูกขาด โดยแอปเปิลมีพฤติการณ์ขัดขวางการค้าที่เป็นธรรม 2 กรณีหลักๆ คือ
- การกำหนดข้อจำกัดในสัญญา ที่ทำให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ต้องจำกัดฟีเจอร์ที่จะให้บริการกับผู้ใช้ไอโฟนได้
- แอปเปิลเลือกปฏิบัติต่อแอปฯ ภายนอก โดยจำกัดการเข้าถึงระบบปฏิบัติการ ทำให้ลดทอนคุณภาพการใช้งานของแอปฯ และอุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช่ของแอปเปิล ทำให้ไม่ดึงดูดลูกค้า และขัดขวางการเติบโตของแอปฯ ใหม่ๆ
นอกจากนี้แอปเปิลยังได้ส่วนแบ่งกว่าร้อยละ 30 ของราคาแอปฯ ต่างๆ จาก App Store รวมถึงการจ่ายค่าบริการหรือค่าสมาชิกร่วม 15 ปีที่ผ่านมา
แต่ในอีกมุมนึงก็มีนักวิเคราะห์มองว่า การฟ้องครั้งนี้เป็นเรื่องทางการเมือง เพราะสหรัฐฯ กำลังจะจัดการเลือกตั้งประธานาธิปดี รัฐบาลของ โจ ไบเดน อาจจะดำเนินคดีเพื่อสร้างภาพให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังจัดการกับบริษัทยักษ์ใหญ่เพื่อหาเสียง
EU ตัดสินให้ Apple แพ้คดีที่โดน Spotify ฟ้อง
ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2024 แอปเปิลเพิ่งโดนคณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับเงิน 1.8 พันล้านยูโร หรือเกือบ 7 หมื่นล้านบาท โทษฐานทำผิดกฎการแข่งขันในสตรีมมิงดนตรี โดยผู้ที่ยื่นร้องเรียนก็คือ Sportify
ที่แอปเปิลโดนลงโทษฐานก็เพราะว่า ห้ามผู้ให้บริการสตรีมมิง แจ้งผู้ใช้ถึงช่องทางการชำระเงินอื่นๆ เหนือจาก App Store ซึ่งจะต้องเสียค่าธรรมเนียมถึง 30% ให้กับแอปเปิล ซึ่งหลังจากนี้ แอปเปิลจะต้องยกเลิกข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
แถลงการโต้ตอบจาก Apple
แต่แอปเปิลก็ออกคำแถลงโต้ตอบ Spotify ว่าคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการตัดสินนี้คือ Spotify ที่มีส่วนแบ่งตลาด 56% มากกว่าคู่แข่งเบอร์สองเกือบสองเท่า และ Spotify ก็ไม่เคยจ่ายค่าตอบแทนให้กับแอปเปิลเลย เช่น การเข้าถึง API, เครื่องมือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น, TestFlight มากกว่า 500 เวอร์ชัน, กระบวนการอนุมัติแอป 421 เวอร์ชัน นอกจากนี้ แอปเปิล ยังบอกว่าตั้งแต่ปี 2022 App Store ได้เพิ่มเงื่อนไขใช้งานแอปกลุ่ม Reader สามารถแทรกลิงก์ไปจ่ายที่เว็บไซต์ของตนเองได้ ซึ่ง Spotify ก็ทำแบบนี้ได้ แต่เลือกไม่ทำเพราะ Spotify ต้องการแทรกราคาสมาชิกในแอปเลย ไม่ใช้ระบบจ่ายเงินของ App Store
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่แอปเปิลเจอเรื่องแบบนี้นั้นก็เพราะ มือถือ iPhone ครองตลาด แล้วแอปเปิลก็เติบโตอย่างมากจนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกไปแล้ว แต่การฟ้องที่เกิดขึ้นนี่ จะทำให้ผู้ใช้ iPhone iPad ได้รับผลกระทบมากแค่ไหน เราก็ต้องรอดูกันต่อไป
ชมรายการ Digital Thailand ตอน ” บริษัทเทคฯ ถูกฟ้อง ทั้ง Apple TikTok และ OpenAI เกิดอะไรขึ้น? ” ได้ที่รายการย้อนหลังตอนนี้เลย
https://www.it24hrs.com/2024/apple-tiktok-openai-sued/
ออกอากาศวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2567
ในรายการ Digital Thailand ทุกวันเสาร์ ทางช่อง 3 กด 33 เวลา 4.40-5.05 น.
ยังมีบทความที่น่าสนใจ
ผสมอิโมจิ ง่ายๆ มี Emoji น่ารักๆ ใช้เป็นของตัวเอง
OpenAI และ Microsoft โดนฟ้อง ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของ New York Times
Universal Music ขู่ถอดเพลงออกจากแอป TikTok มีผล 1 กุมภาพันธ์ 2024
Apple ยกเลิกผลิตรถ EV หลังพัฒนาและทดสอบนาน 10 ปี
อย่าลืมกดติดตามอัปเดตข่าวสาร เทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs
ติดต่อโฆษณา [email protected] โทร 0802345023