M-Flow ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะ ซึ่งเคยได้ยินหรือเคยอ่านมาแล้ว ในบทความ ระบบ M-Flow คืออะไร ช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้อย่างไร ซึ่งทำให้คุณได้รู้จักระบบใหม่อย่าง M-Flow มากขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกำลังเป็นจริงแล้ว และตั้งเป้าภายในปี 2564 ทุกด่านจะไม่มีไม้กั้น และการเก็บเงินจะมีบริษัทเอกชนบริหารจัดการระบบหลังบ้านให้ เช่น เก็บค่าผ่านทางหรือติดตามทวงหนี้ กรณีมีผู้ไม่จ่ายค่าผ่านทาง จะทำให้ กทพ.และกรมทางหลวงเก็บรายได้เต็ม 100% นอกจากนี้จะเสนอการเพิ่มโทษผู้ที่ไม่จ่ายค่าผ่านทางเข้าไปใน พ.ร.บ.การจราจร โดยมีโทษปรับ 10 เท่า
M-Flow ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะ หรือทางด่วนไม่มีช่องผ่านทาง ไม่มีไม้กั้น เริ่มนำร่องที่ มอเตอร์เวย์ทับช้าง-ธัญบุรี โดยจะทดสอบช่วงสิ้นปี 2563 และปีใหม่ 2564 จากนั้นจะเริ่มทดสอบทางด่วนฉลองรัช ไปจนครบทุกด่าน โดยทันทีที่ผ่านด่านแล้ว จะมีกล้องตรวจจับป้ายทะเบียนอัตโนมัติ และแจ้งเตือนผ่านแอปบนมือถือ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และหน่วยงานด้านทางด่วน โทลเวย์ ต้องชี้แจงและอธิบายให้ผู้ใช้บริการทางด่วนเข้าใจด้วย
ล่าสุด นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย กระทรวงคมนาคมเตรียมนำร่องใช้ระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะรูปแบบใหม่ M-Flow แก้รถติดขัดบนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ ลดความแออัดของรถบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับผู้ใช้บริการ โดยกรมทางหลวง จะนำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ในช่วงต้นปี 2564 โดยปรับปรุงด่านนำร่องจำนวน 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ในขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จะนำร่องบนทางพิเศษฉลองรัช บริเวณด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านรามอินทรา
ทั้งนี้ ระบบ M Flow เป็นการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ แทนการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบระบบไม้กั้น ทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. ช่วยระบายรถได้ 2,000 -2,500 คัน/ชม./ช่องทาง เร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า รองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภทที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือทางพิเศษ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป ชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หลังการใช้บริการ หรือ ระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้งหรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์หรือโมบายแอปพลิเคชั่นของระบบ M-Flow ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ
นางสาวไตรศุลี ฯ ย้ำว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ทุกส่วนราชการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมา ตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนางานบริการประชาชนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ในปีหน้าผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 และทางพิเศษฉลองรัช จะได้สัมผัสมิติใหม่ของการให้บริการ ซึ่งกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศ ยังจะเตรียมขยายผลนำระบบ M Flow ไปใช้กับทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและทางพิเศษในเส้นทางอื่นๆต่อไป
อย่างไรก็ตามจากที่ได้สังเกตความเห็นบน facebook และ twitter เกี่ยวกับการหันมาใช้ระบบ M-Flow พบประเด็นข้อสังเกตที่น่าสนใจดังนี้
ข้อดีหากใช้ระบบ M-Flow
– ไม่ต้องชะลอรถที่หน้าด่าน เหมือนตอนจ่ายค่าทางด่วนหรือสแกน EASY PASS ซึ่งทำให้เสียเวลา
– ไม่มีช่องเก็บเงินแบบหลายช่องจราจร
– แก้ปัญหารถติดสะสมบริเวณหน้าด่านเก็บเงิน
– ใช้เวลาในการเดินทางน้อยลง / เปลืองน้ำมันน้อยลง ถึงบ้านหรือที่หมายได้เร็วขึ้น
– ทางด่วนสามารถรับรถได้ในปริมาณมากขึ้น
– ตรวจสอบรถที่วิ่งผ่าน ว่าเลขทะเบียนตรงกับที่ขนส่งหรือไม่
ข้อเสียของระบบ Free Flow
– หากระบบขัดข้อง จะทำให้ทางด่วนเสียรายได้มหาศาล
– อาจมีข้อผิดพลาดในการจับทะเบียนรถยนต์ เช่นตรวจจับไม่ติด กับประเด็นสวมรอยป้ายทะเบียน
– มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น เนื่องจากรถไม่ชะลอความเร็ววรถ รถวิ่งด้วยความเร็วสูง
– พนักงานเก็บค่าทางด่วนต้องปรับไปทำงานอย่างอื่นที่ไม่ใช่เก็บเงินแบบเดิมๆแล้ว ซึ่งมีมากถึง 2,000 คน
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กทพ. ไม่มีนโยบายเอาพนักงานเก็บค่าทางด่วนออก โดยจะฝึกอบรม และให้ไปทำงานอื่นแทน
อ้างอิง คนภูมิใจไทย , รัฐบาลไทย cover : Google Street View