เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 กรมการขนส่งทางบกโดย นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก และ AIS นำโดย นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อสนับสนุนการบริการเครือข่ายสัญญาณพร้อมพัฒนาระบบสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อตอบสนองนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลสนับสนุนการดำเนินโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนของประเทศ
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้เป็นการดำเนินงานร่วมกันเพื่อสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ส่งเสริมการดำเนินกิจการของภาคธุรกิจโลจิสติกส์และเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือสนับสนุนจูงใจผู้ประกอบการรถโดยสารรถบรรทุก และรถแท็กซี่ รวมถึงรถตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ติดตั้ง GPS Tracking เพื่อติดตามการเดินรถกรมการขนส่งทางบก และ เอไอเอส จึงได้ตกลงร่วมมือกันเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศและรูปแบบการทำงานที่ตอบสนองและรองรับการทำงานของระบบ GPS Tracking เช่น บริการเครือข่ายส่งสัญญาณผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูง หรือบริการอื่นๆ ในอัตราพิเศษ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการในการเลือกใช้บริการเครือข่ายสัญญาณที่มีคุณภาพ รวมถึงเป็นมาตรการในการลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการ ผ่านการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบและสร้างสรรค์สังคม ถือเป็นการคืนกำไรสู่สังคมด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบ GPS Tracking ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการบริหารจัดการที่สำคัญ ทั้งเรื่องความปลอดภัย พฤติกรรมการใช้รถใช้ถนน การจัดการปัญหาการจราจร พิกัด ความเร็ว ชั่วโมงการใช้รถ ข้อมูลการประกอบการขนส่ง การใช้พลังงาน ศักยภาพการขนส่ง ต้นทุนการเดินรถ ตลอดจนต้นทุนโลจิสติกส์ นำไปสู่การพัฒนาสังคม เศรษฐกิจที่มีโครงสร้างภูมิคุ้มกันด้วยฐานข้อมูลที่เป็นระบบ ซึ่งนับได้ว่าความร่วมมือระหว่าง กรมการขนส่งทางบก และ AIS จะเป็นการยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลโครงข่ายร่วมกันอย่างครบวงจรทั้งศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วไทย ผู้ประกอบการขนส่ง เจ้าของรถ และประชาชน และเป็นมิติสำคัญของการบริหารจัดการเชิงป้องกันด้วยระบบเฝ้าระวัง สร้างโครงข่ายการคมนาคมที่มีคุณภาพ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ประชาชนมีความมั่นใจทั่วไทย เพราะรถทุกคันใช้ GPS เพื่อควบคุมการขับขี่ให้มีความปลอดภัยสูงสุด ผู้ประกอบการมีระบบบริหารจัดการรถและใช้ประโยชน์จากระบบ GPS ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ “โครงการมั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันลดปัญหาและความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยมีจุดเด่นที่การบริหารจัดการร่วมกันแบบ 360 องศาด้วยฐานข้อมูล Online แบบ Real-timeประกอบด้วย ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS กลางที่กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย ตลอดจนประชาชน สังคมสาธารณะสามารถติดตามการเดินรถผ่าน Application : DLT GPS บนโทรศัพท์มือถือ ทั้งระบบปฏิบัติการ iOSและ Androidทั้งนี้ รถโดยสารทุกประเภทจะติดตั้งครบทุกคันภายในปี 2560 นี้ ส่วนรถบรรทุกตั้งแต่สิบล้อขึ้นไปครบทุกคันภายในปี 2562 สำหรับการติดตั้ง GPS Tracking ผู้ประกอบการสามารถเลือกบริษัทที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกจำนวน 93 บริษัท และมีจำนวนรุ่น GPS Tracking ที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก จำนวน 228 รุ่น และจากความร่วมมือกับ AIS ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเครือข่ายการส่งสัญญาณที่มีประสิทธิภาพที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประโยชน์จากระบบ GPS Tracking ช่วยให้กรมการขนส่งทางบกและผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากระบบ GPS Tracking นำไปสู่การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศรวมทั้งความตกลงนี้จะได้เป็นการสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานและการให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะตามโครงการ TAXI OK และ TAXI VIP ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้
ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล กลายเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับและเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง AIS ในฐานะผู้ให้บริการ Digital Infrastructure มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจไทยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในการทำงานเพื่อยกระดับคุณภาพเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวคิด Digital for Thais เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ The Next Generation Thailandซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมการขนส่งทางบก ในครั้งนี้ เอไอเอสมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากกรมการขนส่งทางบกร่วมลงนามความร่วมมือนำเครือข่ายดิจิทัล ทั้ง 3G, 4Gและ 4.5G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ มาเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการทำงานของระบบติดตามรถผ่านระบบ GPS ซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลกับศูนย์บริหารจัดการของกรมการขนส่งทางบกได้แบบเรียลไทม์
ด้วยศักยภาพเครือข่ายไร้สายของ AIS จึงเหมาะสมต่อการใช้งาน GPS Tracking เนื่องจากมีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงมั่นใจได้ว่า ผู้ใช้บริการจะสามารถใช้งานระบบติดตามยานพาหนะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงในทุกพื้นที่ของประเทศไทย อันเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการการขนส่งให้กับผู้ประกอบการ”