บทความโดย พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการ
ตื่นเถิดชาวไทย!!!
ในปี 2017 นี้ เทคโนโลยีจำนวนมากจะเปลี่ยนจากที่อยู่เพียงแค่ในนิยายมาเป็นผลิตภัณฑ์ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยหัวใจสำคัญของแนวโน้มเทคโนโลยีในปีนี้คือ “ปัญญาประดิษฐ์ (AI)” อย่างไรก็ตาม ยังมีเทคโนโลยีในรูปแบบอื่นๆอีก ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้
ในขณะที่แอพพลิเคชัน AI ถูกฝังอยู่ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ การเงิน โลจิสติกส์ และการแพทย์ เป็นต้น ได้มีการคาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวของ AI ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานของเกือบทุกภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ปัญญาประดิษฐ์ของทุกสรรพสิ่ง (AI of Everything) นั่นเอง
Tom Morrod ผู้อำนวยการอาวุโสแห่ง HIS Markit กล่าวว่า พวกเขามีความสนใจในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์และวิธีการนำมาใช้สำหรับผู้บริโภค เช่น วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มากขึ้น สำหรับการโฆษณาและในแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่นยานยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เอง, โดรน และหุ่นยนต์ เป็นต้น
รายได้จากตลาด AI ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 643.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2016 เป็น 38.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2025 โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Tractica และจากรายงานของ ABI Research พบว่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) และความจริงเสมือน (VR) จะมีการผลิตเพื่อใช้งานถึงประมาณ 37 ล้านเครื่องในปี 2018
การออกแบบอย่างจริงจังและการปรับใช้เทคโนโลยีดูเหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้น การใช้งานเชิงพาณิชย์จะเห็นได้ชัดเจนขึ้นในปีนี้ ในการใช้งานของภาคอุตสาหกรรมและวิชาชีพต่างๆ เช่น การฟื้นฟูทางการแพทย์ ภาพยนตร์อินเทอร์แอกทีฟ การค้าปลีกและโลจิสติกส์ เป็นต้น
ในอุตสาหกรรมโลจิสติก กำลังจะถูกท้าทายจาก AI of Everything ทั้งนี้หาก AI+IoT+Cloud+Big data+Blockchain สามารถหลอมรวมกันเพื่อสร้างนวัตกรรมโลจิสติกส์รูปแบบ startup ใหม่ๆที่ทรงพลัง ก็อาจจะทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์เดิมๆ ถูกท้าทายด้วยรูปแบบโลจิสติกส์ใหม่ ที่ realtime กว่า, ต้นทุนต่ำกว่า, บริหารจัดการง่ายกว่า, ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีกว่า ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากในอนาคตอันใกล้
นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมจาก CIO คาดการณ์ว่าตลาดคลาวด์ทั่วโลกจะมีมูลค่า 146 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 87 พันล้านเหรียญในปี 2015 โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 22% ซึ่งก็เกิดจากการสื่อสารข้อมูลของ IoT ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดนั้นเอง ซึ่งมันคือสัญญาณที่ทำให้สรรพสิ่งต่างๆในโลก สามารถตรวจหาตำแหน่งและบริหารจัดการได้อย่าง realtime ด้วยความง่ายดาย นั่นเอง
เมื่อต้องเผชิญกับการเติบโตที่เกิดขึ้น การบริการคลาวด์ ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน มีการคาดว่าจะมีแนวโน้มไปสู่ Meta-cloud ที่กลุ่มคลาวด์หลายกลุ่มสามารถเข้าถึงได้จาก Single web interface นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลในระดับ Big data กำลังขยับเข้าใกล้ผู้ใช้ปลายทางมากขึ้น ซึ่งมีการเพิ่มความเร็วและแบนด์วิธที่มากขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ IoT นับหมื่นล้านเครื่องในภายในปี 2020 ทำให้บริษัทต่างๆ ตระหนักถึงความจำเป็นในการใช้ low-power wide-area network (LPWAN) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กมากๆ ในการขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมการเชื่อมต่อ IoT
IoT ขึ้นอยู่กับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายที่น่าเชื่อถือ แม้แต่ในพื้นที่ห่างไกล และแม้แต่เมื่อมีพลังงานต่ำ โดยการถ่ายโอนข้อมูลก็จะยังสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปี 2017 จะเป็นปีแห่งเทคโนโลยี LPWAN ที่รองรับผู้ดำเนินการด้านโทรคมนาคม ให้สามารถใช้แอพพลิเคชั่น Low-bit-rate ได้ นั่นก็หมายความว่า สรรพสิ่งต่างๆ กำลังจะถูกเชื่อมต่อด้วยต้นทุนที่ต่ำมาก นั่นเอง
IHS Markit คาดการณ์ว่า การใช้ LPWAN ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 46.4 ล้านหน่วยในปี 2017 เป็น 383 ล้านหน่วยภายในปี 2021 โดยตัวอย่างของประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ ได้แก่ มาตรวัดในชนบท อาคารอัจฉริยะ และเซ็นเซอร์ตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเทคโนโลยี Narrowband IoT (NB-IoT) และเครือข่าย LTE Cat-M ที่จะใช้งานในปี 2017 จะส่งผลให้มีการใช้ IoT ได้เพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้มาก่อน จึงทำให้ระบบโลจิสติกส์ในอนาคตมีความชาญฉลาด และบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น จนทำให้เกิด startup ใหม่ๆได้ง่ายขึ้น นั่นเอง
การเติบโตของสมาร์ทโฟนอย่างแพร่หลาย ต้นทุนที่ต่ำลงและนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง กำลังมีผลอย่างมากต่อรูปแบบใหม่ของอุปกรณ์สมาร์ทโฟน นาฬิกาอัจฉริยะ ชุดหูฟัง VR แว่นตาอัจริยะ และหุ่นยนต์ต่างๆ ซึ่งจะปรากฏตัวสู่ตลาดโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็ว นั่นก็จะทำให้ AI of Everything เกิดความสมบูรณ์แบบและเป็นจริง
ชุดหูฟังของโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เปลี่ยนไปสู่การใช้ในยานพาหนะ โดยหน้าจอสมาร์ทโฟนก็มีให้เห็นในอุปกรณ์ที่สวมใส่ได้ และวิทยุจากสมาร์ทโฟนที่มีการเชื่อมต่อสำหรับ IoT โดยเทคโนโลยี IoT นี้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ถูกกว่า จัดการได้ง่ายกว่า และสามารถคาดการณ์ได้ดีขึ้นจากการเก็บข้อมูล Big data จนขีดความสามารถใหม่ๆของมัน อาจจะมา disrupt สิ่งต่างๆ รวมทั้งธุรกิจรูปแบบเดิมๆ จนหายไปจากตลาดได้อย่างน่ากลัว… ตื่นเถิดชาวไทย!!!
Reference
[1] https://itu4u.wordpress.com/2017/02/06/top-tech-trends-of-2017-the-ai-of-everything/
[2] https://www.techinasia.com/yojee-ai-logistics-profile
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
รองประธาน กสทช. และประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม
30 พฤษภาคม 2560
www.เศรษฐพงค์.com
หากท่านสนใจความรู้ด้านดิจิทัล
เข้าร่วมกับเราและทักเข้ามาที่
LINE id : @march4G