ในปีนี้ก็เจอเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และรูปแบบธุรกิจมากมาย ลองมาดู เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2559 (หรือปี 2016) ว่าจะมุ่งไปในทิศทางไหน เพื่อรู้ไว้ เตรียมวางแผนปรับตัวเข้ากับเทรนด์กัน
ข้อมูลจาก IDC ประเทศไทยได้เปิดเผยเทรนด์ 10 แนวโน้มสำคัญภาคธุรกิจและเทคโนโลยีในประเทศไทย ที่จะเกิดขึ้นในปี 2559-2560 ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจที่น่าจับตามองและเตรียมปรับตัวดังนี้
1. ดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชัน
ภายในสิ้นปี 2560 กว่าครึ่งขององค์กรในประเทศไทยจะเริ่มกระบวนการดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชัน
ดิจิตอลทรานส์ฟอร์มเมชัน จะเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการลงทุนทางไอทีขององค์กรในปี 2559 เป็นต้นไป โดยดิจิตอลทรานส์ฟอร์มเมชันนั้นเป็นการนำเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรุ่นที่ 3 นำมาพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้น เชื่อว่ากลยุทธ์ทรานส์ฟอร์เมชันจะมุ่งเน้นไปที่ความชำนาญด้านดิจิตอลทั้งในเรื่องของความสัมพันธ์ การปฏิบัติงาน และสินค้าหรือบริการที่มีฐานมาจากข้อมูล
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการที่ร้านค้า โรงแรม หรืออุตสาหกรรมบริการบางประเภทใช้การผสมผสานกันของเทคโนโลยีโมบิลิตี้ บิ้กดาต้า และ คลาวด์เพื่อเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจที่ดีที่สุดและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งนี้ในอีก 2 ปีข้างหน้า องค์กรจำนวนมากจะมีการทำดิจิตอลทรานส์ฟอร์มเมชันในระดับที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งจะสร้างผลกระทบอย่างมากมายให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป
2. คลาวด์จะกลายเป็นการลงทุนพื้นฐานทางด้านไอที
ภายในปี 2561 การลงทุนด้านคลาวด์จะมีสัดส่วนเป็นอย่างน้อยหนึ่งในสี่ของค่าใช้จ่ายด้านไอทีทั้งหมด และภายในปี 2563 30% ของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีทั้งหมดจะเกี่ยวข้องกับคลาวด์ ในขณะที่สัดส่วนของคลาวด์จะสูงถึง 30-35% ของค่าใช้จ่ายด้านซอฟต์แวร์ เซอร์วิส และเทคโนโลยีทั้งหมด
ในปี 2559 นั้นองค์กรต่าง ๆ มีความจำเป็นจะต้องพัฒนาขีดความสามารถในการใช้งานบริการผ่านคลาวด์ โครงการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแพลตฟอร์มรุ่นที่ 3 หรือดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชันในเชิงธุรกิจนั้นจะเกิดขึ้นได้ยาก หากไม่มีคลาวด์เป็นพื้นฐาน ซึ่งหมายความว่าองค์กรเหล่านั้น จะต้องเพิ่มการใช้บริการผ่านคลาวด์ขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีข้างหน้า
ภายในปี 2563 การใช้จ่ายขององค์กรสำหรับบริการผ่านคลาวด์ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อซัพพอร์ทบริการผ่านคลาวด์ และการบริการเพื่อใช้งานและจัดการบริการผ่านคลาวด์จะมีมูลค่าสูงกว่า 350 ล้านดอลลาห์สหรัฐซึ่งถือเป็นการเติบโดขึ้น 100% จากปัจจุบัน ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ที่เวนเดอร์ผลิตก็จะเป็นแบบ “คลาวด์เฟิร์ส” เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงของบริการผ่านคลาวด์จากความเป็นสถาปัตยกรรม “ใหม่” ไปสู่ความเป็นเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานนั้นจะมีนัยสำคัญสำหรับผู้นำด้านไอทีและธุรกิจ
3. ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะเพิ่มขึ้นอีก 25 ล้านคน
ภายในปี 2561 ประเทศไทยจะมีผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตด้วยสมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์แรกเป็นจำนวน 50 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 73% ของประชากรทั้งหมด
การที่มีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตกว่า 50 ล้านคนนั้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นวงกว้างต่อองค์กรต่างๆ พบเห็นการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทางธุรกิจภายในองค์กร เช่น กลยุทธ์และการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับสมาร์ทโฟน องค์กรต่าง ๆ ต้องสร้างวิธีใหม่ๆ ในการนำเสนอสินค้าและบริการผ่านทางมือถือมากขึ้นแบบโมบายล์เฟิร์ส การปรับให้เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่น และการนำเครือข่ายสังคมออนไลน์มาใช้เป็นมิติใหม่ในการมีส่วนร่วมของลูกค้า การเปลี่ยนแปลงนี้ยังผลักดันให้เกิดการใช้ระบบคอกนิทีฟในการวิเคราะห์ การรองรับการใช้งานแบบออฟไลน์ และประสิทธิภาพของบิ้กดาต้าอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลทั้งที่มีอยู่ และที่เกิดขึ้นใหม่นั้นจะถูกจัดเก็บในรูปแบบดิจิตอลซึ่งพร้อมใช้งานได้ทันทีเพื่อตอบสนองผู้ใช้ 50 ล้านราย
4.รูปแบบธุรกิจแบบใหม่จะประสบความสำเร็จ
ภายในปี 2560 กว่า 20% ขององค์กรขนาดใหญ่จะได้รับผลกระทบจากนวัตกรรมทางโมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่นี้ และจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานอย่างแน่นอน
ในอดีตนั้นผลกระทบต่าง ๆ มักเกิดจากนวัตกรรมทางสินค้าและบริการ แต่อินเทอร์เน็ตและองค์ประกอบของแพลตฟอร์มรุ่นที่ 3 นั้น จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างรูปแบบการนำเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่างไปจากเดิมได้ ในไม่ช้าธุรกิจแบบเดิมจะได้รับผลกระทบจากธุรกิจแบบใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกิดจากการนำทรัพยากรที่ไม่ได้รับการใช้งานเต็มที่ต่าง ๆ มารวมเข้าไว้ด้วยกัน จนก่อให้เกิดสินค้า บริการ และตลาดใหม่ที่ตัวเองเป็นเจ้าของผู้เดียวได้
Uber และ Airbnb เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของธุรกิจแบบใหม่ที่มีการขยายฐานลูกค้า และ ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และกำลังสร้างผลกระทบต่อธุรกิจรูปแบบเดิม คาดว่าจะพบเห็นธุรกิจใหม่ในลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น และธุรกิจรูปแบบเดิมต้องปรับตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ภายในปี 2560 ผู้นำในภาคอุตสาหกรรมค้าปลีก 10 อันดับแรก จะมีการใช้การตรวจสอบหลายขั้นตอนสำหรับการชำระเงินในร้าน โดยระบบ Near Field Communication (NFC) สแกนนิ้วมือ และไร้สัมผัสจะมีบทบาทที่สำคัญ
ภายในตุลาคม 2561 นโยบาย “การปรับภาระความรับผิดชอบ” จะมีผลบังคับใช้ในประเทศไทย และทำให้ร้านค้าทั่วประเทศต้องระวางโทษต่อการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับบัตรเครดิตในร้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าการละเมิดความปลอดภัยนั้น ส่งผลกระทบต่อลูกค้านับล้านรายและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งร้านค้าปลีกในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นขนาดใดต่างก็มีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากการซื้อขายส่วนมากนั้นเกิดขึ้นภายในร้าน แน่นอนว่าร้านค้าปลีกมีหน้าที่ป้องกันการฉ้อโกง ทั้งนี้ยังมีร้านค้าออนไลน์อีกหลายร้านต้องทำให้การซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ตมีความปลอดภัยด้วย หนึ่งในช่องโหว่ที่พบบ่อยคือการตรวจสอบตัวตนโดยเฉพาะกระบวนการการตรวจสอบการชำระเงินและการอนุมัติ การตรวจสอบหลายขั้นตอนนี้สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการฉ้อโกงได้ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการเข้าถึงลูกค้าใดๆ ก็ตาม
ในปี 2560 ร้านค้าปลีกรายใหญ่ต่าง ๆ จะนำระบบชำระเงินในบริเวณใกล้เคียงมาใช้โดยเฉพาะระบบที่ใช้ NFC ระบบดังกล่าวนี้จะช่วยผลักดันความสะดวกให้แก่การตรวจสอบหลายขั้นตอนอย่างมีนัยสำคัญ
6. เครื่องพิมพ์ประเภทสมาร์ทมัลติฟังก์ชัน
ภายในปี 2561 เครื่องพิมพ์ประเภทสมาร์ทมัลติฟังก์ชัน (Multifunction Printers – MFPs) จะกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ตอบโจทย์โซลูชันการพิมพ์จำนวนมากที่ใช้ในออฟฟิศขนาดใหญ่
ไม่นานมานี้ องค์กรต่างๆ เริ่มนำเอารูปแบบความสามารถขั้นสูงเข้าไปใช้กับกลุ่มเครื่องพิมพ์ประเภทมัลติฟังก์ชันผ่านสถาปัตยกรรมโครงสร้างของอุปกรณ์ ซึ่งเริ่มต้นจากความสามารถในการสแกนแบบพื้นฐาน และ/หรือสามารถรองรับการจัดการด้านเอกสารทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไอดีซีคาดว่าโซลูชันดังกล่าวจะได้รับการใช้งานแพร่หลายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเปลี่ยนอุปกรณ์สำหรับพิมพ์หรือทำสำเนามาเป็นอุปกรณ์สำหรับดำเนินงานแบบอัจฉริยะของเครื่องพิมพ์ประเภทมัลติฟังก์ชัน จะเด่นชัดมากขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า เมื่อองค์กรต่างๆ เริ่มคำนึงถึงขอบเขตความสามารถที่กว้างขึ้นของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้
การซัพพอร์ทด้านความปลอดภัย โมบิลิตี้ และคลาวด์จะกลายเป็นมาตรฐานหลัก โดยฟีเจอร์เหล่านี้ต่างช่วยส่งเสริมโครงสร้างอุปกรณ์การพิมพ์ให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุน และในขณะเดียวกันก็ยังผลักดันประสิทธิภาพขององค์กร องค์กรต่างๆ ที่ใช้งานเครื่องพิมพ์ประเภทนี้นั้นจะได้รับประโยชน์ทางธุรกิจสูงสุด
7. การเปลี่ยนสถานะของซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์
ดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชันที่กำลังเกิดขึ้นจะสร้างผลกระทบและแนวโน้มใหม่ๆ ตลอดจน ผู้เล่นรายใหม่เกิดขึ้นในตลาด ทำให้เกิดแรงกดดันอย่างมากต่อซัพพลายเออร์ไอทีแบบดั้งเดิมและผลักดันให้ผู้เล่นรายใหม่กลายเป็นผู้นำในตลาด ในช่วงหลายปีข้างหน้านั้นเราจะพบเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเวนเดอร์ โดยหนึ่งในสามของซัพพลายเออร์ชั้นนำในปัจจุบันจะมีการควบรวมกิจการ ลดขนาด หรือเปลี่ยนสถานะอย่างมีนัยสำคัญ ยกตัวอย่างดังนี้
- จะมีผู้ให้บริการผ่านคลาวด์อยู่เพียงไม่กี่รายซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 75-80%
- กลุ่มเทคโนโลยี IOT จะมีการควบรวมกิจการ
- บริษัท StartUp จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอีกมาก
เนื่องจากแพลทฟอร์มที่ 3 และดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชันจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีข้างหน้า ซัพพลายเออร์บางส่วนนั้นจะประสบความสำเร็จ ในขณะที่บางส่วนนั้นจะดับสูญไป
8. การเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคที่มากขึ้นในวงกว้าง
ในปี 2560 บริษัทไทยจะใช้บิ้กดาต้าเพื่อเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคที่มากขึ้น ทั้งทางอุปกรณ์พกพา ออมนิแชนแนล และโซเชียลมีเดีย องค์กรในไทยนั้นประสบความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น ผ่านการสร้างความผูกพันทางดิจิตอลกับลูกค้า ช่องทางเหล่านี้นั้นมีข้อมูลจำนวนมากซึ่งพร้อมสำหรับการวิเคราะห์เนื่องจากโครงสร้างและเครื่องมือที่หาได้ง่ายและมีราคาถูกกว่าเมื่อก่อน หากแต่ว่าช่องทางเหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพ เพราะขาดวิสัยทัศน์ และ ความรู้ความชำนาญด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล ในเรื่องวิทยาศาสตร์ข้อมูลนี้ องค์กร และสถาบันการศึกษาได้รับรู้ถึงการขาดแคลนความชำนาญดังกล่าว และ เริ่มสร้างความเชี่ยวชาญที่จำเป็นออกสู่ตลาด ในขณะเดียวกันมีเพียงไม่กี่องค์กรเท่านั้นที่เพิ่งจะเริ่มดำเนินกลยุทธ์บิ้กดาต้า ไอดีซีเชื่อว่าในปี 2560 บริษัทจะสามารถนำแนวความคิด “การเข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคที่มากขึ้นในวงกว้าง” มาใช้อย่างมีนัยสำคัญได้มากขึ้น
9. เน็กซ์เจนเนอเรชันซีเคียวริตี้และการจัดการความเสี่ยง
ภายในปี 2560 กว่า 30% ของฝ่ายไอที่ในองค์กรจะเปลี่ยนความสนใจจากการวางแนวกันด้านรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีระบบ มาเป็นมุ่งเน้น “จำกัดและควบคุม” ความเสียหายแทน
ในเมื่อองค์กรเริ่มกระบวนการทำดิจิตอลทรานส์ฟอร์เมชัน ย่อมมีการใช้งานเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่ 3 อย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งถึงแม้เทคโนโลยีใหม่ ๆ จะสามารถสร้างประโยชน์อย่างมากมาย แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นด้วย เนื่องจากทำให้ “พื้นที่” ที่สามารถถูกโจมตีได้ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อีกทั้งภัยคุกคามเองก็อันตรายขึ้นเรื่อย ๆ
นั่นหมายความว่าการสร้าง “แนวกั้น” เพื่อป้องกันการโจมตีนั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพอีกต่อไป แต่จะมาเน้นการ “จำกัดและควบคุม” ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแทน ผ่านการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มการตรวจตราด้านซีเคียวริตี้มากขึ้น
10. กลุ่มธุรกิจประกันภัยจะเป็นผู้นำด้าน IoT ภายในปี 2560 การเพิ่มขึ้นของงบประมาณด้านไอที และ จำนวนนวัตกรรมในกลุ่มธุรกิจประกันภัยจะสูงกว่ากลุ่มธุรกิจธนาคาร เนื่องมาจากโครงการ IoT ในกลุ่มธุรกิจประกันภัยนั้นจะได้การลัดขั้นตอน
เราจะพบกรณีตัวอย่างการใช้งาน IoT ในกลุ่มธุรกิจประกันภัยรถยนต์เป็นครั้งแรก ไอดีซีคาดว่าโซลูชันสำหรับรถยนต์นั้น จะเติบโตอย่างมากในอีกห้าปีถัดไป ซึ่งจะก่อให้เกิดสินค้าประกันภัยจากเทคโนโลยีเทเลมาติกส์ โปรเจคนำร่องที่ประสบความสำเร็จโดยบริษัทประกันภัยในระดับภูมิภาคจะส่งผลให้เกิดการนำเทคโนโลยีนั้นมาใช้อย่างแพร่หลาย กรณีตัวอย่างอื่นๆ รวมถึงการใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและเชื่อมโยงกับเบี้ยประกันสุขภาพ และ การใช้เซ็นเซอร์ในการประกันอัคคีภัยและการขนส่งสินค้า
นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ช่วยส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวอีกด้วย การใช้งานคลาวด์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในสำนักงาน และ บริการการจัดการนั้นช่วยผลักดันกลุ่มธุรกิจประกันภัยเข้าสู่แพลทฟอร์มที่ 3 ภายในปี 2559 นี้คาดว่าจะมีการอัพเกรดระบบหลักของภาคอุตสาหกรรมสามครั้ง ซึ่งจะผลักดันการใช้จ่ายด้านไอทีของกลุ่มอุตสาหกรรมให้เติบโตถึง 10% ในขณะที่กลุ่มธุรกิจการธนาคารจะเติบโตเพียง 6%
นอกจาก 10 ข้อที่ทาง IDC กล่าวไว้แล้ว ยังมีเทรนด์อื่นๆที่น่าจับตาว่าในปี 2559 จะเติบโตหรือเปลี่ยนแปลงอย่างไร เช่น
Virtual Reality ที่ปี 2559 นี้จะมี content มากมายที่จะเกิดขึ้นทั้ง แว่นเกม Play Station VR , เกม Pokemon แนวเกม Augmented Reality บนสมาร์ทโฟน และ Content จาก Google Cardboard ที่ใช้แอพบนสมาร์ทโฟนใส่แว่นกระดาษ สร้าง โลกเสมือนให้คุณชมแบบเต็มตา 360 องศาจะมีมากขึ้น
ธุรกิจการชมความบันเทิงที่เปลี่ยนไป จากยุคชมหนังแผ่น DVD , Bluray มาเป็นหนังออนไลน์มีมากขึ้น บริษัทด้านร้านเช่าวีดีโอ , DVD เริ่มอยู่ไม่ได้ ขณะที่บริษัทขาย DVD เริ่มปรับตัวจากขายเป็นแผ่นมาจัดรวบเดียวเป็น Boxset ขายราคาถูกลง ตลอดจนการแข่งขันสูงของเพลง Live Streaming และเรื่องดิจิตอลทีวีในไทยที่ยังแข่งขันสูงต่อไป
และในปี 2559 นี้คาดว่าจะได้ใช้ 4G บนคลื่น 900 MHz และ 1800 MHz ซึ่งจะส่งผลการทำงานบน Mobile Internet ที่รวดเร็วมากขึ้น ตลอดจนอุปกรณ์ 4G แบบใหม่ก็จะเริ่มมีจำหน่ายในไทยเพิ่มมากขึันด้วย
ทั้งหมดนี้คือ เทรนด์เทคโนโลยี ปี 2559 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพื่อคุณจะได้รับรู้และวางแผน รับมือการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและเทคโนโลยีในไทย ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด