ไม่ว่าจะเจออุบัติเหตุเผลอทำโทรศัพท์มือถือตกส้วม ตกคลอง ตกอ่างล้างมือ เจอฝนตกหนัก หรือไม่ก็โดนสาดน้ำช่วงสงกรานต์ จน โทรศัพท์มือถือเปียกน้ำ เป็นปัญหาใหญ่ของคนใช้มือถือ เพราะถ้าปล่อยไว้ หรือใช้ต่อไปโดยไม่แก้อะไรเลย มือถือของเราก็มีโอกาสพังได้ อย่าลืมว่า ไม่ใช่แค่ว่ามือถือพัง ซื้อมือถือเครื่องใหม่แล้วปัญหาจบ ทว่ายังมีข้อมูลสำคัญอยู่ในมือถือคุณด้วย! มาดูวิธีแก้ไขกันว่า ถ้ามือถือเปียกน้ำทำอย่างไรดี ? ข้อควรปฏิบัติ ข้อห้าม และข้อที่คนมักเข้าใจผิด
ทีมงานไอที24ชั่วโมง ได้สอบถาม คุณนุชอนงค์ ศรีวรเดช (คุณเหน่ง ) ช่างซ่อมมือถือร้าน M-Mobile ผู้เชี่ยวชาญการซ่อมมือถือในกรณีมือถือเปียกน้ำ และซ่อมอยู่บ่อยๆเป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ได้พบเป็นประจำ พร้อมให้คำแนะนำว่า
ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ และข้อที่มักเข้าใจผิดเมื่อมือถือเปียกน้ำ
- เมื่อมือถือหรือสมาร์ทโฟนของของคุณเปียกน้ำ อย่ากดปุ่มเปิดเครื่อง และอย่าทำการชาร์จไฟโดยทันทีเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดไฟช็อตได้
- หาทางเช็ดทำให้มือถือแห้งสนิทโดยเร็ว
- ถอดปลอกที่ใส่มือถือออก เพื่อไม่ให้น้ำและความชื้่นสะสม
- หากเป็นมือถือที่แบตเตอรี่ถอดออกได้ ให้รีบถอดแบตเตอรี่ออกและเช็ดมือถือให้แห้ง
- แช่ในข้าวสารช่วยดูดซับความชื้นจนทำให้มือถือแห้งได้จริง แต่! ควรตักแบ่งข้าวสารออกมาเพื่อแช่ เพราะหากคุณนำมือถือมาแช่กับข้าวสารแล้ว อาจจะทำให้มีสารพิษจากมือถือปะปนกับข้าว ซึ่งไม่ควรนำข้าวที่มาใช้ซับความชื้นของมือถือมาทานต่อ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น หากนำไปแช่ในถังข้าวสารทั้งถัง ก็เท่ากับว่าเราต้องทิ้งข้าวทั้งถังนั้นไปเลย
- และเมื่อทำการเช็ด หรือแช่ในถังข้าวสารจนแห้งสนิทแล้ว ใช่ว่าจะเปิดมือถือใช้งานได้ปกติทันที แนะนำให้นำไปเข้าศูนย์บริการหรือศูนย์ซ่อมด้วย บางท่านเห็นว่า เปิดใช้งานได้ปกติแล้ว ก็ใช้งานต่อไป แต่อาจสร้่างความเสียหายที่เพิ่มขึ้น และใช้ไปสักพัก ก็จะพบความผิดปกติได้ เพราะชิ้นส่วนภายในมือถือบางอย่างยังแห้งไม่สนิท เปิดตัวเครื่องออกมาบางทีก็พบชิ้นส่วนเริ่มเป็นสนิม เป็นตะไคร่น้ำ เกาะติดกับแผงวงจรมือถือ กระทบกับตัวเมนบอร์ดมือถือ ทำให้โอกาสที่จะนำมือถือมาซ่อมแล้วสามารถใช้งานปกตินั้นเหลือเพียง 50% เพราะถ้าอาการถึงเมนบอร์ดแล้ว จะมีทางเลือกแค่ เปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ ซึ่งต้องจ่ายเงินสูง เทียบเท่าต้องซื้อมือถือเครื่องใหม่เลย
** ดังนั้นหากเกิดเหตุมือถือของคุณเปียกน้ำแล้ว แม้จะทำให้แห้งสนิทเปิดเครื่องแล้วใช้ได้ แต่แนะนำให้ส่งไปที่ศูนย์บริการหรือที่ช่างซ่อมมือถือที่เชี่ยวชาญทำการตรวจไล่ความชื้นภายใน กำจัดสนิมอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนของคุณ จะสามารถกลับมาทำงานได้ปกติจริงๆ **
(แต่การส่งศูนย์ซ่อม ก็ต้องเป็นห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัว และข้อมูลที่อยู่ภายในเครื่องด้วย ด้วยเหตุนี้ จนทำให้บางคนอาจต้องยอมทิ้งมือถือเครื่องนั้นไป เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆรั่วไหลหากนำไปซ่อม ซึ่งเรื่องนี้ ต้องแล้วแต่เจ้าของเครื่องจะตัดสินใจจ้าาาา)
สำหรับวิธีสังเกตว่ามือถือของเรากันน้ำหรือไม่และวิธีการป้องกันมือถือเปียกน้ำ อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เตรียมมือถือให้พร้อมเล่นน้ำ