หลังจากที่ กรมการขนส่งทางบก ได้ประกาศว่า uber เป็นรถให้บริการสาธารณะที่ผิดกฎหมาย เมื่อ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ฐานความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 4 ข้อ ล่าสุด นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า มีแผนจะทำแอพแท็กซี่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากกฎหมาย ยังมิได้กำหนดรายละเอียด เกี่ยวกับการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างนำเสนอร่างแก้ไข
“โดยรูปแบบแอพแท็กซี่ที่กำลังดำเนินการนั้น ลักษณะคล้ายๆ กับการเช็กอิน โดยผู้โดยสารขึ้นรถแท็กซี่ จะพบ QR Code ติดไว้ที่หลังเบาะแท็กซี่ เมื่อผู้โดยสารนำสมาร์ทโฟนมาสแกน QR CODE แล้ว ข้อมูลของผู้ใช้สมาร์ทโฟน จะไปผูกกับข้อมูลของรถแท็กซี่คันนั้น และส่งข้อมูลนั้นตรงเข้ามาที่กรมฯ แล้วที่ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภค โดยจะมีรายงานขึ่นว่า คุณขึ้นรถทะเบียนแท็กซี่ คนขับโดยใคร เมื่อเวลากี่โมง ข้อมูลจะบันทึกเก็บไว้เผื่อในกรณีที่มีปัญหา เกิดอุบัติหรือกระทำความผิด ทางกรมฯ ก็สามารถตรวจสอบได้ทันที
นอกจากนี้หลังจากที่จอดส่งผู้โดยสารถึงปลายทางแล้ว สรุปเป็นราคา ออกมา ประชาชนสามารถประเมินผลการให้บริการของแท็กซี่ได้ โดยการยิง QR Code ที่ติดอยู่ที่หลังเบาะแท็กซี่ ก็จะมีระดับคะแนนให้ท่านได้ช่วยกันประเมินว่าจะ “ไลค์” หรือ “ไม่ไลค์” ด้วย”
“ส่วนสิ่งที่ปรับปรุงอื่นๆนอกจากจะมีเรื่องแอพมาช่วยบริการผู้โดยสารแล้ว จะดูเรื่องความสะอาดภายในรถ เบาะ ที่นั่ง เข็มขัดนิรภัย ตลอดจนคนขับจะต้องดีขึ้นด้วย” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว..
ทั้งนี้อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงเพิ่มเติมว่า “แอปพลิเคชันที่ผู้ให้บริการใช้อยู่ในขณะนี้ ทางกรมฯ ไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ได้ขัดข้องอะไร เรากำลังจะแก้ไขระเบียบกฎกระทรวงให้รองรับด้วย … แต่สิ่งที่เรามองว่าฝ่าฝืนกฎหมายขณะนี้คือ ประเด็นเรื่อง “การใช้รถผิดประเภท” “ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก จะเรียกผู้ให้บริการรถแท็กซี่ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ทั้ง Grabtaxi , Easy Taxi รวมทั้ง uber เข้ามาชี้แจงรายละเอียดภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
ข้อมูลจาก กรมการขนส่งทางบก