ดีแทค และ ทรู รวมเป็นบริษัทใหม่ ทรู คอร์ปอเรชั่น เรียบร้อย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา มุ่งสู่บริษัทด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีของไทย ชูแนวคิดชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน (Better Together) ผสานพลังรวมกัน 1+1 เท่ากับ อินฟินิตี้ สร้างศักยภาพความเป็นไปได้ใหม่ที่ไม่รู้จบ พร้อมกับภารกิจดูแลผู้ใช้งานมือถือทั้งสองแบรนด์ในวันนี้ คือ ทรูมูฟ เอช 33.8 ล้านและดีแทค 21.2 ล้านเลขหมาย พร้อมผู้ใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตทรูออนไลน์ 5 ล้านราย และผู้ใช้งานโทรทัศน์ทรูวิชั่นส์ 3.2 ล้านราย เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเท่าเทียมนับ จากนี้จะเกิดอะไรขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ดีแทคและทรูได้ดำเนินการควบรวมเป็นบริษัทใหม่ โดยได้รับหนังสือรับรองบริษัทใหม่ตามที่ยื่นจดทะเบียนต่อนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้มูลค่าตลาดของทั้งสองบริษัทรวมกัน (Market Capitalization) ประมาณ 2.94 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเพื่อเตรียมการจัดสรรหุ้นสามัญของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของทั้งสองบริษัท และการดำเนินการอื่น ๆ
นาย มนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “วิสัยทัศน์ของเราคือการมุ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีโทรคมนาคม ที่จะเปลี่ยนผ่านวิถีชีวิตคนไทย และขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวสู่แถวหน้าของเศรษฐกิจดิจิทัล เราได้ออกจากกรอบความคิดแบบเดิมในการทำธุรกิจโทรคมนาคมปลดล็อกสู่การเติบโตในระยะยาว นี่คือการนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทย และปูทางให้ประเทศไทยก้าวสู่ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดในโลกดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
การสร้างบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีใหม่ครั้งนี้ ได้นำสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งทรูและดีแทคมาผนึกรวมกัน (Best of Both) เพื่อขยายขนาด (Scale) และการส่งมอบคุณค่า (Value Creation) ที่มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มขีดความแข็งแกร่งจากผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งจากองค์กรไทย คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทชั้นนำอย่างเทเลนอร์ กรุ๊ป นอกจากนี้ บริษัทใหม่จะได้ประโยชน์จากการผนึกกำลังร่วมกัน (Synergy) ทั้งด้านการลงทุนและรายได้ ซึ่งจะขับเคลื่อนร่วมกัน อาทิ โครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เครือข่ายไอที การจัดซื้อ การขาย การตลาด ช่องทางการค้าปลีก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยจะนำสู่สมดุลความเสมอภาคและความเท่าเทียมในการแข่งขัน และจะนำมาสู่ประโยชน์สูงสุดของผู้ใช้
“การรวมกันของเราจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคชาวไทย และเป็นการทรานสฟอร์มประเทศไทยสู่วิถีดิจิทัลที่เร็วยิ่งขึ้น ยกระดับภาคธุรกิจให้พร้อมแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก ตลอดจนเชื่อมโยงทุกระบบเร่งสร้างจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย”
บริษัทใหม่นี้จะขยายโครงข่าย 5G ครอบคลุม 98% ของประชากร ในปี 2569 พร้อมพัฒนาและขยายเครือข่ายทั่วประเทศ ตามรายงานโดยการวิจัยของ GSMA คาดว่า 5G จะช่วยผลักดันการเติบโตของ GDP ในประเทศไทยที่มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.7 แสนล้านบาท) ในปี 2573
ทรู คอร์ปอเรชั่น จะให้บริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ “ทรู” และ “ดีแทค” โดยผู้ใช้งานสามารถใช้สัญญาณคุณภาพดีขึ้นทันทีจากสัญลักษณ์เครือข่าย dtac-True และ True-dtac บนหน้าจอมือถือ ซึ่งเป็นก้าวแรกในการพัฒนาคุณภาพสัญญาณโมบายล์อินเทอร์เน็ตด้วยการ “โรมมิ่ง” สัญญาณข้ามโครงข่าย เพื่อใช้งาน 5G และ 4G บนคลื่น 2600 MHz และ 700 MHz โดยผู้ใช้ดีแทคสามารถใช้งาน 5G บนคลื่น 2600 MHz และผู้ใช้ทรูสามารถใช้งาน 4G และ 5G คลื่น 700 MHz ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว ทั้งนี้จะขยายครบทั้ง 77 จังหวัดประมาณกลางมีนาคมนี้
นายชารัด เมห์โรทรา รองประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อไปว่า “เรามีเป้าหมายสูงสุดในการส่งมอบสินค้าและบริการที่ดียิ่งกว่าเดิมสำหรับผู้บริโภค และจะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดและการแข่งขันที่สูงเพื่อผู้ใช้ของเราจะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ครอบคลุมถึงธุรกิจบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก และบริการดิจิทัล พร้อมด้วยสิทธิประโยชน์เพื่อลูกค้าของเราอย่างต่อเนื่อง”
ทรู คอร์ปอเรชั่น เดินหน้า 7 กลยุทธ์หลัก มุ่งสู่เป้าหมายขององค์กร ดังนี้
- ผู้นำด้านโครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างแท้จริง (Be the Undisputed Network and Digital Infrastructure Leader ) – การผสานศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทใหม่ ทั้งโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัล อาทิ ดาต้าเซ็นเตอร์มาตรฐานสากล ระบบคลาวด์ ไม่เพียงแต่จะสร้างประสบการณ์เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ยอดเยี่ยม แต่จะมุ่งสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการต่อยอดนวัตกรรมบริการดิจิทัลต่างๆเพื่อคนไทย ทั้ง IoT, AI Analytic, Machine Learning, Cyber Security ที่จะช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนวิถีดิจิทัล (Digital Transformation) ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
- เติบโตเป็นผู้นำนอกเหนือจากบริการหลัก เพื่อส่งมอบคุณค่าและประสบการณ์ที่เหนือกว่า (Champion Growth Beyond the Core) – นอกจากการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแล้ว บริษัทใหม่จะเดินหน้าขยายธุรกิจพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านดิจิทัลที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยจะมุ่งพัฒนานวัตกรรมด้านดิจิทัล โซลูชัน รวมถึงระบบนิเวศดิจิทัลที่ครบวงจร พร้อมร่วมขับเคลื่อนเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลในทุกภาคส่วน (Digital Inclusion ) สร้างประสบการณ์ใหม่ไร้รอยต่อให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กรธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนร่วมสนับสนุนประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้เร็วยิ่งขึ้น
- สร้างมาตรฐานประสบการณ์ใหม่เพื่อลูกค้าในประเทศไทย (Set the Bar for Customer Experience in Thailand) – ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาช่วยในการวิเคราะห์ เติมเต็มไลฟ์สไตล์ได้ตรงใจมากขึ้น ทั้งการนำเสนอสินค้าบริการ การมอบสิทธิพิเศษ ตลอดจนช่องทางการเข้าถึง O2O ผ่านการผนึกพลังทั้งออฟไลน์ในเครือทั่วประเทศและออนไลน์แบบ 24 ชม.ทำให้ผู้ใช้จะได้สัมผัสสุดยอดประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง และไร้รอยต่อในทุกจุดบริการ รวมทั้งยกระดับบริการหลังการขายที่นำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ทำให้ผู้ใช้บริการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น
- เติมเต็มชีวิตอัจฉริยะยิ่งขึ้นเพื่อทุกสไตล์ลูกค้าชาวไทย (Enhance Smart Life for Customers) – ยกระดับวิถีชีวิต และไลฟ์สไตล์ทั้งความสะดวกสบาย การดูแลสุขภาพ ความปลอดภัย และการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ซึ่งจะไม่จำกัดเฉพาะชีวิตคนเมืองเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมคนไทยทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายสื่อสารดิจิทัลที่กว้างไกลและครอบคลุมยิ่งขึ้น
- ยกระดับมาตรฐานสำหรับลูกค้าองค์กร (Raise Standards for Enterprise Customers) – เร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของภาคธุรกิจทั้งลูกค้า SME ธุรกิจองค์กรและภาคอุตสาหกรรม นำเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ อาทิ IoT, Robotics, AI Analytics และ Blockchain พร้อมทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ สู่การพัฒนานวัตกรรมโซลูชันครอบคลุมทุกมิติ เพื่อสร้างความต่างและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย ทุกภาคส่วนทั้งอุตสาหกรรม การเกษตร สาธารณสุข และค้าปลีก
- สร้างสุดยอดองค์กรที่น่าทำงาน (Build the Best Place to Work) – บริษัทใหม่จะเป็นองค์กรแนวหน้าที่ขับเคลื่อนด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการทำงาน ดึงดูดคนเก่งที่มีความรู้ความสามารถจากทั่วโลก เป็นองค์กรที่สนับสนุนกลุ่มคนหลากหลาย ผสานความแตกต่าง ควบคู่กับการสร้างคนให้มีจิตวิญญาณเป็นเจ้าของกิจการ เป็นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้มีความสามารถ (Talent) ทุกเจเนอเรชัน พร้อมกับมีสวัสดิการและสุขภาวะที่ดี (Well Being)
- การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพิ่มคุณค่าขับเคลื่อนองค์กรในระยะยาว (ESG Best in class: Sustainable organization to Create Long Term Value) – มุ่งเน้นการนำศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม มาร่วมสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้กับทุกชีวิต นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
ทั้งนี้บริษัทใหม่มุ่งสู่การการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบอย่างยั่งยืนในแนวทาง ESG (Environment, Social, and Governance) ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
ใครที่สังเกตโลโก้ตาม twitter และ facebook มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคือ โลโก้ 5Gจาก dtac เปลี่ยนให้เหมือนสัญลักษณ์ 5G ของ true ขณะเดียวกันตรงสัญลักษณ์ 5G ตัวเลข 5 จะเป็นสีแดง และ G จะเป็นสีฟ้า ซึ่งอยู่ใต้โลโก้แบรนด์ true และ dtac
จะเกิดอะไรขึ้นกับ dtac และ true
- บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทรู ได้ควบรวมกิจการภายใต้ชื่อบริษัทใหม่คือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ส่งผลทำให้บริษัทเดิมแต่ละบริษัทสิ้นสภาพไป
- อย่างไรก็ตาม แบรนด์ดีแทคและทรูยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้สองแบรนด์ในตลาดแยกจากกัน
- ลูกค้าของทั้งสองแบรนด์ยังสามารถใช้บริการต่างๆ ภายใต้แบรนด์ดีแทคหรือทรู และในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายยิ่งขึ้น สิทธิพิเศษและความคุ้มค่าที่มากขึ้น
-
ภายหลังการรวมธุรกิจ ลูกค้าทั้งดีแทคและทรู สามารถเข้าถึงประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้นบนโครงข่าย 4G, 5G, Wi-Fi และบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ประจำที่ (Fixed Broadband Internet) และลูกค้าทั้งสองแบรนด์สามารถมั่นใจได้ว่าการรวมกันของสองบริษัทจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งาน
-
ผู้ใช้บริการจะได้ใช้บริการด้วยสัญญาณที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น จากการเปิดบริการข้ามโครงข่าย หรือ “โรมมิ่ง” โดยหากเข้าไปในพื้นที่ที่มีการใช้บริการข้ามโครงข่าย สัญลักษณ์หน้าจอของลูกค้าดีแทคจะเป็น dtac-true /และหน้าจอลูกค้าทรูจะเป็น true-dtac ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของกสทช. ที่ต้องแสดงชื่ออีกโครงข่ายที่กำลังข้ามมาใช้บริการร่วม จึงปรากฏชื่อทั้งสองโครงข่ายบนหน้าจอสกรีน
ผู้ใช้บริการต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆมั้ย
ผู้้ใช้บริการไม่ต้องดำเนินการเปลี่ยนแปลงหรือทำธุรกรรมใหม่แต่อย่างใด และยังคงสามารถเลือกใช้สินค้าและบริการเช่นเดิม
การเปิดเบอร์ใหม่ ต้องเปิดกับบริษัทใหม่มั้ย
ไม่ใช่ ผู้ที่เปิดเบอร์ใหม่ในระบบรายเดือนและเติมเงิน ของดีแทค หรือทรู ยังคงจดทะเบียนในนามบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากกสทช. คือ DTN (บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด) และ TUC (บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด)
(เนื่องจากบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการ ไม่ใช่บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่)
รวมธุรกิจแล้วลูกค้าต้องจ่ายแพงขึ้นหรือเปล่า
ผู้ใช้บริการยังคงสามารถใช้บริการแพ็กเกจราคาเดิมที่เลือกใช้ รวมทั้งมีสิทธิในการเลือกใช้แพ็กเกจที่เห็นว่าคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ใช้ทรูและดีแทค ยังสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการในราคาที่คุ้มค่าและสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้น บริษัทใหม่นั้นมีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการแข่งขันทางการตลาดที่โปร่งใสและเป็นธรรม และยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ
ลูกค้าปัจจุบันของดีแทคและทรูจะได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
สามารถตรวจสอบได้ที่แอป Trueid และ แอป dtac ได้เลย ได้มีของขวัญฉลองการรวมกันระหว่าง true และ dtac ไว้แล้ว ทั้งเน็ตฟรี , แพ็กชมคอนเท้นต์ฟรี รวมถึงเครื่องดื่มฟรีด้วย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ทั้งทางฝั่ง true และ dtac ได้ที่
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs