วิธีซื้อโทรศัพท์มือถือให้เหมาะกับตัวเอง มือถือเรือธงเหมาะกับเราไหม? หากคุณคิดจะซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ คุณต้องเคยดูรีวิวแต่ละรุ่นว่าดียังไง ล้ำแค่ไหน ฟีเจอร์อะไรเด็ดบ้าง ซึ่งอาจคล้อยตามว่าจะดีสุดคือซื้อระดับเรือธงไปเลย ได้ทุกอย่างแน่ แต่เสียอย่างหนักคือราคาแพง จ่ายแล้วคุ้มมั้ย จำเป็นสำหรับเราจริงๆหรือไม่ ดังนั้นการเลือกซื้อมือถือที่เหมาะกับตัวเอง ระหว่างมือถือที่เน้นสเปคที่เราต้องการ กับเอาฟีเจอร์ทุกอย่างบนมือถือเรือธงดี มาดูวิธีการเลือกสมาร์ทโฟนกัน
วิธีซื้อโทรศัพท์มือถือให้เหมาะกับตัวเอง เรือธงเหมาะกับเราไหม?
1.มีซอฟต์แวร์ที่เหมือนๆกัน
หากคุณเลือกตระกูลไอโฟน แล้วเครื่องต่อไปเป็นไอโฟน หรือ หากคุณซื่อซัมซุง รุ่นต่อไปก็ซัมซุงเช่นกันละก็ ส่วนใหญ่จะมีซอฟต์แวร์ที่เหมือนๆกัน ประสบการณ์แบบเดียวกันจริงอยู่ เรือธงจะได้รับการอัปเดตซอฟต์แวร์เร็วกว่าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ช้าเกินไป หากเลือกสเปกระดับกลาง ก็ได้รับข้อเสนอการอัปเดตมือถือนานถึง 4 ปี และความปลอดภัย 5 ปีเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเน้นเฉพาะสำหรับเรือธง กับมือถือระดับกลาง เช่น Galaxy S23 Ultra กับ Galaxy A73 , A53 ซึ่งก็มีฟีเจอร์คล้ายเรือธงแต่ราคาถูกกว่า
2. มือถือเรือธง กับมือถือระดับกลาง มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ใกล้เคียงกัน
ส่วนใหญ่มาพร้อมขนาดแบตที่ใกล้เคียงกัน 5000mAh ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานระดับเบาถึงปานกลางเกือบสองวันเต็ม แต่เรือธงมีการชาร์จแบบมีสายที่เร็วกว่าควบคู่ไปกับการชาร์จแบบไร้สายและความสามารถในการชาร์จให้อุปกรณ์ไร้สายอื่นๆได้ เป็นที่ชื่นชอบและผู้ใช้ระดับสูง แต่สำหรับผู้ใช้มือถือทั่วไปอาจไม่จำเป็นก็ได้
3. เรื่องหน้าจอระดับเรือธง และ ระดับกลาง มีความใกล้เคียงกัน หรืออาจคนละชนิดแต่แสดงผลดีเหมือนกัน
บางคนซืื้อราคาสเปคกลางเล่นเกมใช้จอแบบ TFT แต่การส่งไปซ่อมนั้นกลับเปลี่ยนจอราคาถูกกว่ามือถือเรือธงที่ใช้จอคุณภาพสูงราคาแพง
4.เรื่องความจุต้องคิดให้ดี
เรือธงต้องซื้อจุสูงๆอัปเกรดภายหลังไม่ได้ แต่เรือธงเพิ่มพื้นที่ง่ายๆด้วย MicroSD ซึ่งอยู่ในมือถือสเปคกลาง
5. เรือธงคุณใช้ฟีเจอร์ที่เรือธงมือาจไม่หมดหรอก
มือถือเรือธงเหมาะสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง เกมเมอร์ ครีเอเตอร์ หรือนักเทคโนโลยี ฟีเจอร์ต่างๆเช่น การชาร์จแบบไร้สาย การบันทึกวิดีโอ 8K หรือกล้อง 200MP อาจฟังดูน่าตื่นเต้น แต่คุณสมบัติเหล่านี้เกินจริง ไปมาก และไม่จำเป็นต้องมีในโทรศัพท์เมื่อเทียบกับการใช้งานในชีวิตจริง
6. ซื้อมือถือแล้วยังต้องซื้อฟิล์มกันจอแตก และเคสกันกระแทก
ซึ่งต้องใช้เงินระดับนึง เพื่อป้องกันมือถือราคาแพง แต่เผลอทำตก จอเสียที่ ต่้องจ่ายค่าซ่อมราคาแพง
7. มือถือส่วนใหญ่ใช้จริงๆ แล้วเปลี่ยนมือถือใหม่ทุก 3 ปี
เมื่อพูดถึงอายุการใช้งาน อายุการใช้งานโดยเฉลี่ยของเรือธงก็ยาวนานกว่ามือถือที่ราคาถูกกว่า ในอดีต คุณจะได้ระบบกล้องที่ดีขึ้น โปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังขึ้น ลำโพงที่ดังกว่าเดิม กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 แรมที่มากขึ้น พื้นที่เก็บข้อมูลที่มากขึ้น และการชาร์จที่เร็วขึ้น เมื่อรวมกันแล้ว คุณสามารถใช้เรือธงเป็นเวลานานกว่า 5 ปี เมื่อเทียบกับมือถือสเปกระดับกลาง แต่ปัญหาคือแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนทำจากลิเธียมไอออน เพียงสองถึงสามปี แบตเตอรี่จะเสื่อมลงจนสุดท้ายก็ต้องหาทางซื้อมือถือใหม่
8. ไม่จำเป็นต้องใช้ชิปทรงพลังขนาดนั้น
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ใช้งานพื้นฐาน เช่น การโทร การส่งข้อความ การท่องเว็บ การใช้สื่อ และการถ่ายรูปเพียงเล็กน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องจัดซื้อมือถือเรือธงขนาดนั้นก็ได้
สรุปแล้วจะเลือกมือถือแบบไหนดี
เมื่อซื้อระดับเรือธง คุณต้องรู้จริง ๆ ว่าคุณกำลังใช้ฟีเจอร์บนมือถือเรือธงในการทำอะไรที่สมาร์ทโฟนสเปคกลางทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มือถือสเปคกลาง จะมีราคาย่อมเยาว์กว่า แต่ถ้าเรือธง จะสร้างความสะดวกและการใช้งานอย่างหนักหน่วงเช่นถ่ายวิดีโอ เล่นเกม รุ่นเรือธงก็จะเป็นรุ่นที่ควรเลือกใช้ แต่ท้ายสุดก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณว่า ซื้อมือถือใหม่ใช้ทำอะไรบ้าง กับเงินในกระเป๋าคุณพร้อมที่จะซื้อมือถือระดับเรือธงมั้ย ไม่ก็พิจารณาซื้อมือถือสเปกกลางดีกว่่า
อ้างอิง Makeuseof cover iT24Hrs
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
วิธีซื้อโทรศัพท์มือถือให้เหมาะกับตัวเอง มือถือเรือธงเหมาะกับเราไหม?
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs