วิธีแก้ไอโฟนขึ้นข้อความ อุปกรณ์เสริมอาจไม่ได้รับการรองรับ หลังเสียบสายชาร์จ

• แชร์
• ทวีต
• ส่งไลน์

วิธีแก้ไอโฟนขึ้นข้อความ อุปกรณ์เสริมอาจไม่ได้รับการรองรับ หากคุณเป็นผู้ใช้ iPhone, iPad หรือ iPod คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนแบบนี้มาก่อนสักสองสามครั้ง หลังเสียบสายชาร์จเพื่อชาร์จแบต หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมเช่นหูฟัง Bluetooth อื่น , AirPods แต่อาจปรากฏข้อความนี้ขึ้นเมื่อคุณพยายามเชื่อมต่อไอโฟนกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ข้อความนี้จะหายไปเองในบางครั้ง ขั้นตอนในบทความนี้มาดูว่าเหตุใดข้อความแจ้งเตือนนี้จึงปรากฏขึ้นบนของเรา และแก้ไขอย่างไร

“อุปกรณ์เสริมนี้อาจไม่รองรับ” หมายความว่าอย่างไร

มีเหตุผลบางประการที่คุณอาจเห็นข้อความแจ้งว่า “อุปกรณ์เสริมนี้อาจไม่รองรับ” นี่คือสาเหตุที่เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดข้อความดังกล่างคือ

• อุปกรณ์เสริมของคุณมีข้อบกพร่อง เสียหาย หรือไม่ได้รับการรับรอง MFi
• ระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ล้าสมัย ทำงานผิดปกติ
• อุปกรณ์เสริมเข้ากันไม่ได้กับอุปกรณ์ของคุณ
• พอร์ต Lightning ที่สกปรกหรือเสียหาย
• อุปกรณ์เสริมของคุณล้าสมัย หาก Apple หยุดการผลิตอุปกรณ์เสริมนั้นแล้ว อุปกรณ์เสริมนั้นอาจเข้ากันไม่ได้กับอุปกรณ์ที่ยังอยู่ในท้องตลาด

วิธีแก้ไข “อุปกรณ์เสริมอาจไม่รองรับ” บนไอโฟน

1. ถอดปลั๊กและลองเชื่อมต่ออุปกรณ์อีกครั้ง

หนึ่งในวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่ควรลองเมื่ออุปกรณ์เสริมของคุณไม่รองรับคือการถอดปลั๊กและเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอีกครั้งหากยังคงปรากฏขึ้น ให้ให้ถอดหรือยกเลิกอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับ iPhone ของคุณในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น คุณอาจเชื่อมต่อ AirPods ผ่านบลูทูธ และตอนนี้คุณต้องการเชื่อมต่อ iPhone กับพีซีด้วยสาย Lightning หรือเชื่อมต่อ iPhone ของคุณกับอุปกรณ์เสริมหลายชิ้นซึ่งนี่อาจเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดชั่วคราวนี้

2. รีสตาร์ท iPhone ของคุณ

ข้อบกพร่องเล็กน้อยของซอฟต์แวร์อาจทำให้เกิดการแจ้งเตือน “ไม่รองรับอุปกรณ์เสริม” การรีสตาร์ท iPhone ของคุณสามารถแก้ไขปัญหาซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้

หากต้องการรีสตาร์ท iPhone ด้วยปุ่ม Power แล้วกดลงค้าง จากนั้นเลื่อนแถบเลื่อนเปิด/ปิดผ่านหน้าจอจากซ้ายไปขวา เพื่อปิดเครื่อง รอประมาณ 30 วินาที เปิด iPhone ของคุณอีกครั้ง แล้วลองเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมของคุณอีกครั้ง

3. ลองอุปกรณ์เสริมอื่น

การแจ้งเตือน “อุปกรณ์เสริมอาจไม่รองรับ” อาจเกิดจากอุปกรณ์เสริมที่มีข้อบกพร่อง คุณสามารถยืมสายจากเพื่อนบ้านหรือเพื่อน แล้วลองใช้กับอุปกรณ์ของคุณแทน หากได้ผล คุณมั่นใจได้ว่าปัญหาเกิดจากตัวอุปกรณ์เสริมเท่านั้น ไม่ใช่ iPhone ของเรา

4. ตรวจสอบอะแดปเตอร์

การแจ้งเตือน “อุปกรณ์เสริมอาจไม่รองรับ” อาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับอะแดปเตอร์แปลงไฟของ iPhone ไม่ใช่สาย Lightning มองหาสัญญาณความเสียหายภายในพอร์ต USB ที่ชาร์จของ iPhone ลองใช้อะแดปเตอร์ตัวอื่นดู

5. ทำความสะอาดพอร์ตชาร์จของคุณ

หากการแจ้งเตือนยังคงปรากฏอยู่ ให้ทำความสะอาดพอร์ต Lightning บน iPhone เพราะฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ภายในพอร์ต Lightning มักจะขัดขวางไม่ให้อุปกรณ์เสริมสัมผัสกัน และทำให้เกิดการแจ้งเตือนข้อผิดพลาดที่คุณได้รับ

6. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขั้วต่อ Lightning แห้งสนิท

ผู้ใช้ iPhone บางคนมักสัมผัสกับน้ำเล็กน้อยเพราะคิดว่าอุปกรณ์ของตนกันน้ำได้ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย iPhones และยังคงเสียหายได้หากโดนน้ำ

7. ใช้อุปกรณ์เสริมที่ผ่านการรับรอง MFi

คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนว่า “อุปกรณ์เสริมไม่รองรับ” หากคุณกำลังใช้อุปกรณ์เสริมที่เป็นของปลอม เพื่อป้องกันสิ่งนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสายชาร์จและอุปกรณ์เสริมที่คุณใช้ชาร์จ iPhone นั้นผ่านการรับรอง Apple MFi หรือไม่ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ผลิตขึ้นตามมาตรฐานการออกแบบของ Apple วิธีการง่ายๆ ก็คือ อุปกรณ์เสริมที่ได้รับการรับรองจาก MFi จะมีตราสัญลักษณ์ที่ชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ตามภาพบน นอกจากนี้หากอุปกรณ์เสริมมีราคาถูกอย่างน่าสงสัย แสดงว่าอาจเป็นของปลอมและไม่ได้รับการรับรองจาก Apple

8. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เสริมของคุณเข้ากันได้

หากอุปกรณ์เสริมของใหม่ ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ดังกล่าวออกแบบมาให้ใช้งานได้กับอุปกรณ์ของคุณ เพราะบางอย่างใช้ได้กับ iPhone, iPad หรือ iPod บางรุ่นเท่านั้น หากคุณไม่แน่ใจ ให้ติดต่อผู้ผลิต

9. อัปเดต iPhone ของคุณ

ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

ไปที่การตั้งค่า > ทั่วไป > การอัปเดตซอฟต์แวร์ เพื่อตรวจสอบว่ามีการอัพเดตซอฟต์แวร์หรือไม่ หากใช่ คุณสามารถเริ่มกระบวนการอัปเดตได้ทันที

10. รีเซ็ตการตั้งค่า iPhone ของคุณ

หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาสุดท้ายที่คุณสามารถลองได้คือรีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมดบน iPhone ของคุณ การดำเนินการนี้จะคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมดกลับเป็นสถานะเริ่มต้นโดยไม่ลบข้อมูล

ไปที่ การตั้งค่า > ทั่วไป > โอนหรือรีเซ็ต iPhone > รีเซ็ต > รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด กระบวนการนี้อาจใช้เวลาสักครู่หากคุณมีไฟล์จำนวนมาก ดังนั้นคุณอาจต้องใช้วิธีแก้ปัญหาด้านล่างหากคุณต้องการให้ iPhone เชื่อมต่อเพื่อถ่ายโอนไฟล์หรือชาร์จ

11. เชื่อมต่อ iPhone ของคุณแบบไร้สาย

เมื่อไม่รองรับอุปกรณ์เสริมแบบมีสาย วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวคือใช้วิธีไร้สายในระหว่างนี้ นี่เป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการชาร์จ iPhone หากต้องการโอนไฟล์ คุณสามารถอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น iCloud หรือ Google Drive บน iPhone ของคุณ จากนั้นจึงเปิดไฟล์เข้าถึงไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณในภายหลัง

หากทำทุกอย่างแล้วไม่หาย ให้นำ iPhone ของคุณไปซ่อม

ควรติดต่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจาก Apple เพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม หากคุณมีแผน AppleCare คุณสามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple เพื่อนัดหมายที่ Apple Store ใกล้บ้าน เพื่อให้ช่างตรวจสอบได้

อ้างอิง makeuseof cover iT24Hrs

อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com

วิธีแก้ไอโฟนขึ้นข้อความ อุปกรณ์เสริมอาจไม่ได้รับการรองรับ หลังเสียบสายชาร์จ

อย่าลืมกดติดตามอัปเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us

Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs