Apple 2030 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 Apple ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์แรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch ใหม่ ที่สร้างด้วยนวัตกรรมด้านการออกแบบและพลังงานสะอาด ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Apple Watch ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนแต่ละเครื่องลดลงกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ โดย Apple มีแผนก้าวสู่ Apple 2030 ที่จะทำให้ทุกผลิตภัณฑ์รวมถึงซัพพลายเชนทั้งหมดทั่วโลก ลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนที่ลดลง

โดย Apple ยังได้ยุติการใช้หนังสัตว์ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ และเปิดตัวบรรจุภัณฑ์สำหรับ Apple Watch ใหม่ซึ่งทำจากเยื่อไม้ทั้งหมดเป็นครั้งแรก และจะขยายการใช้งานวัสดุรีไซเคิลใน iPhone อย่างต่อเนื่อง
Apple ยังได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ในแอปบ้านที่ชื่อว่า “พยากรณ์โครงข่ายไฟฟ้า” ซึ่งจะช่วยแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบเมื่อมีพลังงานสะอาดที่สามารถใช้งานได้สำหรับโครงข่ายพลังงานของตนเอง เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจได้ว่าเวลาใดที่ควรใช้ไฟฟ้า
Apple ประกาศอย่างหนักแน่นและชัดเจนว่า ทุกผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมด มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 ตามแผน Apple 2030
Apple ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากสามแหล่งที่สำคัญที่สุดตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์นั่นก็คือ พลังงานไฟฟ้า วัสดุ และการขนส่ง โดยหลังจากตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ลงให้มากที่สุดแล้ว จะใช้คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงจากโครงการด้านธรรมชาติเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือลดลงได้ด้วยโซลูชั่นที่มีอยู่

Apple Watch รุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนแต่ละเครื่องได้ทำตามเงื่อนไขที่เข้มงวดอันได้แก่ การใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ในการผลิตและการใช้งานผลิตภัณฑ์ การใช้วัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุหมุนเวียน 30 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนัก และการขนส่งที่ไม่ใช้การขนส่งทางอากาศ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยความพยายามต่างๆ เหล่านี้รวมกันแล้วส่งผลให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์
ส่งผลให้ฟุตพรินต์ของผลิตภัณฑ์มีความเป็นกลางทางคาร์บอน โดย Apple Watch ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนทุกเครื่อง ซึ่งรวมถึงรุ่น Series 9 และ SE เมื่อจับคู่กับสายแบบ Sport Loop ใหม่ และ Apple Watch Ultra 2 เมื่อจับคู่กับสายแบบ Trail Loop หรือ Alpine Loop ใหม่ ได้รับการรับรองโดย SCS Global Services ซึ่งเป็นผู้นำในด้านมาตรฐานและการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม

เส้นทางสู่ปี 2030
Apple Watch ที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นตัวแทนของย่างก้าวล่าสุดบนเส้นทางที่เริ่มต้นมากว่าสิบปีแล้ว โดยในปี 2020 Apple ประสบความสำเร็จในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานขององค์กรตนเองทั่วโลก และประกาศยุทธศาสตร์ Apple 2030 ซึ่งเป็นแนวทางอันยิ่งใหญ่ที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วทั้งซับพลายเชนให้ได้ภายในปี 2030 โดยแผนของ Apple เน้นไปที่การลดการปล่อยคาร์บอนโดยรวมถึง 75 เปอร์เซ็นต์จากระดับของปี 2015 การหลีกเลี่ยงกิจกรรมซึ่งก่อให้เกิดคาร์บอน การขยายการใช้พลังงานหมุนเวียนในการดำเนินงานทั่วทั้งองค์กรและซัพพลายเชน รวมถึงการออกแบบโดยใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียน ทำให้จนถึงตอนนี้ Apple ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้แล้วกว่า 45 เปอร์เซ็นต์มาตั้งแต่ปี 2015 โดยที่ยังคงมีความเติบโตด้านรายได้มากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะที่ Apple ยกระดับความพยายามในการลดคาร์บอนในซับพลายเชน ทุกผลิตภัณฑ์ต่างก็เป็นตัวแทนของโอกาสในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตและการชาร์จอุปกรณ์ไปจนถึงการใช้วัสดุและการขนส่ง
การผลิตทั้งหมดของ Apple Watch รุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนใช้พลังงานจากพลังงานไฟฟ้าสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ ผ่านการลงทุนและการจัดหาแหล่งทรัพยากรโดย Apple และซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ซัพพลายเออร์ทุกรายที่ผลิตชิ้นส่วนและองค์ประกอบต่างๆ สำหรับรุ่นนี้ยังให้คำมั่นที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมดภายในช่วงปลายทศวรรษ
Apple เริ่มต้นสร้างและลงทุนในโซลาร์ฟาร์มและทุ่งกังหันลมขนาดใหญ่เพื่อให้พลังงานแก่ศูนย์ข้อมูลและสำนักงานของตนเองเมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว โดยในปี 2015 บริษัทเริ่มทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตเพื่อช่วยพวกเขาเหล่านั้นในการสร้างและลงทุนในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมของตนเอง และใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิตให้กับ Apple ทั้งหมด นับตั้งแต่ปี 2018 สำนักงานองค์กรทั้งหมดของ Apple ศูนย์ข้อมูล และร้านค้าปลีกทั่วโลกต่างก็ใช้พลังงานจากพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน
โดยในขณะนี้ ซัพพลายเออร์ทั่วโลกมากกว่า 300 รายสำหรับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งคิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของซัพพลายเออร์ที่ Apple ใช้ในการผลิตโดยตรง ได้เข้าร่วมกับโครงการพลังงานสะอาดสำหรับซัพพลายเออร์ของ Apple และให้คำมั่นที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับการผลิตให้ Apple ทั้งหมดภายในสิ้นทศวรรษนี้
นวัตกรรมสำหรับดีไซน์ที่มีคาร์บอนต่ำ
เพื่อลดผลกระทบต่อโลกให้มากยิ่งขึ้นไปอีก Apple กำลังจะยุติการใช้หนังสัตว์ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPhone และสาย Apple Watch โดยจะแทนที่หนังสัตว์ด้วยสิ่งทอแบบใหม่ที่เรียกว่า FineWoven ซึ่งเป็นผ้าทวิลอันสวยงามและทนทานทำจากวัสดุซึ่งรีไซเคิลมาจากของใช้ในชีวิตประจำวัน 68 เปอร์เซ็นต์ FineWoven มีผิวที่ดูมันวาวเล็กน้อยและให้สัมผัสที่นุ่มนวลคล้ายหนังกลับ เป็นวัสดุที่ใช้กับเคสและกระเป๋าสตางค์ MagSafe สำหรับ iPhone รวมถึงสายแบบ Magnetic Link และ Modern Buckle สำหรับ Apple Watch
เนื่องจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุหมุนเวียนมักจะมีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำกว่าวัสดุที่นำมาใช้เป็นครั้งแรก ความก้าวหน้าในการใช้ส่วนประกอบรีไซเคิลของ Apple ที่อยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้เป้าหมาย Apple 2030 ของบริษัทมีความคืบหน้ายิ่งขึ้น และทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 และ Apple Watch ใหม่ก็ทำให้มีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้นในการก้าวสู่เป้าหมายของปี 2025 ในการใช้โลหะรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ในองค์ประกอบหลัก ซึ่งรวมถึงแม่เหล็กที่ทำจากแร่โลหะหายากรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ และการใช้โคบอลต์รีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งแรกในแบตเตอรี่ของ iPhone 15, Apple Watch Series 9 และ Apple Watch Ultra 2 นอกจากนี้สายนาฬิกายอดนิยมอย่างสายแบบ Sport Loop ก็ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยการใช้เส้นใยรีไซเคิล 82 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมถึงวัสดุที่ทำจากแหอวนที่ไม่ใช้แล้ว ผู้ที่ต้องการอัปเกรดไปใช้ Apple Watch รุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนใหม่ สามารถใช้ประโยชน์จากโครงการ Apple Trade In และ Apple จะนำอุปกรณ์มาประกอบใหม่สำหรับผู้ใช้คนใหม่หรือนำไปรีไซเคิลให้ฟรี
Apple ประสบความสำเร็จในการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากเยื่อไม้ 100 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งแรกสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple Watch และสายนาฬิกา บรรจุภัณฑ์ของ iPhone 15 ทุกรุ่นก็ทำจากเยื่อไม้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่ง
Apple กำลังเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งผลิตภัณฑ์จำนวนมากไปเป็นการขนส่งที่ทำให้เกิดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการขนส่งทางอากาศ อย่างเช่นการขนส่งทางเรือหรือทางรถไฟ ระเบียบวิธีวิจัยด้านคาร์บอนฟุตพรินต์ของ Apple แสดงให้เห็นว่า การขนส่งผลิตภัณฑ์เดียวกันทางเรือปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าการขนส่งทางอากาศถึง 95 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ Apple Watch รุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ทั้งตัวนาฬิกาและสาย บริษัทจะขนส่งอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวมทั้งหมดของผลิตภัณฑ์โดยไม่ใช้การขนส่งทางอากาศ ซึ่งตัดลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการขนส่งโดยรวมลงได้เกือบครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ของ Apple Watch รุ่น Series 9 และ SE ทั้งหมดยังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อความกะทัดรัด ด้วยรูปทรงที่เพรียวบางและเล็กลง ซึ่งทำให้สามารถขนส่งอุปกรณ์ได้เพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละครั้ง
ในขณะเดียวกัน Apple ก็ให้คำมั่นที่จะสนับสนุนความพยายามในวงกว้างในการขจัดก๊าซเรือนกระจกของอุตสาหกรรมขนส่ง อย่างเช่นการเข้าเป็นสมาชิกของ First Movers Coalition และสนับสนุนการวิเคราะห์เพื่อหาหนทางในการพัฒนาเชื้อเพลิงการขนส่งทางอากาศที่มีความยั่งยืน บริษัทยังแสวงหานวัตกรรมด้านเทคนิคใหม่ๆ รวมถึงการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกและยานพาหนะไฟฟ้า และเลือกคู่ค้าที่นำเสนอทางเลือกคาร์บอนต่ำเพื่อช่วยผลักดันการขจัดคาร์บอนของอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง
การลงทุนในวิธีการคุณภาพสูงในการขจัดคาร์บอน
Apple วางแผนที่จะจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหลืออยู่ด้วยคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่ได้มาจากโครงการเกี่ยวกับธรรมชาติซึ่งช่วยขจัดคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศ อย่างเช่นการฟื้นฟูทุ่งหญ้า พื้นที่ชุ่มน้ำ และป่า การขจัดคาร์บอนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการทำให้เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศระดับโลกประสบความสำเร็จ อย่างเช่นที่ได้รับการเน้นย้ำจากหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าอย่างคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change) ของสหประชาชาติ
Apple ให้นิยามคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงว่าได้แก่เครดิตจากโครงการซึ่งเกิดขึ้นจริง มีการขยายเพิ่มเติมได้ วัดผลได้ และมีข้อมูลในเชิงตัวเลข ที่มีระบบซึ่งหลีกเลี่ยงการนับจำนวนซ้ำและสามารถมั่นใจได้ในความยั่งยืน โดย Apple ได้ช่วยสร้างความก้าวหน้าให้กับการขจัดคาร์บอนด้วยวิธีทางธรรมชาติซึ่งตรงตามนิยามนี้ด้วยการก่อตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูที่สุดสร้างสรรค์ ซึ่งสนับสนุนโครงการต่างๆ ในทวีปละตินอเมริกาอยู่ในปัจจุบัน และบริษัทก็ใช้เครดิตจากโครงการซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติอย่างเช่น Verra; Climate, Community & Biodiversity Standard และ Forest Stewardship Council
สำหรับ Apple Watch รุ่นที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน คาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่ใช้ในการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่หลงเหลืออยู่ จะมาจากโครงการอย่างเช่นการลงทุนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูร่วมกับ Arbaro Advisors และ BTG Pactual Timberland Investment Group ซึ่งกำลังช่วยในการฟื้นฟูและปกป้องป่าเพื่อการใช้งานคุณภาพสูงและระบบนิเวศพื้นถิ่นในประเทศปารากวัยและบราซิล
รายละเอียดแผน Apple 2030 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน สามารถชมได้ทางเว็บไซต์ apple.com/2030
อ้างอิง และ cover Apple
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
Apple 2030 มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs