iOS16 กับ Android13 ต่างกันอย่างไร และเหมือนกันอย่างไร เป็นการเปรียบเทียบระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนล่าสุดในปี 2022 โดย Google เปิดตัว Android13 ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ส่วน Apple เปิดตัว iOS16 ในต้นเดือนกันยายน โดยฝั่ง Google ได้รวบรวมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีใน Android12 มาปรับแต่งและเพิ่มฟีเจอร์อีกเล็กน้อยใน Android13 ส่วน Apple มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บน iOS16 หลายอย่าง ทั้ง หน้าจอล็อคใหม่ล่าสุด การลากและวาง การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรที่เหมือนกัน และต่างกัน ของ 2 ระบบปฏิบัติการมือถือยอดนิยม
iOS16 กับ Android13 ต่างกันอย่างไร และเหมือนกันอย่างไร
หน้าจอล็อคและการปรับแต่งหน้าจอ
Android 12 และ Android 13 ได้ยกระดับการออกแบบอินเทอร์เฟซด้วย Material You ซึ่งเป็นเอ็นจิ้นการกำหนดธีมที่ใช้วอลเปเปอร์มีปรับจานสีโทนสี ให้แอปสีเดียวกับวอลเปเปอร์ได้
ในขณะที่ Apple ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานใดๆ กับหน้าจอล็อคตั้งแต่ iOS 7 ในปี 2013 แต่เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2022 โดยหน้าจอล็อคใหม่เอี่ยม ที่มาพร้อมกับวิดเจ็ต ตัวเลือกการสลับหน้าจอล็อคด่วน และโหมดโฟกัส
กลายเป็นว่าหน้าจอล็อค iOS 16 ของ Apple นั้นดีกว่า Android 13 อย่างก้าวกระโดด แม้ว่า Android เคยมีวิดเจ็ตบน Lock Screen เมื่อนานมาแล้ว (และถูกลบออกด้วย Android 5 Lollipop ในปี 2014) มีแนวโน้มว่าวิดเจ็ตได้รับการพิจารณาในภายหลังมากขึ้นเรื่อยๆ
Apple พัฒนาเกี่ยวกับวิดเจ็ตเมื่อเปิดตัวใน iOS 14 ในปี 2020 และอีกสองปีต่อมา ได้เพิ่มตัวเลือกวิดเจ็ตลงในหน้าจอล็อค โดยวิดเจ็ตล็อคหน้าจอของ Apple ช่วยให้คุณเพิ่มข้อมูลจำนวนมากลงในพื้นที่เล็กๆใต้นาฬิกาได้ ไม่ใช่แค่นั้น ยังทำให้นาฬิกาถูกปกปิดโดยใบหน้าหรือวัตถุในวอลล์เปเปอร์ สิ่งนี้ทำให้ประสบการณ์สามมิติ รวมกับตัวเลือกในการเปลี่ยนแบบอักษรและวอลเปเปอร์ตามที่คุณต้องการ
ตัวเลือกภาษาสำหรับแต่ละแอป
Android 13 เป็นรุ่นแรกของ Google ที่สนับสนุนตัวเลือกภาษาต่อแอป ซึ่งทำให้สามารถใช้แอปใดก็ได้ในภาษาที่คุณต้องการโดยไม่ขึ้นกับภาษาของระบบ ตัวเลือกนี้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่พูดมากกว่าหนึ่งภาษา โดย Google ให้คุณเปลี่ยนแอปเป็นภาษาอื่นได้ในโทรศัพท์ Pixel โดยกดแอปบนหน้าจอหลักค้างไว้ จากนั้นแตะปุ่มข้อมูลแอป (สัญลักษณ์ตัว i ) จากนั้นให้เลื่อนลงมาเล็กน้อยจนกว่าคุณจะเห็นตัวเลือกเมนูภาษา แตะแล้วคุณสามารถเลือกภาษาที่คุณต้องการ
หากคุณต้องการตั้งค่าแอปทั้งหมดเป็นภาษาที่คุณต้องการ คุณก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงไปที่ Settings ของมือถือ Android แล้ว ค้นหา System with the Languages & input menu (ภาษาและการป้อนข้อมูล) จากนั้นเลือกรายการภาษา คุณจะเห็นรายการแอปที่รองรับ ทั้งหมดและภาษาที่คุณกำหนดให้กับแอปเหล่านั้น
มาดูฝั่ง iOS ตัวเลือกภาษาสำหรับแต่ละแอปนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ iOS 16 เพราะฟีเจอร์นี้ Apple ได้ทำไว้แล้วตั้งแต่ iOS13 ในปี 2019 หากแอปได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ มากกว่าหนึ่งภาษาแล้ว นักพัฒนาไม่จำเป็นต้องเพิ่มโค้ดพิเศษ มีตัวเลือกการสลับภาษาสำหรับแต่ละแอปแสดงในการตั้งค่า
คีย์บอร์ด การเขียนตามคำบอก และคลิปบอร์ด
การเขียนตามคำบอก iOS 16 ของ Apple ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับ Apple แต่ Gboard บนมือถือ Android ยังทำได้มากกว่ามากรวมถึงยังใช้ทั้ง Android กับ iOS ด้วย ซึ่งต่างจากคีย์บอร์ดหลักของ Apple ที่ใช้ได้เฉพาะ iOS เท่านั้น
Gboard สามารถจัดเก็บ copy สองสามรายการล่าสุดที่คุณคัดลอกไว้เพื่อใช้ในภายหลังซึ่งรวมถึงภาพหน้าจอ แต่ตอนนี้ Android 13 มีตัวแก้ไขคลิปบอร์ดของตัวเองอยู่ในระบบ เมื่อใดก็ตามที่คุณคัดลอกข้อความหรือรูปภาพ ป๊อปอัปขนาดเล็กจะปรากฏขึ้นที่มุมล่างซ้าย คุณสามารถแชร์คลิปบอร์ดของคุณได้จากที่นั่นกับแอปหรือแก้ไขเนื้อหา มีประโยชน์มากหากต้องการแชร์เฉพาะบางส่วนของสิ่งที่คุณคัดลอกไว้
เครื่องเล่นสื่อ
สวยไม่ต่างกันมากทั้ง Android และ iOS ยกเว้นผู้ใช้ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ที่จะมีแจ้งเตือนเล่นเพลงใน dynamic island
การลากแล้ววางอัจฉริยะ
Apple ทำได้ดีการลากแล้ววางอัจฉริยะ ให้คุณเลือกวัตถุจากภาพถ่ายใดๆ บนหน้าจอของคุณ แตะค้างไว้แล้วลากไปวางได้เลย จะเป็นการส่งภาพเฉพาะวัตถุที่เลือกในภาพเท่านั้น ซึ่ง Android ไม่มี
Digital Wellbeing และโหมดโฟกัส
Apple นำโหมดโฟกัสมาสู่ iOS 15 เป็นครั้งแรก และ iOS 16 ก็พัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก โดยตัวกรองโฟกัสช่วยให้คุณสามารถกำหนดขอบเขตภายในแอปต่างๆ เช่น แอปปฏิทิน อีเมล หรือเบราว์เซอร์ที่ทำให้สามารถใช้โหมดโฟกัสเพื่อซ่อนบางส่วนของแอปจากสายตาของคุณได้ เช่น กลุ่มแท็บที่ทำงานเมื่อคุณอยู่ข้างนอก หรือนัดหมายทางธุรกิจเมื่อคุณต้องพักผ่อนในตอนกลางคืน โซลูชันของ Apple รู้สึกซับซ้อนและซับซ้อนเมื่อคุณตั้งค่าครั้งแรก คุณจะต้องคิดให้หนักจริงๆ ว่าแอปใดที่คุณต้องใช้ในการทำงาน และแอปใดที่คุณใช้ในเวลาว่าง และบุคคลใดบ้างที่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อคุณได้
ส่วน Android 13 ฟีเจอร์นี้รวบรวมไว้ใน Digital Wellbeing ช่วยให้คุณเลือกแอปที่รบกวนสมาธิและปิดแอปตามกำหนดเวลาหรือปิดด้วยตนเอง ในช่วงเวลานั้น คุณจะไม่สามารถเข้าถึงแอปที่ถูกบล็อกได้เลย สำหรับอย่างอื่น ขอแนะนำให้ใช้ Do Not Disturb ซึ่งจะปิดเสียงการแจ้งเตือนและการโทรทั้งหมด ซึ่งวิธีแก้ปัญหานี้อาจไม่ละเอียดเท่าของ Apple
ท้ายสุดนี้ ทั้ง iOS16 และ Android13 จะมีความเหมือนที่แตกต่างกัน เพื่อให้ประสบการณ์ในการใช้ระบบปฏิบัติการมือถือดีขึ้น ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานของคุณ
อ้างอิง AndroidPolice cover iT24Hrs-S
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
iOS16 กับ Android13 ต่างกันอย่างไร และเหมือนกันอย่างไร
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs