6 กรกฎาคม 2565 – แกร็บ ประเทศไทย จัดงาน “GrabNEXT ยกระดับประเทศไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เพื่อเปิดตัวเวทีเสวนาเชิงนโยบายประจำปีครั้งแรก ที่มุ่งส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน โดยได้รับเกียรติจาก นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นประธานในพิธีและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Better Life for Riders ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า” พร้อมกันนี้ ยังได้เชิญผู้นำทางความคิดชั้นนำระดับประเทศ อันได้แก่ ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้าน Digital Transformation สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา และ ดร.กาญจนา วานิชกร รองผู้อำนวยการ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) มาร่วมแสดงทรรศนะ พร้อมแนะนำแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทยเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำสู่เศรษฐกิจดิจิทัลผ่านการเสวนาในหัวข้อ “บทบาทของเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจยุคใหม่ที่ยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก คือ การทำงานแห่งโลกยุคใหม่ (Future of Work) การส่งเสริมการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Inclusion) และ การสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม (Sustainability & Environment) ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเต็ล อะ ลักชัวรี คอลเลคชั่น โฮเต็ล
จากซ้ายไปขวา คุณไดอาน่า จงจินตนาการ, ดร. ปานระพี รพิพันธุ์, คุณพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์, คุณวรฉัตร ลักขณาโรจน์, คุณจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม และ คุณวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
จากจุดเริ่มต้นเป็นแอปพลิเคชันเรียกรถ สู่การเป็นซุปเปอร์แอป ไม่เพียงแต่เป็นแอปเพื่อรับ-ส่งผู้โดยสารเท่านั้น ยังต่อยอดบริการหลากหลาย ทั้งการรับ-ส่งอาหาร หรือรับ-ส่งสิ่งของพัสดุต่าง ๆ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างงาน สร้างรายได้รูปแบบใหม่ขึ้นมาให้กับระบบเศรษฐกิจของคนไทย และเพื่อการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง แกร็บจึงไม่ได้มองเพียงแค่เฉพาะในเชิงธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมองถึงองค์รวมของประเทศไทยอีกด้วย จึงเกิดเวทีเสวนาเชิงนโยบายประจำปีครั้งแรก ของ แกร็บ ประเทศไทยขึ้น กับงานเสวนาสุดยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า “GrabNEXT ยกระดับประเทศไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เพื่อมุ่งส่งเสริม ผลักดัน ให้เกิดการใช้เทคโนโลยี เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย อย่างยั่งยืน
ภายในงาน นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมที่ผ่านมารวมถึงก้าวต่อไปของแกร็บ ที่มุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัล อันได้แก่
- การทำงานแห่งโลกยุคใหม่ (Future of Work)
ที่แพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันแกร็บเข้ามาเปิดโอกาสสร้างอาชีพ และรายได้รูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลาย โดยไม่จำกัด เพศ วัย การศึกษา หรือผู้พิการเองก็ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม เช่น เราหลายๆ คน อาจจะเคยได้รับบริการจากพาร์ทเนอร์คนขับที่บกพร่องทางการได้ยิน, พาร์ทเนอร์คนขับ LGBTQ+, พาร์ทเนอร์คนขับที่เป็นนักศึกษา, พาร์ทเนอร์คนขับที่ทำงานประจำ หรือแม้แต่พาร์ทเนอร์คนขับผู้สูงวัย ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็สามารถมาเป็นพาร์ทเนอร์กับทางแกร็บเพื่อหารายได้ โดยไม่แบ่งแยก มีความเท่าเทียมกัน ซึ่งปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์คนขับผู้สูงอายุ 3,000 กว่าคนเลยทีเดียว
รวมถึงยังมีการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานผ่านโปรแกรม Grabจัดให้ เช่น Grabให้ประกัน – การทำประกันอุบัติเหตุให้พาร์ทเนอร์คนขับทุกคน คุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท, Grabการเงิน – การให้สินเชื่อเงินสดแก่พาร์ทเนอร์คนขับ หรือส่วนลดจากพันธมิตร เป็นต้น
ก้าวต่อไปในประเด็นข้อนี้ แกร็บ ตั้งเป้าในปีนี้ ว่าจะร่วมผลักดันมาตรฐานรูปแบบการทำงานแห่งโลกยุคใหม่โดยเน้นไปใน 5 ด้าน (5 อ) อันได้แก่
อิสระ การส่งเสริมรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นและมีอิสระ ที่สามารถทำเป็นงานประจำ หรือทำเสริมเพื่อให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตมากยิ่งขึ้นของคนไทย ร้านค้าเล็ก ๆ ที่อยู่ในตรอกซอกซอย ก็สามารถร่วมได้ แม้จะไม่มีหน้าร้านก็ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับแกร็บได้อย่างอิสระ
อยู่ร่วมกัน การเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถอยู่ร่วมกันได้บนความหลากหลาย ไม่จำกัด เพศ วัย หรือ การศึกษา
อบรม การอบรมเพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในเรื่องเทคโนโลยีให้เข้าใจและ เข้าถึงง่ายขึ้นกว่าเดิม
อุ่นใจ การพัฒนาสิทธิประโยชน์เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพาร์ทเนอร์แกร็บ ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องประกันอุบัติเหตุที่มีอยู่แล้ว และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่จะเพิ่มต่อไปในอนาคต
อดออม การส่งเสริมการอดออมและบริหารทางการเงิน ใส่ใจกลุ่มแรงงานนอกระบบ
(Gig Economy) ให้มีความรู้ด้านการเงิน เพื่อส่งเสริมให้คนไทยมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น
- การส่งเสริมการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Inclusion)
แกร็บมุ่งเน้น พัฒนาและส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีต่อพาร์ทเนอร์มาโดยตลอด มีจุดเริ่มต้นมาจากพันธกิจ #GrabForGood แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า เพราะเข้าใจดีว่าเมื่อพาร์ทเนอร์เข้าถึงเทคโนโลยีได้ ก็จะสามารถเข้ามาสร้างประโยชน์รวมถึงรายได้จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้เช่นเดียวกัน จึงมีการส่งเสริมให้เจ้าของธุรกิจรายเล็ก กิจการ SMEs และพาร์ทเนอร์ร้านค้า เข้าถึงเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง เท่าเทียม เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในสังคมไทย นอกจากนี้แกร็บร่วมเป็นหนึ่งในแรงผลักดันเพื่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ดีขึ้นได้ จะเห็นได้จากโครงการ GrabAcademy หรือ Grabให้ความรู้ ที่มีการดำเนินโครงการมาเพื่อพัฒนาและส่งเสริมทักษะเชิงดิจิทัลให้กับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านอาหารทำให้ฝั่งร้านค้าก็ได้รับโอกาสในการสร้างยอดขายมากขึ้น ข้อจำกัดที่ว่าเปิดร้านอาหารต้องมีหน้าร้าน มีพนักงาน และมีทำเลที่ดี จึงถูกทลายลง เรียกได้ว่าเกิดการทำงานแบบโลกยุคใหม่สำหรับพาร์ทเนอร์ร้านค้าอย่างแท้จริง เมื่อมาพาร์ทเนอร์กับแกร็บ
ขณะเดียวกันนี้ แกร็บยังได้ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ผ่านโครงการ Grabการเงิน ที่ได้พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบสนองกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ โดยใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้า (Big Data) และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบ AI เช่น บริการสินเชื่อแบบผ่อนจ่ายรายวัน และบริการผ่อนชำระสินค้า เป็นต้น
สำหรับก้าวต่อไปของ Grab ในข้อนี้ ก็คือในปีนี้แกร็บเตรียมขยายการเข้าถึงความรู้ใน GrabAcademy หรือ Grabให้ความรู้ นี้ไปยังกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับสูงวัยให้มีความรู้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น พัฒนาเนื้อหาและวิธีการที่สามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น เพื่อจะได้สร้างประโยชน์ทั้งงานและรายได้อย่างเท่าเทียม ไม่แพ้คนวัยหนุ่มสาว พร้อมตั้งเป้าให้ขยายการให้สินเชื่อกับพาร์ทเนอร์คนขับและร้านค้าในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
- การสร้างความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อม (Sustainability & Environment)
สิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญทางสังคมที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ และร่วมกันแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและการขนส่ง แกร็บ จึงได้ริเริ่มโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยลดผลกระทบเชิงลบกับสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ อาทิ ได้เพิ่มฟีเจอร์งดรับช้อนส้อมพลาสติกแบบอัตโนมัติเมื่อสั่งอาหารผ่านแกร็บฟู้ด หรือฟีเจอร์พิเศษที่ชวนให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วมในการชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการบริจาคเงินเพื่อสมทบในการปลูกป่า
และล่าสุดกับการประกาศเป้าหมายระยะยาวในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV (Electronics Vehicle) เพราะมองในแง่มุมความยั่งยืนของพลังงานงาน ที่พลังงานน้ำมันนั้นลดน้อยลง และมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงในแง่ของรายได้ของพาร์ทเนอร์ แกร็บจึงตั้งเป้าเพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ให้ได้ 10% ของจำนวนพาร์ทเนอร์คนขับทั้งหมดภายในปี 2569 ทั้งยังได้ร่วมกับสถาบันการเงิน และผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพัฒนาโปรแกรม ‘สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับ’ เป็นต้น
ก้าวต่อไปในประเด็นข้อสุดท้ายนี้ ก็คือในปีนี้ แกร็บ เตรียมผนึกความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับและผู้จัดส่งอาหาร-พัสดุอย่างต่อเนื่อง
( สามารถดูรายละเอียดข้อมูลจากรายงานประจำปี 2565 ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลของกิจการ (ESG) ระดับภูมิภาคของ แกร็บ ได้ที่ Annual Environment, Social and Governance (ESG) Report )
ทั้งนี้ ในระหว่างการเสวนาในหัวข้อ “บทบาทของเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจยุคใหม่ที่ยั่งยืน” นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา กล่าวว่า “ ในบริบทของเศรษฐกิจดิจิทัล เราสามารถมองเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมหาศาลในการดำเนินธุรกิจ แต่อีกหนึ่งมุมที่เราไม่ควรมองข้าม ก็คือ จะใช้เทคโนโลยีอย่างไรเพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจดิจิทัลได้ ดังนั้น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น แกร็บ จึงสามารถมีบทบาทสำคัญในการใช้ความเชี่ยวชาญของตน ไม่ว่าจะเป็นด้านข้อมูลเชิงลึก หรือด้านนวัตกรรม ในการร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาทางสังคมอย่างยั่งยืนและเท่าเทียม”
จากการเปิดพื้นที่เป็นเวทีในการหารือเชิงนโยบายอย่างสร้างสรรค์สุดยิ่งใหญ่ครั้งแรกของแกร็บ กับ “GrabNEXT ยกระดับประเทศไทย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” นี้ ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของ แกร็บ ประเทศไทย ที่ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่มุมมองเชิงธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมองถึงองค์รวมภายในประเทศไทย เห็นการเติบโต และทิศทาง รวมถึงก้าวต่อไปของแกร็บ ที่มาจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของการเป็นเพียงแอปพลิเคชันเรียกรถ สู่การเป็นซุปเปอร์แอปที่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจเคียงข้างคนไทย ตอกย้ำพันธกิจ #GrabForGood แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า และยังได้เห็นมุมมองอันหลากหลายของแนวทางการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และแนวทางร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาคน สร้างสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างยังยืน ยิ่งกว่าเดิม
สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GrabNEXT ได้ที่เว็บไซต์ www.grab.com/th/grabnext/
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs