NAS คืออะไร – ในวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องของธุรกิจ ซึ่งทำให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องปรับรูปแบบการทำงานอย่างรวดเร็วจากที่ทำงานร่วมกันในออฟฟิศ มาเป็นแบบ Work from Home โดยการทำงานจากที่ไหนก็ได้นี้จะต้องเป็นไปอย่างราบรื่น สามารถเข้าถึงและทำงานร่วมกันบนไฟล์งานต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเหมือนอยู่ในออฟฟิศ
หลาย ๆ บริษัทจึงเลือกที่จะใช้บริการคลาวด์สาธารณะแทน Windows File Server แต่การเช่าพื้นที่จัดเก็บสาธารณะนี้จะมาพร้อมกับความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัท และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามขนาดพื้นที่จัดเก็บและจำนวนผู้ใช้งาน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจ SMB หลาย ๆ รายเริ่มมองทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าสำหรับไฟล์เซิร์ฟเวอร์บริษัทในระยะยาวที่จะตอบโจทย์ทั้งด้านค่าใช้จ่าย ความปลอดภัยข้อมูลและการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบ Work from Home
ซึ่งทำให้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล NAS (Network-attached Storage) ที่ปลดล็อคปัญหาทั้งหมดนี้ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น โดยบริษัท Synology ผู้ผลิต NAS ชั้นนำได้พัฒนาและออกแบบอุปกรณ์นี้ให้ตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจที่กำลังเติบโต บทความนี้เรามาทำความรู้จักกันว่า NAS คืออะไร และทำไม NAS ของ Synology ถึงเรียกได้ว่าเป็นทางเลือกใหม่ทีคุ้มค่ากว่าสำหรับ SMB
Network-attached Storage – NAS คืออะไร
NAS (Network-attached Storage) คือ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
พร้อมทั้งเป็นเซิร์ฟเวอร์ข้อมูลแบบ All-in-One ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการใช้งานด้าน IT ของ SMB ทำงานในรูปแบบของ On-premise private cloud (คลาวด์ส่วนตัว) ช่วยลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูลจากการใช้บริการคลาวด์สาธารณะได้ สามารถจัดเก็บข้อมูลไฟล์งานต่าง ๆ ตั้งแต่เอกสารสำคัญ ไปจนถึงรูปภาพ เพลง และวิดีโอ โดยที่ผู้ใช้งานที่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงจะสามารถเข้าใช้งานข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ผ่านอินเทอร์เน็ตบนเว็บบราวเซอร์ หรือแอปมือถือ ยิ่งไปกว่านั้น NAS ยังมาพร้อมกับโซลูชันการแชร์ไฟล์ การทำงานร่วมกัน การจัดการดูแลระบบแบบรวมศูนย์ และระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในตัวอีกด้วย
สิ่งที่ธุรกิจต้องเผชิญเมื่อใช้ Windows File Server และระบบคลาวด์สาธารณะ
องค์กรธุรกิจที่ใช้ Windows File Server ก็จะต้องเผชิญกับข้อจำกัดในเรื่องของการเข้าถึงไฟล์แบบ Remote โดยจำเป็นต้องใช้งาน VPN เมื่อต้องทำงานจากระยะไกลหรือการทำงานผ่านมือถือ ซึ่งนั่นก็หมายถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มมากขึ้นตามมา นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายของฮาร์ดแวร์ ค่าลิขสิทธ์การใช้งาน รวมถึง Client Access License ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งที่สูงอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีในเรื่องของการแชร์ไฟล์ที่ใช้วิธีการส่งผ่านเอกสารแนบอีเมล หรือบางครั้งพนักงานก็ใช้บัญชีคลาวด์สาธารณะส่วนตัวเพื่อส่งข้อมูลบริษัทให้กับลูกค้า หรือบุคคลภายนอกองค์กร ซึ่งก็อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลธุรกิจได้
สำหรับองค์กรธุรกิจที่ใช้บริการคลาวด์สาธารณะก็ต้องเผชิญกับค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกที่อาจจะสูงขึ้นเมื่อใช้งานไปเป็นระยะเวลานานๆ เนื่องจากจะต้องมีการเพิ่มพื้นที่จัดเก็บรองรับปริมาณไฟล์ที่เพิ่มมากขึ้น และในกรณีที่มีผู้ใช้งานร่วมกันเพิ่มขึ้นก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอีกด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ก็ยังมีเรื่องของการใช้งานอีกหลายประการที่เป็นข้อกังวล เช่น ความเร็วในการถ่ายโอนไฟล์ช้าเมื่อเข้าสู่ที่เก็บข้อมูลระบบคลาวด์ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล รวมถึงปัญหาที่ไม่คาดคิดต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะอีกด้วย
และถึงแม้ว่าหลาย ๆ องค์กรจะเลือกใช้งานทั้ง Windows File Server และที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์สาธารณะร่วมกัน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของธุรกิจ แต่ก็อาจจะไม่มีการวางระบบบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ที่มีประสิทธิภาพที่จะประสานการทำงานร่วมกันระหว่าง Windows File Server และระบบคลาวด์สาธารณะ ส่งผลให้เกิดการซ้ำซ้อนของไฟล์ และเปลืองพื้นที่การจัดเก็บโดยไม่จำเป็น
จากข้อจำกัดของ Windows File Server และระบบคลาวด์สาธารณะ ทั้งในเรื่องของงบประมาณค่าใช้จ่ายที่สูง และข้อจำกัดในการใช้งาน ปัจจุบันนี้ NAS ของ Synology ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เซิร์ฟเวอร์ข้อมูลแบบ All-in-One และ On-premise private cloud จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยตอบโจทย์การทำงานทางด้าน IT ที่มีประสิทธิภาพให้กับ SMB ในระยะยาว และลดต้นทุนไฟล์เซิร์ฟเวอร์ธุรกิจได้สูงถึง 91%
**อ้างอิงตารางเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย ระหว่าง Synology NAS กับ Windows File Server และ Public Cloud Server คลิก ดาวน์โหลดตารางเปรียบเทียบราคา
5 เหตุผลทำไม Synology NAS ถึงเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานทางด้าน IT ของ SMB
1. One Time Cost for Long Term Investment (ลงทุนครั้งเดียวสำหรับการใช้งานระยะยาว)
สำหรับ Synology NAS นั้นจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับฮาร์ดแวร์เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ตัวอุปกรณ์มาพร้อมกับระบบการจัดการในตัวเรียบร้อยแล้ว รองรับการผู้ใช้งานพร้อมกันเป็นหลักร้อยและพันคนขึ้นไป เพียงแค่เลือกรุ่นให้เหมาะกับความต้องการใช้งานของธุรกิจ ก็สามารถใช้งานกันได้ไปยาวๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน รายปี เหมือนกับคลาวด์สาธารณะ หรือค่าสิทธิ์การใช้งาน CAL และ Software License อย่าง Windows File Server แบบดั้งเดิม เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยายาวจริง ๆ
2. Easy to Scale Up According to Your Needs (ปรับขยายพื้นที่จัดเก็บได้ตามความต้องการ)
ธุรกิจที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับข้อมูลทางดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจประสบกับปัญหาการจัดการและจัดเก็บข้อมูล แต่ด้วยรูปแบบการใช้งานของ Synology NAS องค์กรธุรกิจสามารถเริ่มต้นวางแผนการใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เหมาะสมกับการใช้งานของธุรกิจตามต้องการ เมื่อข้อมูลมากขึ้น ธุรกิจก็สามารถขยายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้ไม่จำกัดตามความจำเป็นในการใช้งาน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน ช่วยจัดเก็บข้อมูลสำรองเฉพาะที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ทำให้ลดปริมาณการจัดเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อน และยังเพิ่มศักยภาพพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
3. Productive Environment Made for Employees (สภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นสำหรับพนักงาน)
Synology NAS มาพร้อมระบบปฎิบัติการ DiskStation Manager (DSM) เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ที่ใช้งานง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับ SMB โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่ปรับการใช้งานจากระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์แบบเก่าที่ไม่มีฟีเจอร์การแชร์และซิงค์ไฟล์ หรือระบบรวมศูนย์ไฟล์ที่มีประสิทธิภาพ DSM ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานร่วมกัน แชร์และเข้าถึงไฟล์ได้ผ่านอินเทอร์เน็ตจากทุกที่จากหลากหลายอุปกรณ์ ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการไฟล์และเวอร์ชั่นที่กระจัดกระจายได้เป็นอย่างดี
ด้วย Synology Drive และ Synology Office ทำให้ธุรกิจสามารถทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์บนเอกสารในตัว อย่าง Documents(เอกสาร) Slides (สไลด์) และ Spreadsheet (เอกสารชีท) รวมถึงรวมศูนย์ไฟล์เอกสารทั้งหมด ผู้ใช้งานสามารถแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ระหว่างสำนักงานและบุคคลภายนอกได้อย่างง่ายดายผ่านลิงก์ที่สามารถกำหนดรหัสผ่าน ระยะเวลาตรวจสอบ หรือสิทธิ์อนุญาตให้ดาวน์โหลดหรือคัดลอกไฟล์ได้ (คุณสมบัตินี้ใช้ได้สำหรับแอปมือถือ Drive เท่านั้น) นอกจากนี้ยังรองรับการเก็บประวัติเวอร์ชั่นได้ไม่จำกัดจำนวน สามารถนำเข้า/ส่งออก Microsoft Office หรือ OpenOffice ได้อย่างง่ายดาย และรองรับโพรโตคอลไฟล์อย่างครอบคลุม ได้แก่ SMB/CIFS, AFP, NFS, FTP, WebDAV, เว็บพอร์ทัล และแอปในมือถือ
4. Reliable Data Protection Plan (กลยุทธ์การปกป้องข้อมูลที่น่าเชื่อถือ)
Synology NAS มาพร้อมกับแพคเกจการสำรองและกู้คืนข้อมูลในตัว ช่วยให้ธุรกิจ SMB สามารถวางแผนปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กรด้วยกลยุทธ์ 3-2-1ได้ตามต้องการ และควบคุมการจัดการงานสำรองข้อมูลทั้งหมดผ่าน console เดียว ธุรกิจสามารถเลือกใช้งานโซลูชันสำรองข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น
-
-
Active Backup Suite เพื่อสำรองข้อมูลจากหลากหลายต้นทาง เช่น VMware, Hyper-V, Windows endpoints, Microsoft 365 และ Google Workspace มายัง Synology NAS ด้วย
-
Hyper Backup เพื่อสำรองข้อมูลหลากเวอร์ชันไปยังหลากหลายปลายทาง เช่น ไปยัง Synology NAS อีกเครื่อง, Public Cloud, ผ่าน rsync หรืออุปกรณ์ USB
-
Snapshot Replication เพื่อสร้างงานสำรองข้อมูลแบบ point-in-time พร้อมฟังค์ชันการคัดลอกข้อมูลไปยัง Synology NAS อีกเครื่อง ทำให้สามารถกู้คืนข้อมูลและ config ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
-
ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวมศูนย์งานสำรองข้อมูลทั้งหมด ด้วยกลยุทธ์งานสำรองข้อมูลทั้งในและนอกสถานที่ ปกป้องการโจมตีจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างง่ายดายและครอบคลุม ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
5. Perfect Fit in Any IT Environments (เข้ากันได้กับทุกสภาพแวดล้อม IT เดิม)
สำหรับองค์กรธุรกิจที่ต้องการปรับเปลี่ยนมาใช้ Synology NAS ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บไว้อยู่เดิม เพราะการย้ายโอนข้อมูลสามารถทำได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานเดิม ช่วยลดความยุ่งยากให้กับทีม IT ขององค์กร ไม่ว่าจะย้ายข้อมูลจาก Windows Server ก็สามารถย้ายข้อมูลไฟล์ทั้งหมดรวมถึงการตั้งค่าโดเมนสิทธิ์ ACL มายัง Synology NAS และการผนวกรวมกับ Windows AD, Azure ID และ LDAP เพื่อให้การทำงานกับบริการไดเรกทอรีทั่วไปเป็นไปอย่างราบรื่น
รวมไปถึงการควบคุมให้สิทธิ์ผู้ใช้งาน Synology NAS ที่ช่วยให้ผู้จัดการ IT สามารถจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพของสภาพแวดล้อมด้าน IT ขององค์กรได้อย่างเป็นระบบ เช่น การใช้งาน Synology Drive Admin Console ผู้จัดการ IT สามารถจัดการประเภท/ขนาดของไฟล์ที่สามารถซิงค์ตามผู้ใช้แต่ละรายหรือเป็นกลุ่มได้ ผู้ดูแลระบบ IT ยังสามารถควบคุมได้ว่า ผู้ใช้ได้รับอนุญาตให้เชิญผู้ใช้รายอื่นหรือเผยแพร่สู่สาธารณะเพื่อเปิดการประสานงานหรือไม่ หรือเมื่อติดตั้งโปรแกรม Desktop Utility – Synology Drive Client คุณสมบัติ On-demand Sync จะช่วยให้ผู้ใช้เห็นและเข้าถึงไฟล์ใน NAS ได้โดยไม่ต้องใช้พื้นที่เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ไฟล์จะดาวน์โหลดลงในคอมพิวเตอร์เฉพาะตอนที่ผู้ใช้งานต้องการเท่านั้น (รองรับ Windows 10 เท่านั้น)
บทสรุป Synology NAS สำหรับธุรกิจ SMB
โควิด-19 ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันแบบ Work from Home หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ และเพื่อให้ยังคงมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเหมือนทำงานอยู่ที่เดียวกันที่ออฟฟิศ และมีความปลอดภัยในการใช้งานข้อมูล จึงทำให้ Synology NAS หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะที่เป็นทั้ง File Server และ Private Cloud นั้นเข้ามาตอบโจทย์การทำงานด้าน IT ให้กับองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดี สำหรับองค์กรธุรกิจ SMB ไหนที่ต้องการลดต้นทุนระยะยาวจากการใช้ระบบ Windows File Server แบบเดิม ๆ หรือระบบคลาวด์สาธารณะมาใช้ Synology NAS ก็สามารถเลือกศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลย
-
หากสนใจต้องการทราบข้อมูลเรื่อง NAS สำหรับธุรกิจที่มากขึ้น สามารถร่วมงานสัมมนาออนไลน์ฟรี หัวข้อ “ลดต้นทุนจัดเก็บและเสริมเกราะป้องกันข้อมูลธุรกิจ SMB ด้วย Synology NAS” วันที่ 31 มีนาคม 2564 เวลาบ่าย 2 โมงตามเวลาไทย (บรรยายภาษาไทย)
คลิก ลงทะเบียนได้เลย
-
ผู้ที่สนใจปรึกษาด้านการติดตั้งใช้งาน คลิก สอบถามเพิ่มเติม
Cover iT24Hrs
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
NAS คืออะไร รู้จักกับ Synology NAS ทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่ากว่าของ SMB เพื่อการทำงานร่วมกันแบบเจ๋ง ๆ
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
Facebook it24hrs