Apple ประกาศจัดงาน WWDC 2020 จัดขึ้นเป็นปีที่ 31 โดยจะจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ใหม่ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเหล่านักพัฒนาที่มีความคิดสร้างสรรค์นับล้านคนในการเข้าถึงข้อมูลอัพเดทใหม่ๆ ของ iOS, iPadOS, macOS, watchOS และ tvOS ก่อนใคร ตลอดจนมีส่วนร่วมกับวิศวกรของ Apple ในระหว่างที่พวกเขากำลังพัฒนาประสบการณ์การใช้แอพที่ยกระดับชีวิตของลูกค้า Apple ทั่วโลก งาน WWDC นี้จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ที่จะถึงนี้
Apple ประกาศจัดงาน WWDC 2020
“เราจะจัดงาน WWDC 2020 ในเดือนมิถุนายนนี้ในรูปแบบที่ล้ำสมัยเพื่อนักพัฒนานับล้านคนทั่วโลก ซึ่งจะเป็นการนำชุมชมนักพัฒนามารวมตัวกันด้วยประสบการณ์แบบใหม่” Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Apple กล่าว
“สถานการณ์ด้านสุขภาพในปัจจุบันทำให้เราต้องจัดงาน WWDC 2020 ในรูปแบบใหม่ที่นำเสนอกิจกรรมทั้งหมดผ่านคีย์โน้ตและเซสชั่นออนไลน์ ส่งมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมให้กับชุมชนนักพัฒนาของเราทั่วโลก เราจะแบ่งปันรายละเอียดทั้งหมดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” “ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ทั้งหมดที่เรากำลังพัฒนาอยู่ งาน WWDC 2020 จะต้องใหญ่มากแน่ๆ” Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว “ผมหวังว่านักพัฒนาของเราจะได้ทดลองโค้ดใหม่ๆ และโต้ตอบในรูปแบบใหม่กับวิศวกรของ Apple ผู้สรรค์สร้างเทคโนโลยีและเฟรมเวิร์กที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของทุกแพลตฟอร์มของ Apple”
โปรแกรมของงาน WWDC 2020 จะมอบข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือต่างๆ ที่จำเป็นในการเปลี่ยนไอเดียให้เป็นจริงให้กับชุมชนนักพัฒนาทั่วโลกของ Apple และนักพัฒนาแอพรุ่นต่อไป ซึ่งขณะนี้มีนักพัฒนาที่ลงทะเบียนมากกว่า 23 ล้านคนในกว่า 155 ประเทศและภูมิภาค โดย Apple จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมผ่านทางอีเมล ในแอพ Apple Developer และบนเว็บไซต์ Apple Developer ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงเดือนมิถุนายน
Apple ยังประกาศว่าจะมอบเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่องค์กรท้องถิ่นในซานโฮเซเพื่อชดเชยการสูญเสียรายได้ที่เกี่ยวข้อง อันเป็นผลมาจากการจัดงาน WWDC 2020 ในรูปแบบออนไลน์ใหม่
งาน WWDC 2020 จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและเฟรมเวิร์กใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้สร้างประสบการณ์การใช้แอพใหม่ๆ ในด้านต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีความจริงเสริม การเรียนรู้ของระบบ สุขภาพและการออกกำลังกาย ระบบอัตโนมัติภายในบ้าน และอื่นๆ อีกมากมาย
อ้างอิง Apple
Cover Apple