มือถือตกน้ำทำยังไงดี – คำอุทาน 108 คำคงได้หลุดออกมาถ้าเราบังเอิญทำน้ำหกใส่มือถือ หรือเผลอทำมือถือสุดที่รักของเราตกน้ำถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่ในตลาดตอนนี้ มักจะมีฟีเจอร์กันน้ำได้ 5-10 เมตร แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ รุ่นที่ยังไม่มีฟีเจอร์นี้ ในปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นเหมือนเลขาประจำตัวของเราไปแล้วไม่ว่าจะเป็นช่วยบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ติดต่อกับลูกค้าหรือเจ้านาย ดังนั้น มือถือของเราก็เต็มไปด้วยข้อมูลไม่ว่าจะเป็นรูปภาพที่ถ่ายเอาไว้ เบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าต่าง ๆ รวมไปถึงไฟล์งานที่บันทึกเก็บไว้ในเครื่อง แล้วถ้าอยู่ ๆ เลขาของเราเกิดป่วยขึ้นมาใช้งานไม่ได้ ชีวิตประจำวันของเราก็อาจจะวุ่นวายขึ้น แต่ไม่ต้องกังวลหรือหมดหวังไป IT24hrs จะมานำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหามือถือตกน้ำเบื้องต้นให้เอง
มือถือตกน้ำทำยังไงดี สิ่งทำห้ามทำเมื่อมือถือตกน้ำมีอะไรบ้าง
แล้วทำไมน้ำถึงทำให้มือถือพังได้?
“น้ำ” ถือว่าเป็นจุดอ่อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด เพราะการที่เครื่องของเรานั้นโดนของเหลวโดยตรง น้ำที่สัมผัสนั้นอาจจะไหลไปยังแผงวงจรทำให้เกิดพลังงานความร้อนสูงกว่าปกติจนเกิดอาการไหม้อีกด้วย และความเชื่อแบบผิด ๆ ที่ทำให้มือถือของเราพังเร็วขึ้นกว่าเดิม คือ การปล่อยให้มือถือที่ตกน้ำแห้งด้วยตัวเอง เพราะยิ่งปล่อยให้น้ำอยู่กับวงจรหรือคอยล์นานเท่าไหร่ ก็จะเกิดการกัดกร่อนมากขึ้นเท่านั้น หรือความชื้นก็สามารถทำให้มือถือของเราพังได้ ตัวระบบอาจยังไม่ได้แสดงอาการในทันทีแต่พอเรารู้ตัวอีกทีมือถือของเราก็พังเสียแล้ว อีกสิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ ประเภทของน้ำที่ ถึงแม้ว่าการทำโทรศัพท์มือถือตกส้วมอาจจะดูสกปรกอย่างรุนแรง แต่ชนิดของน้ำที่ส่งผลต่อมือถือจริง ๆ คือน้ำทะเล เพราะน้ำเค็มมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนมากกว่าน้ำจืดมาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้อย่าทำมือถือโดนหรือตกลงน้ำทุกชนิดจะดีที่สุด
สิ่งที่ควรจะรีบทำเมื่อโทรศัพท์ตกน้ำ
ตั้งสติและหยิบมือถือออกมาน้ำก่อนอย่างแรก เพราะมือถือยิ่งอยู่ในน้ำนานความเสียหายก็จะยิ่งมากขึ้นตาม ดังนั้นเมื่อโทรศัพท์ตกน้ำ หยิบขึ้นมาได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีที่สุด แล้วหลังจากหยิบขึ้นมาแล้วทำขั้นตอนดังต่อไปนี้
- รีบปิดมือถือ และนำสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่ติดอยู่กับมือถือออกให้หมด (ถ้าเราไปเที่ยวน้ำตกหรือทะเลอาจจะมีพืชที่ไหลมาตามน้ำ ให้หยิบออกให้หมด)
- เช็คทุกพื้นผิวให้สะอาดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์และเจลทำความสะอาด (ใส่ถุงมือด้วยถ้าจำเป็น)
- ทำให้มือถือแห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนั้น
- ถอดทุกอย่างออก ไม่ว่าจะเป็น แบตเตอรี่ (ถ้ามือถือที่เราใช้สามารถถอดได้), ซิมการ์ด รวมถึงอุปกรณ์สายหูฟังต่าง ๆ
- ตั้งมือถือไว้ในแนวตั้ง ถ้าถอดแบตเตอรี่ออกไม่ได้
- ขั้นตอนต่อไป ส่งศูนย์บริการหรือร้านซ่อมโทรศัพท์ ที่น่าเชื่อถือ เพราะจุดที่น้ำเข้าไปสร้างความเสียหายนั้นอาจจะอยู่ในส่วนของมือถือที่ผู้ใช้งานเข้าไปไม่ถึง นอกเสียจากว่าบ้านของผู้ใช้งานเป็นร้านซ่อมอุปกรณ์อยู่แล้วถึงมีสกิลระดับช่างที่สามารถถอดวงจรมือถือออกมาทำความสะอาดได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ กรุณาส่งให้มืออาชีพดูแลเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากที่สุด
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดเมื่อมือถือตกน้ำ
- ห้ามอบมือถือด้วยไมโครเวฟเด็ดขาด เพราะไมโครเวฟถูกสร้างขึ้นเพื่ออุ่นอาหารไม่ใช่มือถือ การนำมือถือเอาไปนั้นอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงไฟไหม้ได้
- ห้ามนำมือถือไปแช่ช่องแข็ง – เพราะน้ำแข็งคือน้ำที่แข็งจนจำตัวกันเป็นก้อน ดังนั้นเมื่อน้ำแข็งละลาย ก็กลายเป็นน้ำเข้าไปในมือถืออยู่ดี
- ห้ามใช้ไดร์เป่าผม เป่าน้ำให้แห้งเด็ดขาด เพราะความร้อนจากไดร์ จะทำให้แผงวงจรไหม้อยู่ดี
- ห้ามใช้ไอร้อนจากเครื่องทำความร้อนต่าง ๆ ทำให้แห้ง เพราะความร้อนเป็นตัวการหลักที่จะทำให้แผงวงจรไหม้ ไม่ว่าความร้อนจะมากหรือน้อยก็ตาม
- ห้ามนำไปแช่ข้าวสาร ความเชื่อที่เป็นที่นิยมมากที่สุด หลายคนอาจจะนึกถึงข้อนี้เป็นข้อแรกในการป้องกันมือถือพัง “ความเชื่อที่ว่าข้าวสารจะช่วยดูดความชื้น” แต่ผลการวิจัยก็ออกมาว่า มันก็ไม่ได้เร็วพอที่จะช่วยชีวิตมือถือจากการกัดกร่อนของน้ำอยู่ดี
ข้อปฏิบัติแนะนำในการหลีกเลี่ยงไม่ให้มือถือเสียหายจากการตกน้ำ
- หาซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นที่กันน้ำได้ หรือเคสกันน้ำมาใช้งาน ซึ่งมาตรฐานอาจจะไม่ได้กันน้ำแบบ 100% แต่เพื่อการป้องกันเบื้องต้นก็ช่วยให้อุ่นใจในระดับหนึ่ง
- หลีกเลี่ยงไม่ใช้งานโทรศัพท์มือถือในสถานการณ์ที่ ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือโอ่งมังกรหน้าบ้าน เก็บมือถือในกระเป๋าให้เรียบร้อย หรือถ้าจำเป็นต้องใช้งานจริง ๆ พยายามจับมือถือให้มั่นคงเมื่ออยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ
- งดใช้มือถือในห้องน้ำถ้าไม่ได้อะไรเร่งด่วน ควรทำธุระทีละอย่าง
นี่คือ ขั้นตอน สิ่งต้องห้าม และข้อปฏิบัติเพื่อรักษามือถือตกที่น้ำง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าสิ่งที่ต้องมีและขาดไม่ได้คือ “สติ” เพราะการโทรศัพท์มือถือตกน้ำเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นแต่ถ้ามันบังเอิญเกิดขึ้นแล้วก็ทำตามทุกอย่างที่กล่าวมาแล้วได้เลย แต่ถ้าเราจำเป็นจะต้องนำมือถือออกไปเสี่ยงกับแหล่งน้ำ สามารถอ่านต่อได้ที่นี้เลย >> เตรียมมือถือให้พร้อมเล่นน้ำ
สาระน่ารู้เพิ่มเติม
อ้างอิง : whoosh
Cover iT24Hrs-S