ภาษีแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างชาติ กำลังจะมาหลัง คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบนําเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลรัษฎากรฯ เพื่อจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผู้ให้บริการอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ หรือภาษีแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างชาติ ตามที่กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรเสนอ
ภาษีแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างชาติ สร้างความเป็นธรรมทางการค้า
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ส่งร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มกรณีการให้บริการ ทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-Service) ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรเสนอ ในการจัดทําร่างกฎหมาย ดังกล่าวกรมสรรพากรได้นําผลการศึกษาขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ ภาษีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่มีข้อเสนอแนะให้ผู้ประกอบการต่างประเทศหรือดิจิทัลแพลตฟอร์มเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและมีหน้าที่นําส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่หน่วยงานจัดเก็บภาษี เป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพและดําเนินการได้มากที่สุด
ปัจจุบันมีกว่า 50 ประเทศที่ เก็บภาษี โดยนําแนวทางของ OECD มาแก้ไขปัญหาการจัดเก็บภาษี เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ เป็นต้น”
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ร่างพระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลรัษฎากรฯ กําหนดให้ผู้ให้บริการ e-Service จากต่างประเทศ หรือ ภาษีแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างชาติ (เช่น การให้บริการดาวน์โหลดภาพยนตร์และสื่อบันเทิงต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต) ที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ต่อปี จากการให้บริการผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์แก่ลูกค้าในประเทศไทยที่ไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยื่นแบบแสดงรายการภาษีและนําส่งภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ กรมสรรพากร เช่นเดียวกับแนวคิดของ OECD ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความง่ายและอํานวยความสะดวกในการชําระภาษี สําหรับผู้ใช้บริการที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยผู้ให้บริการจากต่างประเทศทําหน้าที่นําส่งภาษีแทน ผ่านระบบบริการจดทะเบียนและชําระภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างง่าย (Simplified VAT)”
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวสรุปว่า การปรับปรุงกฎหมายในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการในประเทศไทยกับผู้ประกอบการในต่างประเทศ ที่ให้บริการในประเทศไทย ทําให้การจัดเก็บภาษีมีความเหมาะสม สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และยังเป็น การปรับปรุงกฎหมายภาษีไทยให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับแนวทางการจัดเก็บภาษีของนานาประเทศ และ กรมสรรพากรคาดว่าการปรับปรุงกฎหมายเก็บภาษีแพลตฟอร์มออนไลน์ จะช่วยทําให้จัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3 พันล้านบาท
อ้างอิง facebook กรมสรรพากร
cover iT24Hrs-S