Social Distancing คืออะไร Social Distancing หรือ การรักษาระยะห่างทางสังคม คือ การสร้างระยะห่างจากตัวเราเองกับคนอื่นๆ โดยงดการไปในสถานที่ที่มีคนแน่นๆ หรือ กิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก หลีกเลี่ยงการใช้รถขนส่งสาธารณะ ลดดการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านโดยไม่จำเป็น รวมถึงการปรับการทำงานให้เป็นแบบ Work from Home หรือ ทำงานจากที่บ้าน ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นการช่วยลดจำนวนติดต่อของเชื้อไวรัสระหว่างกันในทุกวันลงได้ ด้วยหลักการที่ว่า “โรคติดต่อ จะไม่ติดต่อ ถ้าคนไม่ติดต่อกัน” หากคนในสังคมช่วยกันก็จะสามารถลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไปได้มากและจะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ในที่สุด
Social Distancing ต้องทำอย่างไร ?
สถานการณ์ปัจจุบันคนที่น่ากลัวกว่าคนที่ติดเชื้อโควิด19 ที่พวกเรารู้ว่าเป็นใครก็คือ คนที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการซึ่งมีอยู่ทั่วไปในสังคมโดยที่เราไม่รู้เลยว่าเป็นใครบ้าง สำหรับการทำ Social Distancing มีหลักการง่ายๆว่าพยายามลดโอกาสตัวเองที่จะพบเจอผู้คนในสังคมให้มากที่สุด เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่จะได้รับเชื้อ หรือแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ก็มีน้อยลงด้วยเช่นกัน ซึ่งในเรื่องนี้สามารถอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจได้ด้วยคณิตศาสตร์เบื้องหลังการทำ Social Distancing ของ Robert A.J. Signer, Ph.D. Assistant professor of Medicine at the University of California, San Diego ดังนี้
จากภาพ Infographic ข้างต้น จะเห็นได้ว่าถ้าไม่มีการทำ Social Distancing หรือ การรักษาระยะห่างทางสังคม เลย ภายใน 5 วัน จะมีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ถึง 2.5 คน และเพิ่มเป็น 406 คน ภายใน 30 วัน ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากเพราะเป็นกาคำนวณจากผู้ติดเชื้อเริ่มต้นเพียงแค่ 1 คน เท่านั้น แต่ถ้าผู้ติดเชื้อเริ่มต้นเป็น 100 คน หรือเป็น 1,000 คน อัตรการแพร่ระบาดจะรวดเร็วสักแค่ไหน
ในขณะเดียวกันถ้ามีการทำ Social Distancing ลดการพบปะผู้คนลง 50% ภายใน 5 วัน จะมีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นเพียง 1.25 คน และภายใน 30 วัน จะมีผู้ติดเชื้อเพียง 15 คน และถ้ามีการลดการพบปะผู้คนลง ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคมถึง 75% จะมีการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นพียง 0.625 คน ภายใน 5 วัน และภายใน 30 วันจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 คนเท่านั้น จากข้อมูลนี้ทำให้เห็นได้ชัดเลยว่าการทำ Social Distancing นั้นเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกพื้นที่ทั่วโลก
ข้อปฎิบัติในการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อหยุดโควิด-19
- งดสังสรรค์ ปาร์ตี้ ออกกำลังกายในที่สาธารณะ – การพบปะผู้คนแม้แต่จะเป็นเพื่อน ญาติ พี่น้อง ที่คุ้นเคย หรือ แม้แต่การออกกำลังกายที่เป็นที่สาธารณะ ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิด19 ได้ทั้งสิ้น เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าผู้คนที่เราพบเจอนั้นได้ไปที่ไหนมาบ้าง ทำอะไรมาบ้าง และบางคนอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการก็ได้
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกายภาพ – ทั้งการสัมผัสตัวบุคคล หรือ สิ่งของ เพราะการสัมผัสจะมีโอกาสทำให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ และควรล้างมือบ่อยๆ หรือ ทุกครั้งที่มีการสัมผัสสิ่งของสาธารณะ ป้องกันการติดเชื้อเมื่อมีการนำมือมาสัมผัสอวัยวะต่างๆบนใบหน้า
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก และ การใช้บริการขนส่งสาธารณะเพราะความแออัดเบียดเสียดจะทำให้เรามีโอกาสสัมผัสกับผู้คนได้ง่าย จะทำให้มีโอกาสรับเชื้อไวรัสโควิด19 เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนหมู่มากเหล่านั้นอาจมีผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการอยู่ในกลุ่มคนที่ร่วมกิจกรรมก็เป็นได้ แต่หากจำเป็นต้องไปร่วมกิจกรรมจริงๆก็ควรใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานสามารถป้องกันไวรัส ได้ด้วย
- ทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) – ควรอยู่บ้านให้ได้มากที่สุด แต่หากต้องทำงานก็ควรจะใช้วิธีทำงานจากที่บ้าน เพราะการเดินทางไปทำงานของพนักงานก็จะต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะทำให้มีโอกาสติดต่อและแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้กันและกันได้มากขึ้น
- เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร – ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก(WHO)อธิบายว่า เมื่อมี การไอ หรือ จาม จะมีละอองของเหลวเล็ก ๆ ออกจากจมูกหรือปากซึ่งอาจมีไวรัสปนอยู่ด้วย ซึ่งหากอยู่ใกล้กันเกินไปก็มีโอกาสที่ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆจะหายใจเอาละอองรวมถึงไวรัส COVID-19 เข้าไปด้วย จึงแนะนำให้อยู่ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร ในขณะที่ หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกา (CDC) แนะนำให้อยู่ห่างกันอย่างน้อย 1.8 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยก็ควรเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร และควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากยิ่งขึ้น
- ล้างมือบ่อยๆ – เพราะมือจะเป็นอวัยวะที่สัมผัสกับผู้คน สิ่งของต่างๆ ซึ่งมีโอกาสได้รับเชื้อไวรัสได้ง่าย และบ่อยครั้งที่คนเราจะใช้มือสัมผัสไปที่ใบหน้าของตัวเอง นั่นก็คือการเพิ่มโอกาสในการรับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นควรล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หรือ เจลแอบกอฮอล์เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของตัวเอง
- สั่งซื้อสินค้า หรือ สั่งอาหารออนไลน์ – เพื่อเป็นการลดกิจกรรมที่ออกไปทำนอกบ้านให้ได้มากที่สุด แต่หากมีความจำเป็นต้องออกไปก็ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองด้วย
- ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน – ควรแยกอุปกรณ์ที่ใช้ทานอาหารออกจากกัน อาจทำเป็นอาหารจานเดียว แยกใช้ช้อน ส้อม แก้วน้ำ ส่วนตัวของแต่ละคน
ถึงตอนนี้ทุกคนก็คงทราบกันแล้วว่า Social Distancing คืออะไร และวิธีการรักาษาระยะห่างทางสังคม จะต้องทำกันอย่างไร ซึ่งในสถานการณ์ที่ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ การร่วมมือกันปฎิบัติตามหลักการของ Social Distancing อย่างเคร่งครัด จะเป็นการช่วยลดโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสให้กันและกัน เพื่อเป็นการปกป้องดูแลคนในครอบครัว คนในชุมชน และ คนทั้งประเทศ เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะทำให้พวกเราต่อสู้กับไวรัสโควิด19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
อ้างอิง UCSD
Cover iT24Hrs