สเปรย์พ่นปากอ้างฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า เป็นข่าวปลอม อย.เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลส่งต่อออนไลน์ ใช้เบตาดีนสเปรย์ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า ย้ำ อย. ไม่เคยมีการอนุญาตให้โฆษณาสรรพคุณในลักษณะดังกล่าว โดยจากการตรวจสอบเบตาดีนสเปรย์ที่ผ่านการอนุญาต เป็นสเปรย์พ่นปากที่มีตัวยา โพวิโดน ไอโอดีน มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้สำหรับลดอาการอักเสบบริเวณช่องปาก ลำคอ เท่านั้น
สเปรย์พ่นปากอ้างฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า เป็นข่าวปลอม
กรณีพบข้อมูลจากสื่อออนไลน์ระบุวิธีป้องกันอย่างง่ายทำได้ด้วยตนเองจากไวรัสโคโรน่า โดยการใช้เบตาดีนสเปรย์ฆ่าเชื้อ นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอแจ้งว่า ไม่เคยมีการอนุญาตให้โฆษณาสรรพคุณตามที่ระบุบนสื่อออนไลน์ โดยเบตาดีนสเปรย์ที่ผ่านการอนุญาตกับ อย. มีสรรพคุณที่ได้รับอนุญาตเป็นสเปรย์พ่นปาก ที่มีตัวยาโพวิโดน ไอโอดีน มีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อโรค โดยมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ลดอาการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอ ได้แก่ อาการระคายคอ ความรู้สึกไม่สบายที่คอ แผลในปาก และระงับกลิ่นปาก เท่านั้น หากผู้บริโภคมีข้อสงสัยในเรื่องสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ขอให้สอบถามมาได้ที่สายด่วน อย. 1556
กรมสุขภาพจิต เตือนระวังข่าวปลอมเรื่อง เชื้อไวรัสโคโรน่า
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวถึง กรณีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ใน 10 ประเทศทั่วโลก และก่อให้เกิดความวิตกกังวลต่อประชาชนไทยว่า ขณะนี้บุคลากรด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกำลังปฎิบัติงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อป้องกันการระบาดในประเทศไทยและเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของเชื้อสายพันธ์ใหม่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด เช่น เชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) ทั้งยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในศักยภาพการควบคุมการระบาดของโรคต่างๆ
ทั้งนี้กรมสุขภาพจิต ได้ทำการติดตามและประเมินข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ทางช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะในช่องทางโซเชียลมีเดีย พบข้อมูลที่จัดอยู่ในประเภทข่าวลือและข่าวปลอมได้รับการเผยแพร่เป็นจำนวนมาก ทั้งข่าวลือเกี่ยวกับการระบาดภายในประเทศ และข่าวปลอมเกี่ยวกับวิธีการรักษารูปแบบต่างๆที่ผิดเพี้ยนไปจากคำแนะนำที่ถูกต้องของผู้เชี่ยวชาญ โดยการกระจายตัวของข่าวลือและข่าวปลอมในวงกว้างลักษณะนี้จะส่งผลให้ประชาชนเกิดความสับสนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถปฎิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เกิดความกลัวและวิตกกังวลอย่างรุนแรง และเบียดบังพื้นที่การนำเสนอข่าวจริงที่เป็นประโยชน์ในการดูแลตัวเองของประชาชน
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ประชาชนต้องใช้วิจารณญานทุกครั้งในการเสพข่าวต่างๆ โดยเฉพาะบนโลกโซเชียลที่บางครั้งไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของข่าวได้ชัดเจน พิจารณาความน่าเชื่อถือของบัญชีผู้ใช้งานที่เผยแพร่ข่าวนั้น พิจารณาเนื้อหาของข่าวอย่างละเอียดรอบคอบโดยเปรียบเทียบเนื้อหากับข่าวจากแหล่งอื่นที่น่าเชื่อถือ ไม่อ่านเฉพาะเพียงพาดหัวข่าว ตรวจสอบแหล่งข่าวที่ถูกอ้างถึง และสอบถามผู้เชี่ยวชาญหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเข้าใจและสามารถยืนยันเนื้อหาที่ปรากฎในข่าวได้ กรมสุขภาพจิตขอเน้นย้ำแนวทาง“ตระหนักแต่ไม่ตระหนก” คือ ประชาชนต้อง“ตระหนัก”ถึงสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา โดยหมั่นล้างมือให้สะอาด ปิดปากและจมูกเวลาไอจาม หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีอาการ ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนเสมอ สวมอุปกรณ์ป้องกันเมื่อสัมผัสสัตว์ป่าหรือสัตว์เลี้ยงในฟาร์ม แต่ “ไม่ตระหนก”จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ลดการเสพข่าวที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือซึ่งอาจสร้างความตื่นตระหนก ไม่ส่งต่อและไม่แชร์ข้อความที่ดูเกินจริงและไม่ได้รับการยืนยัน และควรติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุขทางช่องทางต่างๆอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือหากเกิดความเครียดหรือวิตกกังวลอย่างมาก สามารถโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ้างอิง กรมสุขภาพจิต oryor.com