ตัวอย่างกลโกงคนละครึ่ง เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นทุกวัน จากร้านค้าที่เอาเปรียบลูกค้าจนให้เสียบรรยากาศการช้อปและอาจมีผลต่อการพิจารณาขยายโครงการต่อด้วย และอาจทำให้ลูกค้าไม่กล้าที่จะออกมาใช้จ่ายกับร้านเหมือนเดิมได่้ เพราะลูกค้าหรือผู้ซื้อส่วนใหญ่จะหันมาเก็บเงินไว้ในยามฉุกเฉินในยามที่ไม่มีงาน อันเนื่องมาจากการระบาด COVID-19 งานนี้ทางกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย และตำรวจ ปอศ. เตรียมดำเนินคดีร้านค้าโกง หากได้รับเบาะแสการทุจริตโกงคนละครึ่ง หลังพบกลอุบายการโกงโครงการคนละครึ่งหลายรูปแบบ มาดูกันว่าลักษณะการโกงคนละครึ่งจากร้านค้ามีแบบไหนบ้าง พร้อมกับเตรียมความพร้อมในการช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งเบาะแสโครงการคนละครึ่งผ่านหลากหลายช่องทางทั้งทางโทรศัพท์ทาง อีเมล แอปพลิเคชั่นบนมือถือ หรือแจ้งที่สถานีตำรวจโดยตรง
ตัวอย่างกลโกงคนละครึ่ง
1.ร่วมมือกับร้านค้าแลกเงินสดโดยไม่ได้มีการซื้อขายสินค้าจริง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ หากใช้ผิดปกติ ก็จะถูกตรวจสอบ ถูกระงับสิทธิ และเป็นไปได้ว่าจะถูกระงับทั้งสองฝั่ง ทั้งฝั่งร้านค้า และฝั่งประชาชน
2.ให้ร้านค้าเติมเงินให้ ซึ่งมันจะทำให้มีหลักฐาน ที่ทำให้เป็นที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังนั้นหากต้องการเติมเงินไปเติมกับคนคนรู้จัก หรือไปที่ธนาคารกรุงไทยเอาเงินไปเติมเข้า G-Wallet ได้
3 .แอบขึ้นราคาจากปกติ โดยร้านค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสูงจากเดิม เพราะเห็นว่าลูกค้าเยอะขึ้น และจ่ายเงินเพียงครึ่งเดียว ตัวร้านค้ากลับได้กำไรเท่าตัว เช่นกรณีขึ้นราคาอีก 10 บาทจากราคาปกติ อ้างว่านำไปจ่ายค่าเน็ต ซึ่งผู้ซื้อไม่ควรซื้อกับร้านดังกล่าวและหากมีหลักฐานสามารถนำมาแจ้งตำรวจ หรือสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค เข้ามาตรวจสอบได้
โกงคนละครึ่ง มีโทษทั้งจำ-ปรับ และระงับและตัดสิทธิโครงการ
ทุกเคสตัวอย่างนี้เข้าข่ายทุจริตโครงการ คนละครึ่ง เข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกง” เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้อื่น ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง โดยทุจริต ทำให้ได้ประโยชน์ทางทรัพย์สินไปจากผู้ถูกหลอกคือรัฐ มีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 314 และระงับสิทธิการใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” และระงับการจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าดังที่ทำทุจริตดังกล่าว
ช่องทางการแจ้งเบาะแสโกง โครงการคนละครึ่ง
สามารถนำหลักฐานแจ้งไปที่ตำรวจได้ หรือแจ้งเบาะแสทุจริงโครงการคนละครึ่งได้ที่
[email protected]
กระทรวงการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3697 3527 3548 3509
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1144 (24 ชั่วโมง)
หรือส่งไปรษณีย์มาที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (โครงการคนละครึ่ง)
รวมถึงแอป m-help me
อ้่างอิง สำนักข่าวไทย รัฐบาลไทย
ติดตามอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ www.it24hrs.com