รู้จัก 6 แพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมในไทย – ณ ปัจจุบัน คงแทบไม่มีใครไม่รู้จัก Social Media หรือโซเชียลมีเดีย เพราะอินเทอร์เน็ตมีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก รวมไปถึงการติดต่อสื่อสาร หรือขายของต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียก็มีเยอะขึ้นจากเมื่อก่อน การตลาดแบบใหม่อย่าง Social Media Marketing (SMM) จึงเกิดขึ้นและเริ่มเป็นที่นิยม การตลาดที่ใช้ Social Media เข้ามาช่วยจะทำให้ผู้ขายโปรโมทแบรนด์ สินค้าและบริการผ่านโซเชียลมีเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การทำการตลาดผ่าน Social Media นั้นมีความสำคัญต่อกลยุทธ์การตลาดของหลายบริษัทเป็นอย่างมากเพราะในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีได้เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น โดยมีผลสำรวจจาก Cumulus Media ว่าใน 1 นาที บน Social Media เกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งมีข้อมูลว่า มี 46,200 โพสต์ใน Instagram, มี 4.1 ล้านวิวที่กำลังดูคลิปใน youtube, มี 900,000 logins ใน Facebook จากตัวเลขในผลสำรวจพอจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ Social Media Marketing มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อธุรกิจในปัจจุบันนี้ แล้วเราจะทำ Social Media Marketing ได้อย่างไร เราก็จะต้องดูก่อนว่าลูกค้าของเรานั้นอยู่ที่ไหน เช่น Facebook twitter หรือ Instagram เมื่อเรารู้แล้วเราก็ทำความรู้จักหรือศึกษาโซเชียลมีเดียเหล่านั้น ว่ามีที่มาอย่างไร คนใช้มากน้อยแค่ไหน วันนี้เราได้รวบรวมให้แล้วให้คุณได้ รู้จัก 6 แพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมในไทย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
เป็นโซเชียลมีเดียที่มียิ่งใหญ่ที่สุดในขณะนี้ ทั้งในด้านจำนวนผู้ใช้และความนิยมเชื่อว่าทุกคนต้องมีแอคเคาท์ของ Facebook แน่นอน Facebook ก่อตั้งเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2004 เป็นเวลาเพียง 12 ปีมีผู้ใช้งานที่เป็น active user ต่อเดือนถึง 1.59 พันล้านผู้ใช้ และมีธุรกิจขนาดเล็ก กลาง ถึงใหญ่จำนวนมากกว่า 1 ล้านธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ในการโปรโมทแบรนด์ จึงเป็นหนึ่งในโซเชียลที่น่าลงทุนสำหรับธุรกิจมากที่สุดในขณะนี้ ข้อดีของเฟสบุ๊คคือมีความยืดหยุ่นในการทำการตลาดอย่างมาก นักการตลาดสามารถลงสื่ออะไรก็ได้ ทั้งบทความ ภาพ วีดีโอ หรือแม้แต่การไลฟ์สดก็ได้ ซึ่งความยืดยุ่นนี้ก็ทำให้นักสร้างคอนเทนต์มีอิสระทางความคิดมากขึ้น แถมยังสามารถเข้าถึงคนได้หลายล้านคน แต่อย่างไรก็ตามแพล็ตฟอร์มที่มีคนใช้เยอะก็เท่ากับว่ามีคู่แข่งเยอะขึ้นด้วย และข้อเสียของเฟสบุ๊คที่ได้มาจากผู้ใช้คือ ผู้ใช้สมัยใหม่เริ่มหันไปใช้ Social Media แพล็ตฟอร์มอื่นกันมากขึ้นแล้ว ซึ่งก็แปลว่าการเข้าถึงตลาดบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นอาจจะลดน้อยลง
แม้ว่าจะจำกัดจำนวนตัวอักษรในการโพสต์แต่ละครั้ง แต่รู้มั้ยว่านั้นกลายเป็นเสน่ห์ของ Twitter ที่ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 320 ล้าน active user ต่อเดือน ซึ่งธุรกิจสามารถเลือกใช้ช่องทางนี้ในการตอบคำถาม หรือโปรโมทข่าวสารใหม่ ๆ ได้ นอกจากนี้การทำการตลาดใน Twitter นั้นโปรไฟล์เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นเหมือนหน้าต่างบานแรกที่ผู้ใช้อื่นจะได้รู้จักเราผ่านการอ่านข้อมูลบนโปรไฟล์ และที่สำคัญเราจะต้องอธิบายถึงถึงจุดเด่นของแบรนด์ ภายใต้ข้อจำกัดด้วยจำนวนตัวอักษร
ดังนั้นเราจะต้องเลือกใช้คำให้ฉลาด กระชับ และสามารถบ่งบอกความเป็นธุรกิจของเรา และจุดเด่นของ Twitter อีกอย่างนั้นก็คือ #Hashtags ทวีตที่มีการใช้ Hashtags นั้นมีความนิยมมากว่า ทวีตที่ไม่ใช้ถึงสองเท่า การเพิ่ม Hashtags เข้าไปในทวีตของเราเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่จะทำให้ผู้ใช้อื่น ๆ รู้จักเรามากยิ่งขึ้น ส่วนการสร้าง Hashtags นั้นเพียงแค่ไม่ซ้ำกับคนอื่นก็พอเพื่อสร้างความพิเศษเฉพาะธุรกิจเราเท่านั้นที่ใช้ เพื่อที่ผู้ติดตามของคุณหรือกลุ่มเป้าหมายนั้นง่ายต่อการค้นหาคอนเทนต์
- YouTube
ปฏิเสธไม่ได้ว่าแหล่งรวมคลิปวิดีโอออนไลน์ที่มากที่สุดคือ YouTube ถูกก่อตั้งเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2005 จากอดีตพนักงาน PayPal และถูกซื้อโดย Google เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2006 ในมูลค่า 1.65 พันล้านดอลล่า ปัจจุบันมีกว่า 1 พันล้านผู้ใช้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่อเดือน และเป็นอันดับสองของ search engine รองจาก Google การตลาดที่สามารถทำได้ใน youtube นั้น จะต้องเป็นวีดีโอแน่นอน โดยการตลาดที่นิยมคือการซื้อโฆษณาในยูทูป เพราะราคาถูกจะถูกกว่าโฆษณาบนทีวี เพราะโฆษณายูทูปคิดค่าโฆษณาในรูปแบบ Pay Per Click (จ่ายเมื่อมีคนคลิก) และ Pay Per View (จ่ายเมื่อมีคนดู) เรียกได้ว่าจ่ายเงินก็ต่อเมื่อมีผู้ให้ความสนใจอย่างแท้จริงเท่านั้นนั่นเอง โฆษณายูทูปจึงตอบโจทย์ทุกธุรกิจโดยไม่จำเป็นต้องเป็นธุรกิจรายใหญ่เพียงอย่างเดียวเหมือนโฆษณาทีวี และสิ่งที่ย่าสนใจอีกอย่างของโฆษณาบนยูทูปคือเมื่อมีผู้เข้าชมวีดีโอโฆษณายูทูปของคุณมากขึ้น ยอดวิว (View) ก็จะสูงขึ้นด้วย ซึ่งตัวเลขนี้เองสามารถสร้างกระแสแบบปากต่อปากได้เป็นอย่างดี และยิ่งหากโฆษณาของคุณมีความน่าสนใจมันจะเป็นการสร้าง Brand Awareness ไปในตัวทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
มีลักษณะการใช้งานคล้ายกับ Pinterest เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 เดือนตุลาคม 2010 มี active user มากกว่า 400 ล้านผู้ใช้ และปัจจุบันถูกซื้อโดย Facebook โดยมีผู้ใช้จำนวนมากนิยมใช้ในการโพสต์ข้อมูลการท่องเที่ยว แฟชั่น อาหาร ศิลปะ ฯลฯ สามารถใส่ฟิลเตอร์เพื่อทำการแต่งรูปหรือวิดีโอให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งเกือบ 95% ของผู้ใช้ Instagram ก็มีบัญชีบน Facebook เช่นกัน การจุดขายของ Instagram คือรูปภาพ เพราะแอปพลิเคชันนี้เกิดมาเพื่อลงรูปภาพ ฉะนั้นภาพที่จะใช้โพสต์นั้นต้องผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี อาจจะเป็นภาพถ่ายธรรมดา หรือ เป็นภาพกราฟฟิค ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์แต่ภาพต้องสวย เห็นแล้วต้องสะดุดตานอกจากรูปภาพแล้วยังต้องใส่ใจเรื่องของแคปชัน เมื่อรูปภาพของเราน่าสนใจแล้วผู้ใช้งานจะอยากอ่านคำอธิบายใต้ภาพต่อทันที เราจะต้องเขียนแคปชัน 2-3 บรรทัดแรก ให้น่าดึงดูดอ่านแล้วอยากอ่านต่อ อาจจะจั่วหัวเป็นคำถาม หรือโปรโมชันก็ได้ อันนี้แล้วแต่วัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ด้วย
- Tiktok
ติ๊กต็อก หรือ TikTok คือแอปพลิเคชันที่เป็นบริการเครือข่ายสังคมสัญชาติจีน เป็นบริการประเภทวิดีโอ โดยในประเทศจีนใช้ชื่อว่า โต่วอิน ที่แปลว่า เสียงสั่น ติ๊กต็อกถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่นิยมทั่วโลกในปี ค.ศ. 2018 ติ๊กต็อกนั้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก จุดเด่นคือ การสร้างและแชร์วิดีโอสั้น ๆ ภายใน 1 นาทีโดยในตัวแอปจะมีเอฟเฟคต่าง ๆ ทั้งภาพและเสียง ให้ผู้ใช้ได้สนุกไปกับการแต่งวิดีโอตามที่ต้องการ ดังนั้นผู้ใช้ TikTok ส่วนมากจึงเน้นเข้ามาเพื่อรับชมความบันเทิงมากกว่าสาระ แต่ก็มีวิดีโอของผู้ใช้บางกลุ่มที่ให้สาระเช่นเดียวกัน การตลาดในติ๊กต็อกให้ลองใช้ Feature บน TikTok ให้เกิดประโยชน์ เช่น Hashtag Challenge เพราะบน TikTok สามารถติด Hashtag ในวีดีโอของเราได้และการติดแฮชแท็กจะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งผู้ใช้สามารถดูได้ว่า Hashtag ไหนกำลังเป็นกระแส หรือ Creating & Reusing Sound เพราะนอกจาก Effect ชนิดต่าง ๆ ที่เป็น Original ของ TikTok เองแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถใช้เพลงของตัวเองใส่ลงไปให้ผู้อื่นมาใช้ได้ด้วย ซึ่งหากสามารถทำการตลาดแบบ Earworm ให้ Viral ได้ ก็จะมีคนมาใช้เสียงของคุณทำวิดีโอแล้วโพสต์ต่อไปเรื่อย ๆ
- Line
LINE หรือ ไลน์ เป็นโปรแกรมเมสเซนเจอร์ระบบส่งข้อความทันทีที่ญี่ปุ่นซื้อมาจาก Naver Corporation ของเกาหลี ชาวไทยนิยมใช้เป็นอันดับสองรองจากญี่ปุ่น ไลน์ คือแอพพลิเคชั่นที่นำ Messaging และ Voice Over IP มาผสมเข้าด้วยกันจนสามารถแชท สร้างกลุ่ม ส่งข้อความ โพสต์รูปต่าง ๆ หรือจะโทรคุยกันแบบเสียงก็ได้ โดยไม่ต้องเสียเงิน หากเราใช้งานโทรศัพท์ที่มีแพคเกจอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว การทำงานของ LINE นั้น มีลักษณะคล้าย ๆ กับ WhatsApp ที่ต้องใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อยืนยันการใช้งาน แต่ LINE ได้เพิ่มลูกเล่นอื่น ๆ เช่น ส่งรูป ส่งไอคอน ส่งสติกเกอร์ ตั้งค่าคุยกันเป็นกลุ่ม วีดีโอคอลพร้อมเอฟเฟค ทำให้ LINE มีจุดเด่นที่เหนือกว่า
นอกจากนี้ยังมีไลน์ยังมี LINE@ ที่เป็นเครื่องมือในการช่วยสื่อสารที่แยกมาจาก LINE ซึ่งตอนนี้คนไทยใช้ LINE กันมากกว่า 33 ล้านคน และ LINE@ นั้นเหมาะมาก สำหรับองค์กรธุรกิจที่ต้องการสื่อสารกับคนจำนวนมากพร้อมกันในทีเดียว สื่อสารในที่นี้คือ การแจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น แนะนำสินค้าและบริการใหม่ ๆ คอยตอบคำถามและทำหน้าที่เหมือนคอลเซ็นเตอร์ นอกจากจะสร้างความใกล้ชิดระหว่างระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคแล้ว ยังทำให้คุณสามารถให้บริการได้แบบมืออาชีพอีกด้วย
แม้เราได้พอรู้จักข้อมูลเบื้องต้นของทั้ง 6 แพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยมในไทยแล้ว แต่ก่อนจะลงมือทำการตลาดนั้น เราควรต้องศึกษาถึงธรรมชาติของแพลตฟอร์มต่าง ๆที่เราจะเลือกใช้อย่างละเอียด รวมถึงศึกษาให้เข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคของเราให้ดีด้วย เพื่อที่จะได้ทำการตลาดออกมาได้มีประสิทธิภาพ และอย่าลืมใส่ใจในคุณภาพตัวสินค้าหรือบริการของเราด้วย เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดและรู้สึกคุ้มค่าจนอยากจะกลับมาอุดหนุต่อเนื่องเป็นลูกค้าที่ดีของเราตลอดไป
อ้างอิง visualcapitalist, smallbiztrends
Cover iT24Hrs