วิธีแก้มือถือ Android ชาร์จไฟช้า อาจถึงช้ามากจนบ่นเลยว่าเมื่อไหร่จะชาร์จไฟเต็มละนี่ จะเห็นได้ชัดโดยเฉพาะบนโทรศัพท์ที่ไม่รองรับ fast charge และส่วนใหญ่ใช้มือถือมานานหลายปีแล้ว หากคุณเบื่อที่จะต้องเสียบปลั๊กชาร์จไว้นานๆตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกังวล เราได้หาทางแก้ปัญหาการชาร์จไฟช้าให้กับคุณแล้ว
วิธีแก้มือถือ Android ชาร์จไฟช้า
1. หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือขณะชาร์จ
การใช้โทรศัพท์ในขณะที่กำลังชาร์จ จะใช้ไฟจำนวนมาก มักจะร้อนขึ้น เมื่อความร้อนสูงเกินขีด โทรศัพท์จะเริ่มควบคุมความเร็วในการชาร์จ รวมถึงประสิทธิภาพเพื่อรักษาอุณหภูมิ ไม่ให้ร้อนเกินไป นอกเหนือจากปัญหาร้อนเกินไปแล้ว ยังทำให้แบตเตอรี่อาจได้รับความเสียหายหรือแบตเสื่อมลงอย่างรุนแรงด้วย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะชาร์จ โดยเฉพาะการชาร์จไปเล่นเกมไป หรือชาร์จไปโทรไป อาจเป็นอันตรายได้
2. ปิดคุณสมบัติการเชื่อมต่อ
เช่น Bluetooth, GPS, WiFi และ NFC ซึ่งใช้พลังงานบางส่วนทำงานตลอดเวลาในการเปิด ทำให้แบตเตอรี่ลดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรปิดคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นทั้งหมดรวมถึง ปิด DATA 3G 4G ขณะที่ชาร์จโทรศัพท์ของคุณเพื่อเร่งการชาร์จไฟให้เต็มอย่างรวดเร็ว
3. เปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน
อันนี้คือต่อเนื่องจากข้อ 2 ในเรื่องปิดคุณสมบัติการเชื่อมต่อ แต่การเปิดโหมดเครื่องบินนี้จะทำให้คุณไม่สามารถโทรหาคนอื่นได้ หรือรับสายโทรศัพท์ได้ แต่ช่วยให้การชาร์จไฟมือถือเร็วขึ้นด้วย รองจากการปิดเครื่อง
4. ใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่
โทรศัพท์ Android เกือบทุกเครื่องมาพร้อมโหมดประหยัดแบตเตอรี่ในตัว การเปิดใช้งานจะช่วยลดจำนวนแอปทำงานเบื้องหลัง ลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งจะช่วยทำให้ชาร์จไฟเร็วขึ้นเมื่อนำมาเสียบปลั๊ก
5. ตรวจสอบสายเคเบิลของคุณ
หากความเร็วในการชาร์จมือถือลดลง อย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาสาเหตุอาจเป็นสาย USB ซึ่งมักจะเสื่อมพังเมื่อใช้เวลายาวนาน การเลือกสาย USB ควรเลือกที่ใช้งานร่วมกับ Adapter ชาร์จไฟมาตรฐานได้ หากมือถือรองรับการชาร์จเร็ว ให้ตรวจสอบว่าสายนั้นรองรับการ fast charge เข้ากับมือถือรุ่นนั้นได้หรือไม่ด้วย
6. ใช้อุปกรณ์การชาร์จไฟของแท้
หากทั้งสายและ adapter ชาร์จไฟใช้จากที่แถมมาในกล่องมือถือแล้วช้าอยู่ แสดงว่าเป็นที่ชาร์จความเร็วธรรมดาทำให้ชาร์จไฟใช้เวลาชาร์จนาน ควรซื้อ Adapter รุ่นใหม่ที่ให้กำลังจ่ายไฟชาร์จสูงขึ้น และเป็นของแท้ เข้ากับมือถือคุณด้วย ค่าใช้จ่ายในการซื้อก็แพงขึ้นด้วย แต่แลกเพื่อความเร็วในการชาร์จมือถือ
7. หลีกเลี่ยงการชาร์จไฟจากพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์ หรือ โน๊ตบุ๊ค
เคยสงสัยไหมว่าทำไมมือถือคุณถึงชาร์จช้าเมื่อเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊ค นั่นเป็นเพราะพอร์ตเหล่านั้นมีจุดประสงค์เพื่อการโอนย้ายข้อมูลเป็นหลักและไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าที่จำเป็นสำหรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว โดยพอร์ต USB 2.0 ของคอมพิวเตอร์สามารถชาร์จด้วยความเร็ว 0.5A ในขณะที่พอร์ต USB 3.0 สามารถให้อัตราชาร์จด้วยความเร็วสูงสุดที่ 0.9A ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานการชาร์จปัจจุบัน ชาร์จด้วยความเร็ว 2A
8. อัพเดตซอฟต์แวร์โทรศัพท์ของคุณ
การอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด อาจเปลี่ยนแปลงความเร็วในการชาร์จหรือประสิทธิภาพแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือของคุณ ถ้าเป็นเช่นนั้นรอการปล่อยเฟิร์มแวร์รุ่นล่าสุดจากบริษัทผู้ผลิต โดยสามารถอัปเดตได้ด้วยตนเอง กับส่งไปที่ศูนย์บริการเพื่อทำการอัปเดตให้
9. ตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ และควรเปลี่ยนแบตใหม่ถ้าจำเป็น
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีแนวโน้มที่จะสูญเสียประสิทธิภาพในระยะยาว มันอาจเกิดจากการชาร์จที่ไม่ดีต่อแบตเช่น ใช้มือถือจนแบตหมดสนิท และไม่ได้ชาร์จเป็นระยะเวลานาน 2-3 เดือน หากมีอาการผิดปกติให้นำมือถือส่งที่ศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบสุขภาพแบตอย่างละเอียด ถ้าเป็นไปได้ควรให้ดำเนินเปลี่ยนแบตใหม่ด้วย
เพียงเท่านี้มือถือของคุณก็สามารถชาร์จมือถือได้เต็มไวขึ้น ไม่ต้องรอนาน
อ้างอิง gadgetstouse.com
Cover iT24Hrs