เช็กไวรัสโคโรน่า 2019 (2019-nCoV) หรือ ไวรัสอู่ฮั่น หลังพบระบาดหลายเมืองทั่วโลก อย่างรวดเร็ว มีการแพร่เชื่อซึ่งตอนนี้ติดจากคน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ได้รวบรวบข้อมูล จากองค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ ไวรัสอู่ฮั่น มาแสดงผลทางเว็บไซต์ https://gisanddata.maps.arcgis.com/
เช็กไวรัสโคโรน่า 2019 https://gisanddata.maps.arcgis.com (แนะนำคลิกที่นี่ ) ซึ่งจะบอกข้อมูลทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ, ผู้เสียชีวิต ตามเมืองและประเทศต่างๆที่พบผู้ติดเชื่อ รายงานแบบ Real Time ซึ่งทั้งนี้ไทยยังต้องเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่า 2019 เนื่องด้วยเมืองอู่ฮั่น นิยมเดินทางท่องเที่ยวที่ไทยทางเครื่องบิน ลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ซึ่งมากกว่าสนามบินชางงีสิงคโปร์ที่อยู่อันดับ 2 และจากข้อมูลของกรมอนามัยโลก WHO เผยพบผู้ติดเชื้อในไทย 8 คน ( ข้อมูลทางการ ณ วันที่ 26 มกราคม 2020 )
” กลุ่มเสี่ยงที่แนะนำให้ระมัดระวังคือ 1.คนที่มีโรคประจำตัว เช่น หัวใจ ความดัน เบาหวาน 2. เป็นผู้สูงอายุ หรือเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี 3. มีประวัติการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน 4.มีไข้ อาการของไข้หวัดใหญ่ คือมีไข้สูง ปวดเมื่อย ไอ หายใจหอบเหนื่อยควรรีบมาโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจ และรีบโทรแจ้งสายด่วน กรมควบคุมโรค โทร 1422 นอกจากนี้เวลาไปที่ชุมชนขอให้สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ยึดหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ” นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าว
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวถึง กรณีการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ใน 10 ประเทศทั่วโลก และก่อให้เกิดความวิตกกังวลต่อประชาชนไทยว่า ขณะนี้บุคลากรด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกำลังปฎิบัติงานอย่างสุดความสามารถ เพื่อป้องกันการระบาดในประเทศไทยและเพื่อให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของเชื้อสายพันธ์ใหม่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด เช่น เชื้อไวรัสโรคซาร์ส (SARS) และโรคเมอร์ส (MERS) ทั้งยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในศักยภาพการควบคุมการระบาดของโรคต่างๆ
ทั้งนี้กรมสุขภาพจิต ได้ทำการติดตามและประเมินข้อมูลข่าวสารที่มีการเผยแพร่ทางช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะในช่องทางโซเชียลมีเดีย พบข้อมูลที่จัดอยู่ในประเภทข่าวลือและข่าวปลอมได้รับการเผยแพร่เป็นจำนวนมาก ทั้งข่าวลือเกี่ยวกับการระบาดภายในประเทศ และข่าวปลอมเกี่ยวกับวิธีการรักษารูปแบบต่างๆที่ผิดเพี้ยนไปจากคำแนะนำที่ถูกต้องของผู้เชี่ยวชาญ โดยการกระจายตัวของข่าวลือและข่าวปลอมในวงกว้างลักษณะนี้จะส่งผลให้ประชาชนเกิดความสับสนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถปฎิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เกิดความกลัวและวิตกกังวลอย่างรุนแรง และเบียดบังพื้นที่การนำเสนอข่าวจริงที่เป็นประโยชน์ในการดูแลตัวเองของประชาชน
อ้างอิง twitter องค์การอนามัยโลก WHO , @Vptrackforce