7 วิธีถนอมสายตา สำหรับคนที่ทำงานกับหน้าจอ เพราะในยุคดิจิทัลนั้นการใช้กับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟนนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งใช้ตอนการทำงาน การเรียน หรือใช้สำหรับกิจกรรมผ่อนคลายหลังใช้ชีวิตอย่างเคร่งเครียด สำหรับใครหลาย ๆ คนที่คิดว่าใช้สายตาไปกับการทำงานว่าหนักแล้ว แต่รู้มั้ยว่าเราใช้สายตาไปกับการดูหนังและซีรีส์อื่น ๆ หนักกว่าทำงานอีก เพราะฉะนั้น มันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหันมาดูแลสายตาของเราแบบจริงจังซักทีกับ 7 วิธีถนอมสายตา สำหรับคนที่ทำงานกับหน้าจอ ไม่ว่าจะทำงานหน้าคอม เรียนบทแท็บเล็ต หรือติดตามเทรนด์บนมือถือ หรือจะดูซีรีส์บนทีวี แบบหนักหน่วง
7 วิธีถนอมสายตา สำหรับคนที่ทำงานกับหน้าจอ
แต่ก่อนจะไปดู 7 วิธีถนอมสายตา ต้องรู้อาการก่อนว่าเมื่อมีอาการเหล่าคือเราเริ่มจะใช้สายตามากเกินไปแล้ว อาการก็จะมี อาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง ตาล้า สายตาสั้น หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น อาการปวดหัว ปวดหลัง เมื่อยคอ ซึ่งจากสถิติพบว่าคนที่ใช้คอมพิวเตอร์มากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน มักจะประสบกับปัญหาสายตาหลัก ๆ 4 โรค ได้แก่
- โรควุ้นในตาเสื่อม มีอาการคือ เมื่อเคลื่อนไหวดวงตา จุดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็จะเคลื่อนที่ด้วยเช่นกัน แต่หากตั้งใจที่จะมองไปยังจุดดังกล่าว ก็จะหายไปจากการมองเห็นอย่างรวดเร็ว หรือเห็นแสงสว่างคล้ายแสงแฟลช
- โรคสายตาสั้น เอียง มีอาการคือ มองเห็นสิ่งที่อยู่ระยะไกลมัวลง หรือมองเห็นไม่ชัดเจน เกิดอาการตาล้าเมื่อเพ่งมองสิ่งที่อยู่ไกลออกไป อาจจะทำให้เกิดรู้สึกปวดศีรษะ เห็นภาพผิดเพี้ยนหรือผิดรูปผิดร่างจากความเป็นจริง
- โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม มีอาการคือ มีอาการตาแห้ง ตาแดง แสบตา ระคายเคืองตา ปวดตา ตาล้า และปวดศีรษะ ใช้สายตานาน ๆ แล้วเริ่มมองไม่ชัด
- โรคจอประสาทตาเสื่อม มีอาการคือ เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือมีจุดดำตรงกลางภาพ มองในที่สว่างไม่ชัด หรือแพ้แสง มองเห็นผ้ามีสีซีดลงสีผิดเพี้ยน
หากเราเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์ ใช้สมาร์ทโฟนในการติดตามข่าวสารมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน หรือเริ่มมีอาการที่บอกไปนั้น เราต้องเริ่มหาวิธีมาถนอมสายตาแล้ว มาลองไปดูวิธีกันเลย
- กะพริบตาให้ถี่ขึ้น – อาการหลัก ๆ ที่จะเกิดขึ้นเวลาที่เราใช้งานหนัก ๆ คือตาแห้งเพราะเกิดจากการที่เรากะพริบตาน้อยลง เนื่องมาจากใช้สมาธิทำงาน จ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างจดจ่อ อัตราการกะพริบตาจะลดลงจาก 20-22 ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6-8 ครั้งต่อนาที จึงควรที่จะลืมกะพริบตาหรืออาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม – การจัดท่านั่งเวลาทำงาน หรือใช้งานหน้าจอต่าง ๆ มีส่วนสำคัญในการใช้งานสายตา ทางที่ดีเราควรจัดให้มีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 ซม. จัดระดับจอภาพให้อยู่ในระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้วจากพื้นหรือโต๊ะตั้งคอมพิวเตอร์ ไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไปเท่านี้ก็ช่วยให้การใช้สายตาไม่หนักเกินความจำเป็น
- ปรับความสว่างของห้องและหน้าจอ – ปรับแสงสว่างของหน้าจอให้เหมาะสมกับสายตา จัดบริเวณโต๊ะทำงานให้อยู่บริเวณหน้าต่าง เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ หรือปิดไฟบางดวงที่รบกวนการทำงาน เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความสว่างที่มากเกินไป แสงสีฟ้าที่จะมาทำลายสุขภาพของดวงตานั้นไม่ได้มีแหล่งกำเนิดมาจากหน้าจอเท่านั้น แต่มีแหล่งกำเนิดหลักมาจากดวงอาทิตย์อีกด้วย และเมื่อจำเป็นต้องทำงานตอนกลางคืน ให้เปิดโหมด Night Shift บนอุปกรณ์ เมื่อใช้งานตอนกลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อย
- แก้ปัญหาเรื่อง “ขนาด” – ความละเอียดของหน้าจอ หรือ screen resolution เป็นสิ่งที่ทำให้หน้าจอมีความละเอียดของภาพหรือ ตัวหนังสือแตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรปรับค่าความละเอียดให้พอดีกับขนาดของหน้าจอ หรือปรับให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ควรเล็กหรือใหญ่เกินไป เพราะจะทำให้ขนาดของภาพและตัวหนังสือผิดเพี้ยนไปจากความจริง
- เลือกใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์ – แสงที่ออกมาจากหน้าจอ จะมีแสงสีฟ้าเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยเพราะเป็น 1 ในแสงที่ทำให้เราเห็นสีต่าง ๆ บนหน้าจอ แสงสีฟ้ามีพลังสูงดังนั้นแสงสีฟ้าที่ออกมาจากหน้าจอจึงกระจายมาก ทำให้ตาคนเรายากที่จะโฟกัส ทำให้ตาเมื่อยล้า ปัจจุบันมีแว่นตาที่ผลิตมาเพื่อกรองแสงจากหน้าจอโดยเฉพาะ และยังสามารถนำมาตัดเป็นแว่นสายตาสำหรับคนสายตาสั้น-ยาวได้อีกด้วย ดังนั้นหากต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานาน ควรเลือกใช้แว่นประเภทนี้จะช่วยให้รู้สึกสบายตา และเพื่อลดแสงสะท้อนจากจอภาพ
- พักสายตา – ทุก ๆ ชั่วโมงควรเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายบ้าง โดยละสายตาจากหน้าจอ แล้วมองออกไปในระยะไกลกวาดสายตามองสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องเป็นแนววงกลม สัก 10 – 20 วินาที แล้วกลับมามองในระยะใกล้ ทำสลับกันไปหลายๆ ครั้ง หรือจะมองวัตถุสีเขียว วัตถุที่มองแล้วทำให้รู้สึกสบายตา จะช่วยให้สายตาได้พักผ่อนจากความเมื่อยล้าได้ดี
- ออกไปข้างนอกบ้าง – การอุดอู้อยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้สายตาเราชินกับระดับแสงเดิม ๆ และรู้สึกตึงเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นควรลุกออกจากหน้าจอคอมแล้วไปเดินสูดอากาศข้างนอกบ้างสักประมาณ 10-15 นาที หรือถ้าไม่สะดวกออกไปข้างนอก อย่างน้อยก็ไปเข้าห้องน้ำก็ได้ เพราะจะทำให้สายตาได้สัมผัสกับระดับแสงที่แตกต่างจากในห้องหรือโต๊ะทำงาน การทำแบบนี้จะเป็นการหลอกสมองว่าเราได้พักผ่อนจากการทำงานแล้ว ทำให้สายตาได้ผ่อนคลายจากความเมื่อยล้า
เป็นอย่างไรกันบ้าง 7 วิธีทำได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ย เมื่ออ่านบทความหรือดูคลิปของ IT24hrs ของเราจบแล้ว ก็อย่าลืมดูแลถนอมสายตา เพราะเราเกิดมามีดวงตาอยู่แค่คู่เดียวเท่านั้นจะใช้งานอะไรก็ต้องดูแลให้เค้าได้อยู่กับเราไปนาน ๆ
อ้างอิง : Pobpad, Samitivejchinatown
Cover iT24Hrs-s