7 สิ่งที่มือถือ Android ทำได้ แต่ iPhone กลับทำไม่ได้ เรื่องนี้มีการโต้เถียงมานานว่า iOS ดีว่า หรือ Android ดีกว่ายังไง ดูกันแบบเจาะลึกกันไปเลยวว่า บางสิ่งที่ Android มีทำได้ แต่ iOS ไม่มี มันคือจุดไหนบ้าง ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เข้ากับตัวเองอีกด้วย
7 สิ่งที่มือถือ Android ทำได้ แต่ iPhone ทำไม่ได้มีอะไบ้าง
1 การตั้งแอป Default ให้เปิดแอปอื่นเป็นแอปแรก
แทนแอปที่มีให้ตั้งแต่เปิดเครื่องใหม่ๆ ซึ่ง iPhone ทำไม่ได้ แม้มีแอพ Mail ของตัวเอง และสามารถลบแอป Mail ออกเองได้ก็ตามแต่ทว่าการเลือกตั้งค่า Default ให้เปิดแอปอื่นเป็นแอปแรก เช่นรันเว็บเบราว์เซอร์ด้วย chrome เป็นหลักแทน Safari สำหรับเครื่อง iPhone , iPad กลับไม่สามารถทำได้
โดยการตั้งค่า Default ของแอพนั้น เข้าไปที่ Settings >> Apps & notifications > Default apps.>> แล้วเลือก หมวดแอปตามต้องการ เช่น Browser App มาเลือกเป็น Microsoft Edge แทนที่ Chrome เป็นต้น
2.Google Assistant แม้ตามหลัง SIRI ช่วงแรกแต่ตอนนี้ล้ำกว่าฉลาดกว่า
โดย Google Assistants สามารถพูด คิด เข้าใจทั้งการพูดโต้ตอบทั่วไป และเชิงธุรกิจ และสามารถค้นหาคำตอยที่ต้องการจาก Google Search ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ Siri ไม่สามารถเข้าถึงได้ และที่สำคัญ Google Assistants มีแอปติดตั้งลงบน iPhone กลายเป็นช่วยให้ iPhone สามารถใช้ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Assistants ได้ด้วย
ขณะที่ SIRI จะจำกัดแค่บนอุปกรณ์ iOS เท่านั้น ไม่มีแอป siri แยกมาใส่บน Android
3.ใช้สองแอพพร้อมกันผ่านโหมดแยกหน้าจอ
แม้ว่าiPadOS 13 จะรองรับการใช้งานหลายแอพพร้อมกันได้แล้ว แต่ iOS 13 อย่าง iPhone กับ iPod Touch ก็ไม่รองรับเช่นกัน อย่างไรก็ตามผู้ใช้ Android มีแอปแบบแยกหน้าจอมานานแล้วตั้งแต่ปี 2016 แล้ว โดยเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์บน Android 7.0 Nougat
วิธีที่ง่ายที่สุดในการใช้โหมดแยกหน้าจอคือการเปิดมุมมองมัลติทาสก์และแตะที่ไอคอนสลับแอป
จากนั้นแตะที่ไอคอนแอปของการ์ด Multitask แล้วเลือกที่ Split screen ( เปิดในมุมมองแยกหน้าจอ) แอปจะถูกแบ่งครึ่งหน้จอ บนล่าง สามารถเรียกแอปที่ 2 เพื่อให้แอปแสดงบนด้านล่างของจอได้ และสามารถย้ายข้อมูลเช่นภาพ ไฟล์งาน หรือตัวอักษร ข้ามแอพจากบนลงล่าง จากซ้ายไปขวาก็ได้ นอกจากนี้มือถือบางเครื่องสามารถแสดงแอปในรูปแบบหน้าต่าง Windows Pop-up ได้ด้วย ซึ่งบน iOS อย่าง iPhone หรือ iPad Touch ไม่มี จะมีแบ่งหน้าจอได้เฉพาะบน iPadOS เท่านั้น
4.ปรับแต่งหน้าจอ Home Screen ได้อย่างอิสระตามใจชอบ
โดยไอคอนแอปต่างๆย้ายได้ตามอิสระ ส่วนพื้นหลังสามารถเลือก wallpaper เคลื่อนไหวได้ ซึ่ง Apple ไม่มี จะมีแค่เคลื่อนไหวแบบ Live Photo เล็กๆน้อยขณะเอียงหน้าจอเท่านั้น และ Android สามารถเพิ่ม Widget อื่นๆได้ ซึ่งสำหรับ iOS มี Widget แค่สำหรับ Apple เท่านั้นอย่าง มุมมองวันนี้ ( Today view) เท่านั้น
5. สามารถใช้ launchers ปรับแต่งทั้งหน้าจอและเครื่องโทรศัพท์ Android ได้
Launchers บน Android สามารถปรับแต่งโฉมทั้งไอคอน ธีม รวมถึงใส่ widget เพิ่มเติมที่ทำให้คุณใช้มือถือได้สะดวกรวดเร็วขึ้น หรือแม้กระทั่งทำให้ Android เหมือน iPhone ก็ยังได้ด้วยนะ ซึ่ง Android มี Launchers มากมายเช่น Nova Launcher, Microsoft’s Launcher, Apex Launcher และ Action Launcher
ซึ่ง iPhone ไม่มี และเป็นเรื่องยากมากที่ iPhone จะมาพร้อมฟีเจอร์ Launcher ด้วย
6. Android เปลี่ยนพื้นหลังอัตโนมัติได้ ไม่น่าเบื่อ
นอกจากปรับแต่งหน้าจอ Home Screen หรือใช้ Launchers ในการทำงานละก็ อีกฟีเจอรึนึงที่ iPhone ทำไม่ได้คือการเปลี่ยนพื้นหลังอัตโนมัติ ซึ่งฝั่ง Android สามารถเปลี่ยนพื้นหลังอัตโนมัติได้ ผ่านทางแอป Google Wallpaper นั่นเอง
โดย Wallpaper App อย่างไรก็ตามเพื่อความฟิน อย่าลืมเตรียมรูปที่ชอบนำมาใส่ผ่านทาง Wallpaper App ด้วย
7. Android สามารถดูวีดีโอ และอ่านข้อความในเวลาเดียวกัน
เช่นหากคุณใช้โหมดนำทางในGoogle แผนที่ ตอนนี้สามารถย่อการนำทางของ Google แผนที่ ให้เป็นขนาดเล็กอยู่มุมจอได้ และด้านพื้นที่้เหลือส่วนใหญ่ๆนี้ไว้ชมพวกเว็บไซต์ ข่าว หรือโซเชียลได้
นอกจากนี้ยังมีแอป Youtube มีโหมด Picture in Picture ให้คุณชมวีดีโอจอเล็กได้ ส่วนจอใหญ่ไว้อ่านอีเมล อ่านข่าวสาร หรือพิมพ์งานเป็นต้น
ซึ่ง iPhone ทำไม่ได้ แต่ฟีเจอร์นี้ฝั่ง Apple ทำได้บน iPad รุ่นต่างๆเท่านั้น ( iPadOS ) แต่ iOS ไม่มีเลยนั่นเอง ที่สำคัญฟีเจอร์นี้มี ทั้งบนมือถือ Android ทั่วไป และบน Galaxy Note ก็มีฟีเจอร์ Pop-up Video ดูวีดีโอภายในโหมดจอเล็ก แล่วเช็ค facebook และบริการต่างๆได้ได้เช่นกัน และทำได้มานานแล้ว
ทั้งหมดนี้คือ 7 สิ่งที่มือถือ Android ทำได้ แต่ iPhone กลับทำไมได้ แล้วลองจับตาปี 2020 ว่า iPhone จะแก้สิ่งที่ทำไม่ได้ ให้กลับมาทำได้หรือไม่ ?
อ้างอิง CNET