ในที่สุดเราก็ได้ผู้ชนะเลิศในโครงการ Young Technopreneur 2019 รางวัลสุดยอดผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม Samart Innovation Award (SIA) รับเงินรางวัล 200,000 บาท
ผลงานไฮโดรเจล-ติดทน-เส้นขนสัตว์ เป็นนวัตกรรมซีรั่มที่มีคุณสมบัติพิเศษ ใช้แทนการอาบน้ำสัตว์หลังผ่าตัด หรือฉีดวัคซีน หรือสัตว์ที่ต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากนั้นยังช่วยขจัดกลิ่นเหม็นให้กลายเป็นกลิ่นหอมที่ติดทนนาน อีกทั้งยังช่วยไล่ยุง เห็บ หมัดได้อีกด้วย ซึ่งผลงานได้ทำการผลิตและนำออกจำหน่ายแล้ว และกำลังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆออกตามมาเร็วๆนี้ และผลงานนี้ยังได้รางวัล Investor Award อีกหนึ่งรางวัลด้วย
ส่วนรางวัลที่ 2 ได้แก่ ผลงาน I-Lock ระบบควบคุมรถด้วย IOT I-Lock เป็นกล่องสมองกลที่มีความสามารถในการควบคุมระบบไฟฟ้าของรถ เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบไฟส่องสว่าง กระจกไฟฟ้า ระบบล๊อครถ สามารถควบคุมรถได้จากระยะไกล ด้วยระบบ Internet of Things (IoTs) นอกจากนี้ยังมีระบบรายงานสถานะต่างๆของรถ เช่น ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง ระยะทางที่รถวิ่ง อุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิห้องโดยสาร ตำแหน่งของรถ ความผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นกับรถ ซึ่งทำให้รถของเรากลายเป็น Smart car ที่สามารถควบคุมผ่าน Application ได้ ซึ่งปัจจุบันระบบ I-Lock ให้บริการแล้ว โดยมีรถยนต์รอการติดตั้งอยู่ราว 100 คัน และนอกจากนี้ยังได้รับรางวัล Media Award อีกด้วย
รางวัลที่ 3 คือ ผลงาน Alto Tech Smart Hotel เป็นระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะภายในโรงแรมด้วยะบบ AI ทำให้การใช้งานไฟฟ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้กับในหลายอุตสาหกรรมได้ ล่าสุดได้มีการใช้งานจริงแล้วที่โรงแรมในเกาะสมุย จ.สุราษฏ์ธานี
และสำหรับน้องๆที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายอีก 9 ทีม ยังได้รับทุนพัฒนาผลงานทีมละ 30,000 บาทด้วย
นางศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยี (BIC) สวทช. กล่าวว่า “โครงการนี้ เป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริม Startup ของภาครัฐที่ร่วมกับภาคเอกชน ในการสร้าง Startup รุ่นเยาว์ให้เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ (Startup Ecosystem) ในสถาบันการศึกษา ตลอดจนการพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการเทคโนโลยีให้กับสตาร์ทอัพที่เป็นเยาวชนในรั้วมหาวิทยาลัย โดยมีนักเรียนนักศึกษาให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 860 ผลงาน มีทีมที่ผ่านเข้าร่วมทั้งหมดกว่า 520 ผลงาน โดยจากผลสำเร็จของกลุ่ม Startup รุ่นใหม่ที่ผ่านการเข้าร่วมโครงการนี้ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา มีการดำเนินการจัดตั้งบริษัทแล้วกว่า 60 บริษัท และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ประมาณ 32 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างมากของการดำเนินโครงการฯ ที่สามารถตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรม มาสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของประเทศในยุคไทยแลนด์ 4.0 ได้อีกด้วย
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ผลงานของน้องๆในปีนี้มีการพัฒนาด้านความคิดสร้างสรรค์ทั้งในส่วนของนวัตกรรม และแผนธุรกิจที่ชัดเจนมีความไปได้ทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งคณะกรรมการที่มาจากภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกันพิจารณาตัดสินอย่างเข้มข้น ตลอดระยะเวลา 17 ปี กลุ่มบริษัทสามารถ มุ่งสนับสนุนให้เกิดการสร้าง “คนคุณภาพ” ด้วยการสนับสนุนและสร้างโอกาสด้านความรู้ ความคิดสร้างรรค์ด้านเทคโนโลยีและการสร้างอาชีพ ผ่านโครงการ SAMART Innovation Award ซึ่งเราได้เห็นพัฒนาการและไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ จากคนรุ่นใหม่กว่า 7,000 คน และเป็นเวลาถึง 8 ปี ที่ได้จับมือกับ สวทช. ในการจัดโครงการ Young Technopreneur เพื่อมุ่งสนับสนุนให้เกิดเจ้าของธุรกิจด้านเทคโนโลยี ซึ่งไม่ใช่ได้โล่และเงินรางวัลเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์มากมาย ทั้งสร้างโอกาสในการเก็บเกี่ยวความรู้จากคอร์สฝึกอบรมต่างๆ โอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ และโอกาสให้เกิดนักธุรกิจตัวจริงได้ จากการเข้าร่วมกิจกรรม Pitching ซึ่งในปีนี้มีเหล่านักลงทุนจากหลายธุรกิจเข้าร่วม อาทิ กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มภาคการเกษตรและอาหาร กลุ่มโลจิสติกส์ กลุ่มพลังงาน และที่สำคัญโอกาสในการสร้างและสานต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมโครงการ และคนในแวดวงเทคโนโลยี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต”
กลุ่มสามารถ ยังคงเป็นภาคเอกชนที่มุ่งสร้าง “โอกาส” ให้กับนักคิดนักพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและช่วยขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีต่อไป”
สำหรับผู้สนใจโครงการ SAMART Innovation Award ปี 2020 ติดตามได้ที่ www.samartsia.com หรือที่ Facebook SamrtInnovationAwards
ดูบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
Young Technopreneur 2019 รอบสุดท้าย Final Business Plan Competition