วิธีการผ่านเครื่องสแกนสัมภาระ ที่สนามบิน อย่างรวดเร็ว ไม่ตกเครื่อง ควรมีการจัดเตรียมอย่างไร จะได้ไม่ต้องเสียเวลาถูกเข้าตรวจอีกรอบ และไม่ต้องมาเสียดายของที่ตรวจไม่ผ่านในภายหลัง เดือดร้อนตัวเองที่ทำให้ขึ้นเครื่องบินไม่ทัน และสร้างความเดือดร้อนต่อผู้โดยสารท่านอื่นที่อยู่คิวหลังคุณ
วิธีการผ่านเครื่องสแกนสัมภาระ แบบไม่ตกเครื่องที่สนามบิน
1. เป็นสมาชิกสายการบินที่คุณจะขึ้นเครื่อง
ปัจจุบันสายการบินส่วนใหญ่มีสมัครสมาชิกเพื่อสะสมไมล์ เพื่อคว้าเที่ยวบินฟรี หรือสิทธิพิเศษต่างๆ แต่ที่แนะนำให้สมัครนี้ จะช่วยให้การซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน รวดเร็วขึ้น มีผลต่อการเช็คอินรับบัตร Boarding Pass ด้วย และลดเวลาการกรอกข้อมูลผู้โดยสารลงได้เยอะมาก ซึ่งแทบทุกสายการบินเปิดให้สมัครฟรีผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบินได้เลย
2. ตรวจสอบวางแผนจราจรและเดินทางถึงสนามบิน
วางแผนเดินทางให้ถึงสนามบิน ก่อนเวลาบินจริง 2-3 ชั่วโมง ให้ลองตรวจสอบสภาพจราจร และเลี่ยงการเดินทางบนเส้นทางที่รถติดอย่างหนัก เพื่อเดินทางถึงสนามบินให้ทัน
3. เตรียมเอกสารสำคัญให้พร้อม
สำคัญสุดในการบินคือ บัตรประชาชน สำหรับบินในประเทศ กับ หนังสือเดินทาง พร้อมทำสำเนาแยกไว้ 1 ชุด สำหรับบินไปต่างประเทศ เพื่อรองรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ทำหนังสือเดินทางหายในต่างประเทศ ทั้งนี้หนังสือเดินทางของคุณต้องมีอายุคงเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
4. จัดเตรียมกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่องให้พร้อม
1 PowerBank ให้นำติดตัวขึ้นเครื่องบินเท่านั้น ห้ามนำมาใส่กระเป๋าโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง และ PowerBank ต้องมีฉลากบอกความจุแบตอย่างชัดเจน และต้องมีขนาดไม่เกิน 32,000 mAh
2.ของเหลวติดตัวขึ้นเครื่องนั้น มีขนาดบรรจุภัณฑ์ไม่เกิน 100ml จำกัดไม่เกิน 10 ขวด และจัดเก็บลงในถุงซิปล็อค ขนาดไม่เกิน 20X20
5. เช็คอินแบบไม่ต้องรอ เช็คอินออนไลน์ไปเลย
แนะนำมาก เพราะจะช่วยประหยัดเวลาได้มากไม่ต้องรอคิว ซึ่งส่วนใหญ่รองรับการเช็คอินผ่านแอปสายการบินบนมือถือแล้ว หากมีสัมภาระ ก็ต่อคิวในช่อง โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องได้เลย
6. แต่งชุดให้เหมาะสมกับสถานที่ที่จะไป
เพียงแค่แต่งกายให้เหมาะกับสถานที่ที่จะไป ไม่แต่งจนเยอะรุงรัง หรือน้อยชิ้นจนไม่พอดี และควรมีช่องกระเป๋าสำหรับใส่หนังสือเดินทางติดตัวได้สะดวก
7.แยกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง ออกจากกระเป๋า ก่อนทำการสแกนสัมภาระ
เพื่อความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย ควรแยกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้อง เครื่องเล่นเกม ออกจากกระเป๋าแยกใส่ตะกร้าวางของต่างหาก เพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบ
8. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสัมภาระ
โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่ภายในสนามบิน เพื่อความรวดเร็ว และไม่กระทบต่อผู้อื่นที่ต่อคิวหลังคุณ
9. เผื่อเวลามาให้ทันขึ้นเครื่องบินที่ GATE
หลังการตรวจค้นสัมภาระเสร็จแล้ว ให้รีบมาที่จุดขึ้นเครื่องบินมาก่อนหรือมาตามเวลา ตามที่เจ้าหน้าที่สายการบินได้ระบุไว้ใน Boarding Pass
และนี่ก็คือ วิธีการผ่านเครื่องสแกนสัมภาระ อย่างรวดเร็ว หากปฏิบัติตามทั้งหมดนี้จะทำให้คุณสามารถขึ้นเครื่องบินได้อย่างรวดเร็วและตรงต่อเวลามากขึ้น รอดพ้นการตกเครื่องที่สนามบินแน่นอน
ข้อมูลจาก Lifesavvy , @AOT_Official
บทความเทคโนโลยีน่ารู้เพิ่มเติม
เตรียมตัวให้พร้อม!! ก่อนไปต่างประเทศ