กลุ่มสามารถ ผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยี ชี้ปี 2019 ปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ ชูธุรกิจไอซีทีมาแรง สร้างความแตก ยั่งยืน หรือ “ SAMART. Strong & Sustain ” เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
โดยกลุ่มสามารถได้เชิญ ทีมงานไอที 24 ชั่วโมง และสื่อมวลชน ร่วมฟังข้อมูลเป้าหมายการเติบโตทุกสายธุรกิจของกลุ่มสามารถโดยเฉพาะอย่าง ICT ที่จะทํา New High ทั้งในส่วนของ รายได้และมูลค่างานในมือ ด้านธุรกิจพลังงานเตรียมปรับโครงสร้างการลงทุน (New Structure) เพื่อเตรียมขยายธุรกิจและก้าวเข้าสู่ Listed SET
ภายในงาน คุณวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น ได้ขึ้นมาพูดคุยกับถึงเป้าหมายที่กลุ่มสามารถตั้งใจเอาไว้ว่า “จากความพยายาม ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มสามารถได้มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจบางส่วนให้สอดคล้องกับยุคดิจิตอล และเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภค โดยได้มีการ เริ่มต้นธุรกิจใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อการสร้างรายได้ประจําอย่างต่อเนื่องนับจากปี 2019 เป็นต้นไป ภายใต้จุด มุ่งเน้นในการรุกธุรกิจปีนี้ว่า “SAMART. Strong & Sustain” หรือปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจองค์กร สร้างความ แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยตั้งเป้าเติบโตทุกสายธุรกิจด้วยรายได้ทั้งกลุ่ม 2 หมื่นล้านบาท”
ส่วน New S-Curve โดยสายธุรกิจ SAMART Digital หรือ SDC ตั้งเป้ารายได้ที่ 4,000 ล้านบาท หลังจากปรับ โครงสร้างและขยายโอกาสสู่ธุรกิจใหม่ๆ มีแววรายได้ฟื้นตัว และมีรายได้เติบโตชัดเจน (S Curve) ในปี 2019 จาก ธุรกิจ Digital Network เช่น โครงข่ายวิทยุระบบ CAT DTRS Nationwide ของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงธุรกิจ ด้าน Digital Content ทั้ง BUG , EDT และ I-Sport มีแนวโน้มสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง
ด้าน New High สายธุรกิจ ICT Solutions ถือเป็นปีทองของไอซีที ที่จะทํา New High ทั้งในส่วนของรายได้และ มูลค่างานในมือ โดยตั้งเป้ารายได้ปี 2019 ที่ 1 หมื่นล้านบาท และมีงานในมือ (Backlog) กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท จากการเซ็นต์สัญญาโครงการต่าง ๆ มากถึง 118 โครงการ ทั้ง โครงการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, โครงการของกองบัญชาการตํารวจแห่งชาติ และโครงการของ บมจ.การท่าอากาศยานไทย เป็นต้น โดยประเดิมด้วยงานโครงการติดตั้งและพัฒนาระบบสารสนเทศธุรกิจ หลัก หรือ Core Business Process System ให้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่ง ประเทศไทย หรือ SME Bank
New Business Structure สายธุรกิจ U-TRANS เป้ารายได้ที่ 4,400 ล้านบาท โดยได้มีการปรับ โครงสร้างองค์กร เพื่อเตรียมนํา บริษัท แคมโบเดีย แอร์ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (CATS) เข้าจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ฯ และเพื่อเอื้อต่อการขยายธุรกิจทั้งในส่วนของ Air Traffic Control ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และการ ขยายธุรกิจทางด้าน Underground Cable ซึ่งมีมูลค่าโครงการมากถึง 1.4 หมื่นล้านบาท โดยล่าสุด บริษัท เทด้า คว้างานก่อสร้างสถานีต้นทางคลองด่านของกฟน. ในนาม The Consortium of TEDA-ITE-STO”
ส่วน New Service.New Market โดย บมจ. วันทวัน คอนแทคส์ (OTO) ตั้งเป้ารายได้ 1 พันล้านบาท โดยยัง *ลูกค้าภาครัฐเป็นหลัก ส่วนภาคเอกชนมุ่งเน้นไปที่กลุ่มธนาคารและกลุ่มธุรกิจประกัน โดยวาง 2 แนวรุก ยางเอกาสทางธุรกิจ คือ New Service มุ่งพัฒนาสินค้า และบริการด้านธุรกิจคอลล์เซ็นเตอร์ที่เป็น Services อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น การให้บริการ Voice AI , การนํา Chatbot มาให้บริการสอบถามข้อมูลผ่านทาง Line Connect, facebook และ website ที่ช่วยลดระยะเวลา และค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า New Market โดยการร่วมมือกับ partner อย่างเป็นทางการกับ LINE Company (Thailand) Limited ในโครงการ LINE Customer Connect ในการเป็นผู้ดําเนินการงานด้านระบบบริการลูกค้า รวมถึงเป็น Strategic Partner กับบริษัท HANKOOK Corporation ผู้นําในธุรกิจ Contact Center ครบวงจรในประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการแลกเปลี่ยนแนวคิดการบริหารงาน การพัฒนาเทคโนโลยี และจับมือกันนําเสนอบริการใหม่เข้าสู่ตลาด
โดยทั้งนี้ มี 2 ปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของสามารถเติบโต คือ
- ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ปีนี้น่าจะดีกว่าปีก่อน จากการท่องเที่ยวและการลงทุนจากต่างประเทศ ที่ต้องการลงทุนในไทย เพื่อเชื่อมโยงการค้าระหว่าง CLMV
- การกระตุ้นของภาครัฐ ในร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงนโยบาย Thailand 4.0 ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมด้านเทคโนโลยี และดิจิตอลเพื่อการพัฒนาประเทศเป็นหลัก
และคุณวัฒน์ชัย ยังได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “เรากําลังเข้าสู่ยุค 5G การปรับตัวให้ทันต่อกระแสความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว คือ กุญแจสําคัญของการอยู่รอดใน โลกธุรกิจ กลุ่มสามารถได้เตรียมความพร้อมและมีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการบริหารธุรกิจ การพัฒนาคน และการพัฒนาเทคโนโลยี”