ยุคนี้อะไรก็สะดวกสบาย นั่งอยู่เฉยๆ พื้นบ้านก็สะอาดปิ๊งไร้ฝุ่นได้โดยไม่ต้องออกแรงจับไม้กวาด ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปมากขึ้นจากไม้กวาด ไม้ถูพื้น เครื่องดูดฝุ่นมีสาย หรือแบบไร้สาย และ ล่าสุดกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ที่นำพาความสบายมาให้เรา ไม่ต้องเดินดูดฝุ่นตามพื้นเองอีกต่อไป แต่ถ้าจะเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสักเครื่องต้องดูอะไรบ้าง วันนี้เรามาลองรีวิว “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba e5” ผู้ช่วยสุดล้ำจาก iRobot ที่จัดว่าเป็นผู้นำด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ระดับโลกมานานกว่า 29 ปี หรือตั้งแต่ยุคที่เรายังใช้ไม้กวาดกันอยู่เลย จะมีเทคโนโลยีอะไร สะอาดกว่ากวาดบ้านเองหรือเปล่า มาติดตามดูกันเลยยยย
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 ดีไซน์ใหม่ จากภายใน อัดแน่นมาด้วยเทคโนโลยีรอบตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทางที่คิดคำนวณการเดินทุกๆครั้ง สามารถตรวจจับฝุ่นละอองได้ว่า จุดไหนฝุ่นเยอะหรือน้อยแค่ไหน พร้อมชุดแปรงยางคู่ แบบใหม่ทรง V หรือแม้แต่การกรองสารก่อภูมิแพ้และไรฝุ่นได้อีกด้วย
แกะกล่อง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 กันเลย
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วย
– หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba e5 1 เครื่อง
– แท่นชาร์จแบตเตอรี่ 1 เครื่อง พร้อมสายไฟ
– อุปกรณ์สร้างผนังจำลอง Virtual Wall 1 เครื่อง (รวมแบตเตอรี่ไซน์ AA 2 ก้อน)
– ฟิลเตอร์กรองฝุ่น 1 ชิ้น (ไม่รวมภายในเครื่อง)
– ใบรับประกันเครื่องเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอร์รี่ 1 ปี*
อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่อง โดยร่วมก็ครบถ้วนตามแบบของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั่วๆไป แต่ที่น่าสนใจ อีกอย่างที่มีมาให้คือ อุปกรณ์สร้างผนังจำลอง (Virtual Wall)
Virtual Wall
อุปกรณ์สร้างผนังจำลอง (Virtual Wall) ที่สามารถจำลองผนังขึ้นมาให้สำหรับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 สามารถสร้างเป็นผนังตรงๆยาว 3 เมตรได้ และสร้างเกาะวงกลม รัศมี 60 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้หุ่นยนต์ไปในพื้นที่ ที่ไม่ต้องการได้ เช่นบ้านไหนเลี้ยงน้องหมา น้องแมว ก็จะมีชามข้าวของน้องหมา น้องแมว เราก็สามารถวางเจ้า Virtual Wall นี้เพื่อป้องกันสิ่งเหล่านี้ที่อาจทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเสียหายได้ (และก็จะได้ไม่ไปวุ่นวายกับชามข้าวน้องหมาแมวด้วยนะ)
ฐานชาร์จ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
ฐานชาร์จ iRobot Roomba e5 เป็นฐานชาร์จมาตรฐาน เช่นเดียวกับเครื่องดูดฝุ่น Roomba ทั้งหมดเมื่อแบตเตอรี่ของ iRobot Roomba e5 เหลือน้อย หรือทำความสะอาดจนเสร็จเรียบร้อย ก็จะพยายามกลับไปหาฐานชาร์จ และการชาร์จก็จะเริ่มชาร์จเองโดยอัตโนมัติ สะดวกมากๆ
มาสำรวจตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 กัน
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 มีการดีไซน์ใหม่จากภายใน ส่วนภายนอก ก็ดูทันสมัยคล้ายกับรุ่นอื่นๆ ส่วนดีไซน์ภายในนั้นจะเป็นยังไง มาดูกันเลยว่าแต่ละส่วนของตัวเครื่อง มีความสามารถอะไรบ้าง
ด้านการดีไซน์หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
เมื่อดูที่ด้านบนของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 เราก็จะเห็น ปุ่มทั้งสามปุ่ม ปุ่มหลักคือปุ่ม
“ทำความสะอาด” ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งปุ่มเปิดปิดและปุ่มทำความสะอาดอัตโนมัติ ปุ่มด้านซ้ายและขวาเป็นปุ่มโฮมและ Spot clean
ปุ่ม Home – เมื่อกดปุ่มนี้ e5 จะกลับไปที่ฐานชาร์จและเริ่มชาร์จทันที
ปุ่ม Spot clean – เมื่อกดปุ่มนี้ e5 จะเปลี่ยนเป็นโหมด clean spot โดยการทำงาน Roomba e5 จะเดินทางเป็นวงกลมเล็ก ๆ ในพื้นที่เฉพาะไม่เกิน 1 ตารางเมตร ประมาณ 1 นาที
ส่วนรอบข้างตัวเครื่องหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
บริเวณด้านหน้าจะมีบัมเปอร์กันชน ชะลอก่อนแล้วค่อยชนเบาๆ เพื่อทดสอบว่าเป็นกำแพงจริงๆหรือเปล่า เฟอร์นิเจอร์บางอันมีชายผ้าเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เช่น ชายผ้าม่านที่ทิ้งลงมาพื้น ผ้าคลุมเตียง หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 ก็สามารถผ่านเข้าไปทำความสะอาดได้สบายๆเลย (ถ้าเป็นแบบอื่นๆ ก็จะหยุดอยู่ที่หน้าผ้าม่านเพราะคิดว่าเป็นสิ่งกีดขวางนั่นเอง) และที่สำคัญหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 นี้ จะเลือกใช้รูปแบบจากระบบที่เรียกว่า iAdapt 1.0 ซึ้งเป็นระบบนำทางที่คิดคำนวณการเดินแต่ละครั้งด้วยเซ็นเซอร์รอบตัว และระบบประมวลผล ที่มีรูปแบบในการเดินถึง 40 รูปแบบซึ่งหุ่นยนต์จะเลือกใช้โดยผ่านการคิดคำนวณจากเซ็นเซอร์ที่อยู่รอบตัวหุ่นยนต์ ภายใน 60 ครั้ง/วินาที ไม่ต้องกลัวว่าหุ่นยนต์จะเดินมั่ว เดินสุ่ม เพราะทุกการเคลื่อนไหว ได้คิดคำนวณไว้แล้วววววว
พลิกดูที่ใต้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
ที่ใต้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 เราก็จะเห็นเซ็นเซอร์ป้องกันการตกจากที่สูงที่ด้านหน้าและด้านข้าง ที่จะสามารถป้องกันการตกจากที่สูงตั้งแต่ 10 เซนติเมตรได้ พร้อมทั้งล้อที่ใช้ขับเคลื่อน กล่องถังขยะ แปรงปัดฝุ่น และชุดแปลงยางคู่ ที่สลายการเกาะตัวของสิ่งสกปรก ที่มาพร้อมระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน
ระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอนของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 จะมีการทำความสะอาด 3 ขั้นตอนโดยมีแปรงปัดฝุ่น 3 แฉกเพื่อปัดฝุ่นจากด้านข้างและขอบกำแพงหรือเฟอร์นิเจอร์เข้าสู่ตัวเครื่อง หลังจากนั้นแปรงยางคู่จะทำหน้าที่สลายการเกาะตัวของสิ่งสกปรกพร้อมทั้งตักฝุ่นเข้าสู่ตัวเครื่อง สุดท้ายแล้วจะมีการดูดสิ่งสกปรกเข้าสู่ถังขยะ ช่วยให้การทำความสะอาดดีขึ้น เก็บได้เกลี้ยงดีเลย
แปรงยางคู่ดีไซน์ใหม่
นอกจากนี้ยังมีชุดแปรงยางคู่ สีเขียวที่ออกแบบมาใหม่ รูปตัว V เพื่อให้ทำความสะอาดได้ดีขึ้น แปรงยางคู่นี้สามารถจับพื้นผิวของพื้นบ้านเราได้ดี สามารถจับสิ่งสกปรกหรือขนสัตว์เลี้ยงได้ดีกว่า และสามารถตักสิ่งสกปรกและฝุ่นขึ้นมาได้ดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับแปรงที่มีขนโค้งงอ โดยการทำงานแต่ละแปรงคือ
แปรงที่ 1 ทำหน้าที่สลายการก่อตัวของฝุ่น
แปรงที่ 2 ตักฝุ่นเก็บสิ่งสกปรก เข้าถังขยะ โดยทำงานคู่กับเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละอองได้อีกด้วย
เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
นอกจาก Roomba e5 จะมีแรงดูดที่มากแล้ว ก็ยังมีคุณสมบัติตรวจจับสิ่งสกปรกที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect เพื่อระบุบริเวณที่สกปรกบนพื้นและหุ่นยนต์จะทำงานซ้ำในบริเวณที่ตรวจจับฝุ่นพบเป็นพิเศษใช้เวลาทำความสะอาดจุดนั้นมากขึ้น
นอกจากนี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 ยังสามารถนำถังเก็บฝุ่นมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย เพียงล้างด้วยน้ำสะอาด และมีตัวกรองประสิทธิภาพสูงที่สามารถกรองสารก่อภูมิแพ้และไรฝุ่นได้ โดยเฉพาะสารก่อภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยง แต่ตัวกรองฝุ่นห้ามล้างน้ำนะจ๊ะ
การเชื่อมต่อ Wi-Fi เชื่อมหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 กับมือถือของเรา
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เพื่อให้สามารถจับคู่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นกับสมาร์ทโฟนของเราได้ แอปมือถือช่วยให้เราสามารถควบคุมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของเราและตั้งค่าตารางการทำความสะอาดได้แม้เราไม่อยู่บ้าน แอปมือถือจะช่วยให้เราสามารถตรวจสอบกิจกรรมของหุ่นยนต์และดูประวัติย้อนหลังที่ได้ทำความสะอาดไปแล้ว และยังสามารถเข้าถึงวิดีโอการบำรุงรักษาได้โดยตรงจากแอป
การชาร์จหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5
Roomba e5 สามารถชาร์จตัวเองได้เมื่อต้องการ การชาร์จหนึ่งครั้ง จะทำให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 ทำงานได้สูงสุด 90 นาที แต่เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็ไม่ต้องห่วงเพราะหุ่นยนต์จะวิ่งกลับมาชาร์จเอง
Smart Home กับแอป iRobot HOME
เพียงเชื่อมต่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 เข้ากับแอปพลิเคชัน iRobot HOME เราก็จะสามารถควบคุมและตั้งเวลาการทำงานล่วงหน้า ตรวจสอบผลการทำงานแต่ละครั้ง พร้อมคำแนะนำ ในการดูแลรักษาที่สำคัญ และตั้งเวลาจากที่ไหนก็ได้ผ่านแอป!
หน้าตาแอปพลิเคชัน iRobot HOME
ในหน้าแรกนี้ ก็จะปุ่ม CLEAN ซึ่งหน้าตาก็เหมืนกับปุ่มที่อยู่บนตัวหุ่นยนต์เลย ปุ่มนี้ก็สามารถสั่งให้หุ่นยนต์ทำงานหรือหยุดการทำงานและกลับไปยังแท่นชาร์ตได้ในปุ่มเดียว
ฟังก์ชันการตั้งเวลาทำงานล่วงหน้า (Schedule)
เราสามารถตั้งเวลาให้หุ่นยนต์ Roomba e5 ของเราทำงานในตอนไหนก็ได้ แม้เราจะไม่ได้อยู่บ้าน ก็ยังสามารถสั่งงานเจ้าหุ่นยนต์ได้ด้วย แอปพลิเคชัน iRobot HOME ก็จะสามารถควบคุมและตั้งเวลาการทำงานล่วงหน้าได้
ดูประวัติการทำงาน (History)
แอปพลิเคชัน iRobot HOME ยังสามารถดูประวัติการทำงานของเจ้าหุ่นยนต์ Roomba e5 ว่าในการทำงานแต่ละครั้ง เป็นอย่างไร ใช้เวลาเท่าไร หรือเจอปัญหาอะไร เจ้าหุ่นยนต์ก็จะแจ้งมาที่แอปพลิเคชันนี้เลย
การสั่งงานด้วยเสียง
อยากให้พื้นสะอาดอีกครั้ง ก็แค่สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant, Alexa หรืออุปกรณ์ที่รองรับ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นของคุณก็จะสามารถเริ่มทำงาน หยุด หรือกลับแท่นชาร์จตามต้องการ แค่พูดก็สามารถสั่งงานหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้แล้ว
เชื่อมต่อหุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 กับอุปกรณ์อื่นๆหรือบริการอื่นๆ ผ่าน IFTTT
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 นี้ถือเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น IoT (Internet of Things) ที่เรายังสามารถเพิ่มความสามารถของ Roomba e5 ให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ หรือบริการอื่นๆ นอกเหนือไปจากของ Roomba เองได้ด้วย ผ่านทางบริการ IFTTT มาลองดูตัวอย่างกันเล้ยยย
ขั้นแรก โดยการใช้งาน ก็แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน IFTTT หรือเข้าเว็บไซต์ IFTTT และ Connect เชื่อมต่อกับ Application iRobot Home
เมื่อเข้ามาในแอปพลิเคชัน IFTTT แล้ว เราก็เลือก เพิ่ม New Applet การทำงาน โดยกดปุ่ม + แล้วก็จะเข้ามาที่หน้า New Applet จะเห็นข้อความ if / this / then / that หลังจากนั้นเราก็เลือกเพิ่มที่ this เพื่อกำหนดว่าจะให้หุ่นยนต์ทำอะไรเมื่อเกิดเหตุการณ์หรือเงื่อนไขอะไรขึ้นมา
อย่างเช่นตัวอย่างนี้ เราลองเลือกให้ this เชื่อมกับ Location ก็จะมี Select trigger ขึ้นมาให้เราเลือกว่าต้องการแบบไหนและแล้วเราก็ปักหมุดบนที่ตั้งของที่ที่หุ่นยนต์ใช้งานอยู่ได้เลย
ส่วน that ก็เลือกให้เป็น iRobot เพื่อเป็นการ action มาที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 ของเรานั่นเอง
จากนั้นเราก็เลือก Select action ของ เจ้าหุ่นยนต์ Roomba e5 ว่าจะให้ทำอะไร เช่น ให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba e5 เริ่มการทำงานเมื่อเราออกจากพื้นที่ที่ปักหมุดไว้หรือออกจากบ้าน ตามที่เราเลือกไว้ใน Select trigger นั่นเอง
เพียงเท่านี้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 ก็จะทำงานตามคำสั่งที่เราตั้งไว้ได้แล้วโดยอัตโนมัติ เหมือนกับเราเขียนคำสั่งป้อนเอาไว้ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ให้เจ้าหุ่นยนต์ของเราทำอะไรนั่นเอง แต่เมื่อเขียนคำสั่งไว้ให้แล้วก็อย่าลืมเปิดใช้คำสั่งนั้นด้วยนะ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ทำงานอัตโนมัติตามที่เราสั่งไว้
ซึ่งนี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้น เรายังสามารถเชื่อมต่อเจ้า iRobot Roomba e5 ของเรากับอุปกรณ์อื่นๆได้อีกมากมายด้วย IFTTT ยังไงก็ลองไปเล่นดูได้เล้ยยย ลองดูแล้วเป็นอย่างไร มาเมนต์คุยกันไว้ที่ช่อง comment ด้านล่างนี้กันด้วยนะคะ