iOS 13 iPadOS และ WatchOS 6 ซึ่งก็คือระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จาก Apple โดย iOS 13 สำหรับผู้ใช้ iPhone , iPod Touch กับ iPadOS สำหรับผู้ใช้ iPad และ WatchOS 6 สำหรับผู้ใช้นาฬิกา Apple Watch นั่นเอง ซึ่งอีกไม่กี่เดือน ก็จะได้เห็นโฉมหน้าของโปรดักส์ใหม่จาก Apple ล่าสุด โดยเฉพาะที่น่าจับตาคือ iPhone โฉมใหม่จะมาแบบไหนนะ ? แต่ที่ไม่ต้องรอแน่ๆคือ iOS 13 , iPadOS และ WatchOS 6 นี่ จะเปิดให้ผู้ใช้ Apple ทุกรายได้อัปเดตฟรี เลยมาดูกันอีกครั้งว่า iOS 13, iPadOS และ WatchOS 6 มีอะไรใหม่ที่จะให้ลองใช้บ้าง
iOS 13 กับฟีเจอร์เด่นที่สำคัญ
iOS 13 ระบบปฏิบัติการสำหรับบน iPhone และ iPod Touch จะมาพร้อมกับครั้งแรกของ Dark Mode หรือโหมดมืด ซึ่งเป็นจุดเด่นสุดๆของ iOS 13 ซึ่งไม่ใช่แค่ครอบคลุมหน้า Home Screen หรือหน้า Settings ของตัว iOS13 เท่านั้น ยังรวมถึงแอปอื่นๆของ Apple เช่น Photos , Maps , Message และแอปอื่นๆอีกมากมาย ก็จะมีโหมดมืดเช่นกัน เพิ่มความสบายตาแก่ผู้ใช้งาน และช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่อุปกรณ์ของคุณได้ด้วย
จุดเด่นที่เพิ่มมาสดๆร้อนๆคือ Emoji และ Memoji ที่เพิ่งประกาศสดๆร้อนคือ Emoji ลายใหม่เพิ่มเติม และสามารถาสร้าง Memoji ในแบบสร้างหน้าของตัวเองได้ รองรับการแปลงเป็นสติ๊กเกอร์ในรูปแบบ PNG ใช้กับแอปแชตต่างๆหรือแอปโซเชียลอื่นๆได้ด้วย เหมือนกับ Line Stickerเลย และสามารถส่ง Memoji ผ่านทางแอป Message ในการแชทส่งข้อความ และใส่ Memoji ลงแอป Mail จาก Apple ส่งให้เพื่อนก็ได้
Photos หน้าตาใหม่ แสดงมีวิดีโอรวมกับรูปภาพเรียงข้อมูลตาม Timeline ให้ดูสวยงาม พร้อม วิดีโอพรีวิวอัตโนมัติได้ ให้คุณได้จำและค้นหารูปง่ายขึ้น และง่ายต่อการจดจำเหตุการณ์สำคัญสำหรับคุณ เสามารถซูมเข้าซูมออกในหน้า camera roll เพื่อดูภาพรวมเป็นรายเดือนรายปีได้ในครั้งเดียว / มีโหมดวันเกิดซึ่งจะสามารถไล่ดูตั้งแต่หน้าตอนเด็กจนโตของคนนั้นๆได้ด้วย และแอปนี้ฉลาดขึ้นสามารถแยกใบหน้าเซลฟี่ แยกสถานที่ และแยกวัตถุ เพื่อสะดวกในการค้นหารูปอย่างรวดเร็วด้วย
ไม่ใช่แค่ดูรูปเท่านั้น รองรับการแต่งรูปได้ทันทีผ่านทางแอป Photo จาก Apple ก็ยังได้ ใช้ได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
iPadOS ระบบปฏิบัติการใหม่ ก้าวอีกขั้นของ iPad
ที่สำคัญมากสำหรับผู้ใช้ iPad เพราะการอัปเดตครั้งนี้จะย้าย iPad มาใช้ระบบปฏิบัติการใหม่คือ iPadOS 13 นั่นเอง ซึ่งก็คือระบบปฏิบัติการใหม่คล้าย iOS 13 แต่ออกแบบสำหรับแท็บเล็ตจาก Apple อย่าง iPad โดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติที่จอใหญ่สุดๆแบบนี้ ต้องสามารถรองรับการทำงานบนหน้าจอใหญ่ให้ดีขึ้น จึงเปลี่ยนหน้าตา UI ใหม่ทั้งหมด เหมือนคุณใช้ Notebook ตั้งแต่หน้า Home Screen , เปลี่ยนแปลงหน้าตา Safari การแก้ไขเอกสารด้วยคำสั่ง Copy Paste แบบใหม่โดยใช้นิ้วมือ
Safari บน iPadOS 13 สามารถแคปหน้าเว็บไซต์ยาวๆได้แล้ว รองรับการแก้ไขรูปภาพที่แคปผ่านทางนิ้วมือ หรือทาง Apple Pencil จัดการกับการดาวน์โหลดไฟล์ได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญรองรับการแก้ไขงานบนแอป Safari โดยไม่ต้องพึ่ง chrome เช่นงานบนเว็บ Google Docs, Squarespace และ WordPress ได้
Apple เพิ่มความสะดวก แต่ยังให้ความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของคุณ
ทั้ง iOS 13 และ iPadOS 13 เอาใจใส่ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานมากขึ้น จะไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณไปรั่วไหล หรือแอบส่งต่อไปยังแอปไม่หวังดีตัวอื่นๆ พร้อมกับระบบ Sign in ใหม่ของ Apple ที่ง่าย สะดวกและปลอดภัยจากผู้ใช้งาน ด้วยปุ่มใหม่ที่ออกแบบสำหรับผู้ใช้ Apple ทุกคนคือ Sign in with Apple ให้คุณสามารถลงชื่อเข้าแอพและเว็บไซต์ด้วย Apple ID ที่มีอยู่ โดยไม่ต้องกรอกแบบฟอร์มหรือสร้างรหัสผ่านใหม่เลย เพียงแค่แตะ ” Sign in with Apple ” แล้วยืนยันอย่างรวดเร็วด้วย Face ID หรือ Touch ID เท่านี้ก็เรียบร้อย ส่วนแอพก็ขอได้แค่ชื่อและที่อยู่อีเมลของคุณ และถ้าคุณต้องการ เราสามารถสร้างที่อยู่อีเมลเฉพาะแบบ Encrypt เพื่อส่งต่อข้อความไปยังอีเมลจริงของคุณ โดยเราจะไม่ติดตามกิจกรรมที่คุณทำและคุณสามารถควบคุมข้อมูลของคุณได้ทั้งหมดด้วย
WatchOS 6 กับฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยดูแลคุณ สำหรับผู้ใช้ Apple Watch
WatchOS 6 มาพร้อมกัลป์หน้าปัดนาฬิการูปแบบใหม่ที่สวย ไม่ซ้ำใคร และดูหรูมีระดับและแตกต่างจากนาฬิกา Smartwatch เรือนอื่นๆ ออกแบบให้เหมาะกับ Lifestyle และพฤติกรรมของผู้สวมใส่ นอกจากช่วยให้สังเกตนาฬิกาได้ง่ายแล้ว ยังช่วยแจ้งเตือนเรื่องสุขภาพ การแจ้งเตือนการออกกำลังกายที่ละเอียดยิ่งขึ้น และที่สำคัญมันฉลาดขึ้นกว่านาฬิกา Smartwatch เรือนอื่นๆอีก เช่น
Track Cycle หรือการติดตามรอบเดือนบน watchOS 6 ออกแบบสำหรับผู้ใช้ Apple Watch ที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะ สามารถติดตามช่วงวันไข่ตก เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ สังเกตความผิดปกติของประจำเดือน และยังช่วยให้ผู้ใช้เตรียมพร้อมสำหรับรอบเดือนถัดไปได้ด้วย
SIRI ยังคงเป็นผู้ช่วยที่ฉลาดเหมือนเดิม สามารถถามได้ทุกเครื่อง และช่วยหาเพลงที่คุณเพิ่งชอบ แต่ไม่รู้ว่าเพลงอะไรได้ด้วย
Apple Store แม้คุณไม่มีอุปกรณ์ iOS เลย ก็สามารถโหลดแอปที่ใช้ร่วมกับ Apple Watch โดยเฉพาะได้ด้วย ด้วยแอป App Store ที่ออกแบบสำหรันนาฬิกา Apple Watch โดยเฉพาะ โดยไม่ต้อง sync กับ iPhone หรือ iPad เลย
เอาใจสายออกกำลังกายที่ดีขึ้นด้วย แนวโน้มกิจกรรม Activity Trends กำหนดเทรนด์ฟิตเนสล่าสุดด้วยตัวคุณเอง โดยจะแสดงในรูปแบบกราวงแหวนกิจกรรม ตัววัดการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย และการยืนที่คุณทำตลอดวัน แต่ความจริงแล้วนาฬิกาของคุณเก็บข้อมูลได้มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาเฉลี่ยต่อระยะทางเดิน จำนวนชั้นที่ขึ้น รวมไปถึงค่าการใช้ออกซิเจนสูงสุด หรือ VO2 สูงสุด และยังมีคุณสมบัติ “แนวโน้ม” ใหม่ที่ช่วยแสดงว่าตัววัดไหนเพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อให้คุณสามารถทำต่อไปได้อย่างเดิมหรือจะเลือกปรับไปอีกทางเลยก็ได้ และแสดงกราฟ “แนวโน้ม” จะเปรียบเทียบประสิทธิภาพการออกกำลังกายว่าทำอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ในช่วง 90 วันล่าสุด กับ ภาพรวมระยะยาวในช่วง 365 วัน หากคุณไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะได้รับการแจ้งเตือนจากแอปที่จะคอยเป็นเทรนเนอร์ให้คุณให้คุณได้พยายาม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออีกครั้ง
Apple Watch เอาใจใส่การได้ยินของคุณด้วย โดยออกเครื่องมือวัดเสียงชื่อว่า Noise วัดระดับเสียงรอบตัวคุณ และรายงานว่าบริเวณที่คุณยืนและได้ยินเสียงนี้อันตรายต่อสุขภาพคุณหรือไม่ พร้อมวิธีการเลี่ยงการยืนอยู่ในที่เสียงดังด้วย นอกจากนี้ Apple Watch ในการพิมพ์ข้อความจากเสียงพูดของคุณด้วย Voice Memo เมื่อพูดเสร็จก็กลายเป็นข้อความพิมพ์ ส่ง Message หรือโพสต์โซเชียลได้ทันที
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างคุณสมบัติใหม่คร่าวๆเพียงบางส่วนใน iOS 13 , WatchOS 6 และระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง iPadOS 13 ที่ผู้ใช้ Apple และผู้ใช้รายใหม่ที่จะใช้โปรดักส์ของ Apple ควรรู้จัก อีกไม่นานนี้คุณจะได้ลองและใช้อุปกรณ์ต่างๆบนระบบปฏิบัติการล่าสุดจาก Apple โดยจะเผยโฉมเวอร์ชั่นเต็ม และเปิดให้เริ่มใช้ความสามารถใหม่นี้กันในอีกไม่นานเกินรอ โดยอัปเดตฟรีเช่นเคย รอจับตาวันเปิดตัว iPhone ในช่วงปลายปี 2019 นี้