Dyson แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังจากประเทศอังกฤษ เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในปี 2019 ที่ออกแบบด้วยแนวคิดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้ง พัดลมกรองอากาศ, เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย และ โคมไฟสำหรับการทำงาน
ทีมงานไอที 24 ชั่วโมง พร้อมสื่อมวลชนไทย และสื่อมวลชนต่างชาติ ได้เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ เพื่อร่วมงานการเปิดตัวเปิดตัวผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีใหม่ในปี 2019 ของ Dyson
เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว Dyson Pure Cool Me พัดลมกรองอากาศส่วนตัว
- มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ Core Flow ให้ทั้งลมเย็นๆ และกรองอากาศสะอาดแบบรายบุคคล
- มีฟิลเตอร์ HEPA สามารถดักจับมลพิษอนุภาคขนาดเล็กพิเศษ หรือสารที่ก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.95% เช่น เกสรดอกไม้, สปอร์รา, แบคทีเรีย และดักจับมลพิษอนุภาคขนาดเล็กถึง 1 ไมครอน ที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 300เท่า
- นอกจากนี้ยังเปิดการทำงานของคาร์บอนเพื่อทำหน้าที่ดูดซับ และดักจับแก๊ส กลิ่น และควันภายในครัวเรือนเช่นสาร VOCs
- เมื่อเปิดใช้งานไม่มีเสียงดังรบกวน
- มีเซ็นเซอร์แสงอัจฉริยะในการวัดสภาวะแสงโดยรอบ และทำงานอัตโนมัติสามารถเพิ่มหรือลดความสว่างของจอ LCDที่ผังบังคับในตัวเครื่องได้อย่างเรียลไทม์ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศภายในห้องที่ใช้งาน (เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าหน้าจอ LCD บางรุ่นไฟสว่างจ้ารบกวนสายตาเราเวลาเข้านอน)
- สามารถตั้งค่าโหมดการนอนหลับ ตั้งแต่ 30นาที ไปจนถึง 8 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องเล็กกะทัดรัดสามารถวางไว้ข้างๆหัวเตียงนอน, บนโต๊ะทำงาน, บนโต๊ะห้องครัวและห้องเด็กเล็ก
Paul Dawson, Vice President, Health & Beauty (ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องฟอกอากาศ) กล่าวว่า “หนึ่งในหลักการสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Dyson คือความสามารถในการแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง ผลิตขึ้นสำหรับลูกค้า และสามารถใช้ได้จริงในบ้าน โดยไดสันได้ใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการท้าทายตัวเองถึงวิธีในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆที่แตกต่าง และดีกว่า ซึ่ง Dyson Pure Cool Me พัดลมกรองอากาศส่วนตัว ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อพื้นที่ส่วนตัว ให้เราได้ควบคุมคุณภาพอากาศและอุณภูมิได้อย่างสะดวกสบาย”
Dyson Pure Cool Me ราคา 13,900 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว-เงิน, สีดำ-ทองแดง
วางจำหน่ายเดือนมิถุนายนนี้
ชิ้นต่อมา Dyson V11 เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด ที่รับไม้ต่อจากรุ่น V10 มีหน้าจอ LCD บอกสถานะการทำงาน
- ใช้ดิจิตอลมอเตอร์ V11เพิ่มรอบการหมุนขึ้นมาเป็น 125,000 RPM เพื่อทำให้พลังการดูดสูงขึ้น
- พลังดูดที่แรงขึ้นกว่าเครื่องดูดฝุ่นรุ่น Dyson Cyclone V10 ถึง 20%
- ด้วยแบตเตอรี่ของ Dyson ทำความสะอาดได้นานขึ้นสูงสุด60 นาที
- มีหน้าจอLCD แสดงสถานะการทำความสะอาด
- มีโหมดการทำงานทั้ง Eco mode โหมดประหยัดพลังงานช่วยให้ทำความสะอาดได้นานสูงสุด 60 นาที, Auto โหมดปรับให้สมดุลกับพลังงานและเวลาในการใช้งานให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ, Boostand ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการทำความสะอาดอย่างละเอียดในพื้นที่ๆสกปรกมาก สามารถทำงานได้นานสูงสุด 5 นาที
- มีหัวแปรงทำความสะอาดแรงบิดสูงพร้อมระบบเซ็นเซอร์โหมดแบบไดนามิก (DLS) สามารถปรับเปลี่ยนระบบการทำงานระหว่างพื้นพรม และพื้นแข็งได้โดยอัตโนมัติ
- มี Cyclone technology 14 สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97%
Dyson V11 มี 2 รุ่น คือ fluffy ราคา 25,900 บาท
และ absolute ราคา 27,900 บาท (ต่างกันที่หัวเปลี่ยน) วางจำหน่ายเดือนพฤษภาคม
ไฮไลท์ในการเปิดตัวคือ Dyson Lightcycle โคมไฟสำหรับการทำงาน
โดยโคมไฟตัวนี้ออกแบบมาเพื่อลดความเมื่อยล้าทางสายตา และให้แสงสว่างที่เหมาะสมกับช่วงเวลาในแต่ละวัน
Jake Dyson ลูกชายของ Sir James Dyson OM CBE FRS FREng เป็นนักประดิษฐ์ชาวอังกฤษวิศวกรออกแบบอุตสาหกรรมและผู้ก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารของ บริษัท ไดสัน ได้ออกแบบ Dyson Lightcycle
- เชื่อมต่อผ่าน bluetooth เข้ากับมือถือซึ่งจะสามารถปรับสภาพแสงให้ตรงกับ ณ ขณะที่เราอยู่มากที่สุด ทั้งเวลา,สถานที่ และฤดูกาล
- มี heatpipe แท่งทองแดงช่วยดึงความร้อนออกจากหลอดไฟ LED สามารถระบายความร้อนของหลอดไฟได้ ยืดอายุการใช้งานของหลอดได้ถึง 60 ปี
- มี sensor ตรวจจับว่ามีคนใช้งานอยู่ไหมถ้าไม่มีไฟจะปิดอัตโนมัติภายในเวลา 2 นาที
- ดีไซน์สีขาวเรียบง่ายหมุนได้โดยรอบแบบ 360 องศา เลื่อนขึ้น เลื่อนลงได้
- สามารถชาร์จไฟมือถือได้(usb type c)
- สามารถควบคุมเชื่อมต่อการทำงานผ่านแอปของ dyson
Dyson Lightcycle มี 2 รุ่น โดย รุ่นตั้งโต๊ะราคา 19,900 บาท และ รุ่นตั้งพื้น 28,900 บาท
แต่ต้องอดใจรออีกนิด เพราะยังไม่กำหนดวันวางจำหน่าย
ภายในงานไดสันได้จำลองบ้านหลังหนึ่ง ให้พวกเราสื่อมวลชนได้ลองใช้ชีวิตกับเหล่าเทคโนโลยีล้ำๆของไดสัน