บัตรเติมเงิน ขสมก. หลายท่านก็เริ่มมีให้ใช้กันแล้ว บางท่านก็เลือกใช้บัตร Contactless จากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ในการแตะ สแกน จ่าย กับพนักงานเก็บเงินบนรถเมล์ ขสมก. ซึ่งใช้ได้ทั้ง รถเมล์สาย A ที่มีเส้นทางไปท่าอากาศยานดอนเมือง รถเมล์ปรับอากาศที่มีเส้นทางไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และรถเมล์อื่นๆทั้งรถปรับอากาศและรถร้อน กว่า 3,000 คัน ในช่วงแรกอาจจะมีอุปสรรคในการใช้งานบางประการ เราผู้ใช้ต้องเตรียมตัวสังเกตอะไรบ้างมาดูกันเลย
ทีมงานได้คุยกับพนักงานเก็บเงิน ขสมก. สาย 45 และรวบรวมปัญหาสังคมไร้เงินสดบนรถเมล์ ที่เจอทั้งของผู้โดยสาร และพนักงานเก็บเงิน ดังนี้
- บัตรเติมเงิน ขสมก. ผู้โดยสารยังไม่สามารถเช็กยอดเงินคงเหลือได้ด้วยตัวเอง ผู้โดยสารต้องคอยถามพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก.
- ปัญหาการตัดเงิน ด้วยบัตร Contactless ที่แตะปุ๊บ จ่ายค่าโดยสารปั๊บ บางครั้งอาจจะตัดเงินไม่ติด หรือบางครั้งติดแต่กลับตัดเงินเกิน กลายเป็นเราจ่ายค่าโดยสารถึง 2 ครั้ง
- อยู่ในช่วงอับสัญญาณ นำบัตรมาแตะแล้ว จ่ายไม่ได้
- ปัญหาเครื่องอ่านบัตรแบตหมด
วิธีแก้ไขเบื้องต้นสำหรับผู้โดยสาร ที่ใช้บัตรเติมเงิน ขสมก. และ บัตรเครดิต กับบัตรเดบิตแบบ Contactless
- ผู้โดยสารจะต้องเช็กยอดเงินคงเหลือในบัตรเติมเงิน ขสมก. กับพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก. ทุกครั้งหลังจากชำระค่าโดยสารเสร็จ ว่าตอนนี้ในบัตรของเราเหลือเงินล่าสุดเท่าไหร่
- บัตรโดยสารเป็นของเรา ดังนั้นดูบัตรตอนบัตรแตะกับเครื่องอ่านบัตรด้วย เพื่อป้องกันการตัดเงินซ้ำ
- สำหรับบัตรเติมเงิน ขสมก. การวางแผนในการเติมเงิน โดยเติมเงินในบัตรให้พอดีกับการใช้งานของเรา
- วิธีชำระเงินแบบไร้เงินสดที่ค่อนข้างแม่นยำสุด คือ ชำระผ่านทาง QR CODE ผ่านแอปธนาคารทุกธนาคาร
- กรณีใช้บัตร Contactless ของธนาคาร ให้ตรวจสอบยอดเงินการใช้จ่าย และเช็กยอดเงินคงเหลือในบัญชีผ่านแอปธนาคารว่าตัดเงินถูกต้องหรือไม่
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ดูแลระบบการชำระเงินผ่านเครื่อง EDC
- ปรับปรุงระบบการตัดเงินผ่าน Contactless และบัตรเติมเงิน ขสมก. ให้มีความแม่นยำและถูกต้องยิ่งขึ้น
- มีระบบสำหรับสแกนบัตรเติมเงิน ขสมก. เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรเติมเงินได้
- มีแบตเตอรี่สำรองสำหรับเครื่องอ่านบัตร EDC
- ปัญหาอับสัญญาณ ทำให้ไม่สามารถตัดเงินในบัตรได้ อาจแก้ไขที่ระบบของเครื่อง EDC