นับจากนี้ไปเทคโนโลยีทางด้านดิจิทัล และเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคม จะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคม 5G ที่กำลังแพร่หลายในหลายๆประเทศทั่วโลก ซึ่งในวันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเทคโนโลยี 5G นั้น ได้เกิดขึ้นและถูกนำไปใช้งานเร็วกว่าที่ได้คาดการณ์เอาไว้ถึง 2 ปี โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะนำมาซึ่งการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผู้คน ยานยนต์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ อุปกรณ์ของใช้ทั่วไปที่เราใช้งานอยู่ทุกวันนี้ ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน และทำการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมากมาย
อย่างเช่น ในวันนี้เรามี Facebook ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดีย ที่คนกว่า 2,000 ล้านคนในโลกใช้งาน Facebook ผู้คนประมาณ 50 ล้านคนในประเทศไทยจากประชากรประมาณ 70 ล้านคน อยู่บน Facebook มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร มีการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร มีการส่งวิดีโอและรูปภาพต่างๆ จนทำให้ Facebook มีความชาญฉลาด จนในที่สุดสามารถระบุพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ สามารถรู้จักผู้บริโภคมากกว่าที่รัฐบาลรู้จักด้วยซ้ำไป
ความเรียลไทม์ของข้อมูลที่วิ่งอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ ตำแหน่งของโทรศัพท์มือถือที่เคลื่อนที่ไปมา ทำให้ Google สามารถรู้ได้ว่าสภาพการจราจรของกรุงเทพมหานครเป็นอย่างไร จะเห็นได้ว่าความชาญฉลาด ความเรียลไทม์ และความแม่นยำมากขึ้นในการบอกตำแหน่ง กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจมากมายให้เห็นแล้วในวันนี้ และวันต่อๆ ไป การจ้างงานรูปแบบใหม่ๆ กำลังจะเกิดขึ้น เนื่องจากคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่ใน Gen Alpha, Gen Y หรือ Gen Z ก็กำลังจะทำให้ปรากฏการณ์ในการจ้างงานเปลี่ยนแปลงไป เพราะคนรุ่นใหม่เหล่านั้นจะสามารถทำงานที่ใดก็ได้ เวลาใดก็ได้ ไม่ยึดติดกับสถานที่อีกต่อไป
ดังนั้น องค์กรใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรที่มีรูปแบบทั้งแบบสตาร์ทอัพ หรือเป็นองค์กรที่ชาญฉลาดในการใช้ข้อมูลข่าวสาร และการใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสาร เกิดการทำงานอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีการเชื่อมโยงกันโดยไม่ขึ้นกับสถานที่และเวลา ซึ่งจะทำให้รูปแบบและวิธีการจ้างงานขององค์กรเปลี่ยนไป เพราะเนื่องจากหากองค์กรยังมีรูปแบบการจ้างคนแบบเดิมๆ นั่งอยู่ที่ทำงานโดยยึดติดกับสถานที่และเวลาในการทำงาน ก็จะทำให้องค์กรนั้นอาจจะเสื่อมถอยลง ไม่สามารถสู้กับองค์กรอื่นได้
ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนแล้วว่ารูปแบบของงานในอนาคต หรือ Workforce ทักษะของคนรุ่นใหม่ กำลังจะมีความสำคัญในการบริหารประเทศในอนาคต เพราะหากประเทศไม่สามารถที่จะผลิตนักศึกษา หรือผลิตคนทำงาน ให้มาตอบโจทย์โลกในอนาคตในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้าได้ ก็จะทำให้ประเทศไม่มีขีดความสามารถทางการแข่งขันในเศรษฐกิจระดับโลกอีกต่อไป
เทคโนโลยีที่กำลังก้าวหน้าจาก 4G เป็น 5G นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในปัจจุบันนี้ หลายๆประเทศทั่วโลก ต่างก็ได้มีการพูดถึงการขยายโครงข่าย และการปรับปรุงโครงข่ายไปสู่ระบบ 5G เพราะเทคโนโลยี 5G จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อของหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสากรรม เชื่อมต่ออุปกรณ์และเซ็นเซอร์ต่างๆ ทำให้การผลิตสินค้าเป็นรูปแบบอัตโนมัติมากขึ้น ดังนั้นเองจะทำให้การผลิตสินค้ามีประสิทธิภาพสูงมาก
อย่างไรก็ตาม ทักษะแบบดั้งเดิมของมนุษย์ ที่ทำการผลิตสินค้าอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยการใช้แรงงานมนุษย์ จะเริ่มลดน้อยลง แรงงานแบบดั้งเดิมก็จะไม่สามารถตอบโจทย์ของการทำงานในอนาคตได้ เพราะเนื่องจากว่าในอนาคตผู้ที่ทำงานในโรงงาน จะเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการทำงานควบคุมหุ่นยนต์ หรือบำรุงรักษาหุ่นยนต์ เชื่อมต่อหุ่นยนต์สู่ระบบคลาวด์ ทำให้หุ่นยนต์ทำงานให้มนุษย์ได้ ผลิตสินค้าให้เรา อย่างมีประสิทธิภาพและเรียลไทม์
ดังนั้นเองเป็นประเด็นที่สำคัญที่ ทั้งผู้นำและผู้บริหาร ควรจะต้องมีความเข้าใจในการบริหารและจัดการในโลกของทศวรรษต่อจากนี้ หรือที่เราเรียกว่า “ไทยแลนด์ 4.0” ซึ่งมาจากคำว่า Industry 4.0 หรืออุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเป็นนิยามศัพท์ของประเทศเยอรมันนี ในปี 2011 ซึ่งถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นมาแล้ว 7 ปี แต่ก็ส่งผลให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้จึงทำให้หลายประเทศทั่วโลกมีการกำหนดนโยบายทางดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนประเทศ อย่างเช่น ประเทศไทย ที่มีการวางนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก สอดคล้องกับ การแข่งขันระหว่างประเทศ การแข่งขันระดับโลก ทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่ขีดความสามารถทางการแข่งขันใหม่ ซึ่งเราไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
5G กับชีวิตที่เปลี่ยนไป
————————-
บทความโดย
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
ประวัติ https://youtube.com/watch?v=sKjPhpWMExk
29 ธ.ค. 61