น้ำประปาใช้หุงข้าวได้ ปลอดภัย การประปานครหลวง (กปน.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สถาบันอาหาร โชว์พิสูจน์ได้ด้วยผลทางวิทยาศาสตร์ หุงข้าวได้ไม่เป็นมะเร็งจากสารไตรฮาโลมีเทน ผู้บริโภคสบายใจได้ ด้านนายแพทย์บุญชัย แจงถูกแอบอ้างนำภาพไปใช้ในโลกโซเชียลจนเกิดความเสียหาย ย้ำน้ำประปาสะอาดและปลอดภัย วอนประชาชนชัวร์ก่อนแชร์
นายปริญญา ยมะสมิต ผู้ว่าการ กปน. และนายกสมาคมการประปาแห่งประเทศไทย (สปปท.) เปิดเผยว่า จากการที่มีการแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียเรื่องการนำน้ำประปามาหุงข้าวจะทำให้เกิดสารไตรฮาโลมีเทนหรือสารก่อมะเร็งนั้น กปน. ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจาก กปน. ได้นำการบริหารจัดการน้ำประปาปลอดภัย (Water Safety Plan) ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) มาใช้กับการผลิตน้ำประปาทุกขั้นตอน ตั้งแต่แหล่งนํ้าดิบ กระบวนการผลิต จนถึงบ้านผู้ใช้นํ้าในพื้นที่ให้บริการของ กปน. ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ และมีการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำทางด้านกายภาพ เคมี จุลชีวะ รวมทั้งการเฝ้าระวังสารไตรฮาโลมีเทน ผลการตรวจวิเคราะห์พบว่า มีค่าไตรฮาโลมีเทนรวมอยู่ในเกณฑ์น้ำดื่มของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น สำหรับปริมาณคลอรีน ซึ่งเป็นสารที่ทั่วโลกนิยมใช้เพื่อป้องกันเชื้อโรคและรักษาคุณภาพน้ำ กปน. ได้ควบคุมปริมาณคลอรีนอิสระในทุกขั้นตอนการผลิตน้ำ ซึ่งค่าคลอรีนอิสระปลายทางที่บ้านพักอาศัยของประชาชนจะมีค่าไม่น้อยกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร เพื่อประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรค โดยไม่มีผลต่อสุขภาพ ซึ่ง WHO กำหนดปริมาณสารคลอรีนในน้ำที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย คือ ไม่เกิน 5 มิลลิกรัมต่อลิตร
นอกจากนี้ กปน. ได้นำทีม “ปฏิบัติการนักวิทย์ชุดขาว” ลงพื้นที่ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำภายในสถาบันอาหารด้วย โดยผลการตรวจวิเคราะห์พบว่า น้ำประปามีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย มีค่าสารไตรฮาโลมีเทนมีค่า Sum of ratio (THMs 4 ชนิดหลักในน้ำประปา) เฉลี่ย 0.29 อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน WHO (ไม่เกิน 1) และปริมาณ THMs รวม มีค่าเฉลี่ย 56.11 ไมโครกรัมต่อลิตร อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำดื่มของประเทศสหรัฐอเมริกา (ไม่เกิน 80 ไมโครกรัมต่อลิตร) ซึ่งเป็นการตรวจสอบที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ประชาชนสามารถวางใจในคุณภาพน้ำประปาว่ามีความสะอาดปลอดภัยแน่นอน
นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ กปภ. รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า กปภ. มีภารกิจในการให้บริการน้ำสะอาดที่ได้มาตรฐานแก่ประชาชนใน 74 จังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ) ผ่าน กปภ. สาขา 234 สาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ กปภ.ยืนยันว่า น้ำประปาปลอดภัยใช้หุงข้าวได้ แม้ว่าการเกิดสารไตรฮาโลมีเทนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งจะเกิดได้จากการทำปฏิกิริยาของคลอรีนกับสารอินทรีย์ในน้ำก็ตาม แต่สารอินทรีย์ที่ทำปฏิกิริยาได้ดี คือ กลุ่มที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เช่น กรดฮิวมิกและกรดฟุลวิก ในขณะที่ข้าวสารหรือแป้งต่าง ๆ เป็นกลุ่มที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงทำปฏิกิริยาได้ช้ามาก อีกทั้งคลอรีนต้องอยู่ในรูปของคลอรีนอิสระ ซึ่งในระบบประปามีการควบคุมการจ่ายคลอรีนให้เหมาะสมและเพียงพอต่อการปรับปรุงคุณภาพน้ำและการฆ่าเชื้อโรค โดยจะมีปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือถึงบ้านผู้ใช้น้ำประมาณ 0.2 – 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร นอกจากนี้ การนำน้ำประปาไปใช้เพื่อการหุงต้มจะยิ่งทำให้คลอรีนอิสระดังกล่าวระเหยไปได้เร็วขึ้น ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดสารไตรฮาโลมีเทนจากการนำน้ำประปาไปประกอบอาหารจึงน้อยมาก อย่างไรก็ตาม กปภ.ตระหนักถึงคุณภาพน้ำประปาที่ให้บริการแก่ประชาชนเป็นสำคัญ จึงได้มีการทดสอบหาปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนในน้ำประปาเป็นประจำ ตามข้อมูลคุณภาพน้ำของ ปี 2555 ถึง 2561 มีค่าผลรวมอัตราส่วนไตรฮาโลมีเทนอยู่ในเกณฑ์ตามข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ดังนั้น ผู้ใช้น้ำจึงวางใจได้ว่าสามารถใช้น้ำประปาหุงข้าวได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า สถาบันอาหารมีภารกิจในการส่งเสริมด้านความปลอดภัยของของอาหาร โดยการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์หรือข้อเท็จจริงจากกระบวนการวิทยาศาสตร์ต่อผู้บริโภคมาตลอด ซึ่งในปี 2559 สถาบันอาหารได้ทำการทดลอง “การทดสอบความปลอดภัยจากการใช้น้ำประปาหุงข้าว” โดยวัดปริมาณสารไตรฮาโลมีเทนในน้ำประปา น้ำซาวข้าว น้ำหุงข้าว และข้าวหุงสุก และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการใช้น้ำประปาหุงข้าวไม่ทำให้ปริมาณของสารไตรฮาโลมีเทนเพิ่มขึ้น และไม่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่า การนำน้ำประปามาหุงข้าวไม่มีอันตรายแน่นอน
นายแพทย์บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ ผู้อำนวยการศูนย์ธรรมชาติบำบัดเวลเนสแคร์ กล่าวว่า ตนเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จากการถูกนำภาพไปแอบอ้างประกอบข้อความที่เป็นเท็จ จนอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าเป็นผู้กล่าวว่าน้ำประปาหุงข้าวเป็นอันตราย ซึ่งขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ที่สำคัญไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเสียหายจากการรับข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จเช่นกัน ซึ่งก่อให้เกิดความหวาดกลัวในการอุปโภคบริโภคน้ำประปา และต้องเสียเงินเพิ่มขึ้น เพื่อซื้ออุปกรณ์กรองน้ำหรือน้ำดื่มมาดื่ม ทั้ง ๆ ที่น้ำประปามีความสะอาดและปลอดภัยอยู่แล้ว จึงขอย้ำเรื่อง “ชัวร์ก่อนแชร์” กับประชาชนทุกคน หากแชร์หรือนำเข้าข้อมูลที่เป็นเท็จ จะถือเป็นการทำผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านรับข้อมูลข่าวสาร เพราะการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ถือเป็นการทำผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2561 ด้วย
ข้อมูลจาก การประปานครหลวง