ทราบไหมว่า พฤติกรรม ช้อปออนไลน์ ของคุณนั้นเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของคุณมากกว่าที่คิด โดยบทความ “How we look in a hyper-mirror” จาก www.sorted.org.nz ได้ให้ข้อสังเกตที่น่าสนใจว่าการใช้งานในโลกออนไลน์เป็นกระจกสะท้อนที่บ่งบอกบุคลิก พฤติกรรม ความสนใจ แม้กระทั่งความรู้สึกในขณะต่างๆโดยที่ผู้ใช้เองอาจไม่รู้ตัว ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้ามหาศาลนี้เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าและบริการ
ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณ search หาสินค้าประเภทหนึ่ง โฆษณาของร้านค้าที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันก็จะปรากฎให้เห็นโดยอัตโนมัติ ในหน้า Facebook หรือ Banner โฆษณาบนเว็บไซต์ บนแอป คราวนี้จากเดิมที่ผู้ชมเว็บไซต์จากที่คลิกเข้าไปดูเพลิน ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ แต่เมื่อเห็นรูปสินค้าสวย ๆ อยู่ตรงหน้าก็เริ่มเกิดความอยากได้ ทีนี้ล่ะ ถ้าอดใจไม่ไหว ก็เลือกคลิกซื้อไปเลย ตัดบัตรเพลินจนลืมคิดถึงความจำเป็น
ไม่ได้หมายความว่าการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ในทางกลับกันนี่เป็นช่องทางให้เรา
ในฐานะลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้น แต่ประเด็นสำคัญคือ ต้องแน่ใจว่าซื้อแล้วจะไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนในอนาคตภายหลัง
สิ่งที่ต้องทำขณะซื้อของออนไลน์คือ การควบคุมการใช้จ่าย เช่น เขียนเป้าหมายไว้เลยว่าต้องการสินค้าชนิดไหน มีกำลังซื้อเท่าไหร่ เดือนนึงต้องใช้เงินไม่เกินเท่าไหร่ และมีสติก่อนคลิกซื้อ ไม่ใช่ซื้อทุกอย่างที่คุณเจอ ควรเทียบราคาสินค้าจากหลายๆร้าน และไม่ลืมคำนวนค่าจัดส่งด้วย และมีสติเมื่อเห็นโปรโมชันที่มักชวนเราให้ซื้อให้ถึงยอดเพื่อให้ได้ส่วนลด เพราะแม้ว่าจะได้ของราคาถูก หากซื้อมาแล้วแต่กลับไม่ได้ใช้ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำเงินหล่นหาย
ดังนั้นซื้อของออนไลน์ ต้องมีสติ อย่าจ่ายเพลินเพราะของถูก และซื้อเท่าที่จำเป็นต้องใช้ อย่าปล่อยให้ใครมาชี้นำ เพราะที่เป็นผู้คุมเกมการใช้จ่ายเงินของคุณเอง
ข้อมูลจาก Smart Investment หนังสือพิมพ์ BLT ฉบับวันที่ 7 ต.ค. 60 และ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย