โรคออฟฟิศซินโดรม เป็นเรื่องใกล้ตัวมากสำหรับคนทำงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำงานเป็นประจำและเป็นเวลานาน ใช้สายตาแบบไม่ลุกไปไหน ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ทราบข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า คนไทย มีโอกาสเป็นโรคนี้เพิ่มสูงขึ้น จึงชวนคนทำงานมาปรับตามหลัก 3 ป. กัน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา กลุ่มวัยทำงานพบป่วยโรคออฟฟิศซินโดรมจำนวนมาก โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งโต๊ะเป็นเวลานาน
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในปี 2556-2560 พบว่าประเทศไทยมีผู้ใช้คอมพิวเตอร์ประมาณ 30.8 ล้านคน เป็นกลุ่มวัยทำงาน (อายุ 15 ขึ้นไป) ที่ใช้คอมพิวเตอร์ จำนวนถึง 28.1 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 91.3 ซึ่งปัญหาสุขภาพอันเนื่องจากการทำงานในออฟฟิศมีแนวโน้มสูงขึ้น การนั่งดูจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ อาจส่งผลให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรมของคนทำงาน ได้แก่ ท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม เช่น การจัดพื้นที่ทำงานเกินระยะเอื้อมของมือ หรือการทำงานโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือทำงานท่าเดิมเป็นเวลานาน เป็นต้น ดังนั้น การปรับสมดุลของคนทำงานออฟฟิศจึงมีความจำเป็นอย่างมาก เพื่อลดอาการปวดเมื่อยและลดโรคออฟฟิศซินโดรม
วิธีการป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรม ขอให้ยึดหลัก “3 ป.” คือ
1.ปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
2.เปลี่ยนพฤติกรรมและท่าทางการทำงาน
3. ออกกำลังกายเป็นประจำ
โดย การปรับสภาพแวดล้อม คือ
- ปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา
- วางคีย์บอร์ดให้อยู่ในระดับข้อศอกทำมุม 90 องศา
- นั่งหลังตรงให้หลังชิดกับพนักพิง
- วางเท้าลงบนพื้นให้ขาทำมุม 90 องศา
- วางข้อมือให้ตรง ไม่บิดหรืองอข้อมือ
- ทั้งนี้การปรับท่าทางขณะพัก ขอให้ยึดหลัก “10-20-60” คือ ทุก 10 นาทีให้พักสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไปเดินเล่นและเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 20 นาที เมื่อครบชั่วโมง (60 นาที) ให้ยืดเหยียดกล้ามเนื้อมือและแขน โดยการบริหารต้นคอ สะบัก ไหล่ แขนมือ เอวหลัง และขา
หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาเกี่ยวกับ โรคออฟฟิศซินโดรม สามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ข้อมูลจาก: สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม/ สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
โทรศัพท์ 02-590-3857