ใครที่ทำงานอาชีพหมอและพยาบาล คงงงไปตามๆกัน เมื่อเพจ หมออนามัยขี้ mouth แชร์ภาพคำสั่งของนพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ สธ. 0201.04/ว 3784 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา เรื่อง มาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ โดยเนื้อหาของหนังสือระบุว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แสดงเจตจำนงสุจริตในการบริหารราชการและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวในตำแหน่งหน้าที่อันมิควรได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นแบบอย่างที่ดี ยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อความเชื่อมั่น ศรัทธาแก่ประชาชน ….
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จึงกำหนดมาตรการป้องกันกรณีการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ เพื่อเป็นกลไกในการป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกำหนดการใช้ทรัพย์สินของทางราชการ ดังนี้
1. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำวัสดุ อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานต่างๆ ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว ข้อ
2. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวมาชาร์จไฟในสถานที่ราชการ
3. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ของทางราชการ ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว ข้อ 4. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐให้พนักงานขับรถยนต์ของหน่วยงาน ไปกระทำภารกิจส่วนตัว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องในหน้าที่หรือภารกิจของทางราชการ
5. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ส่วนตัวและครอบครัวมาจอดค้างคืนในสถานที่ราชการ
6. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ส่วนตัวมาล้างในสถานที่ราชการ
โดยมีคำสั่งที่น่าสนใจและกระทบต่อหมอและพยาบาลอย่างมากคือ ข้อที่ 2 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐนำโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่วนตัวมาชาร์จไฟในสถานที่ราชการ ซึ่งกระทบต่อคุณหมอและพยาบาลไม่น้อย เพราะสมาร์ทโฟนส่วนตัวมักจะมีข้อมูลสำคัญทางการแพทย์และการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงรอรับคำสั่งจากทาง LINE โดยมีผู้โพสต์ทาง Social Network ในลักษณะว่า หากแบตหมดขึ้นมาและไม่สามารถชาร์จได้ จะทำอย่างไร? อาจรับงานไม่ได้เพราะแบตหมด
ภาพจากเพจ หมออนามัยขี้mouth