ลอยกระทง วันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆรวมถึงตามบ้านที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำ ก็อาจมีจัดกิจกรรมงานลอยกระทง มีทั้งจุดพลุดอกไม้ไฟ และปล่อยโคมลอยด้วย ซึ่งเป็นอันตรายต่อการบินทางอากาศ ทั้งนักบินและผู้โดยสารบนเครื่องบิน รวมถึงอาจเป็นอันตรายต่อบ้านพักอาศัยอื่นๆ ที่อาจถูกไฟจากโคมลอยแล้วไฟไหม้ได้ ล่าสุดหลายหน่วยงานออกประกาศเตือนประชาชนระมัดระวังจากการปล่อยโคมลอย
เริ่มจากท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวังการปล่อยโคมลอยและลูกโป่ง การจุดพลุและดอกไม้ไฟ การฉายลำแสงขึ้นบนท้องฟ้า และวัตถุที่เป็นอันตรายต่อการบินในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สามารถปล่อยได้ตามประเพณียี่เป็ง (ลอยกระทง) ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 22 และ 23 พฤศจิกายน 2561 โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข คือ ให้ปล่อยโคมลอยโคมไฟ ระหว่างเวลา 19.00 – 01.00 น. และ ท่าอากาศยานเชียงรายขอความร่วมมือในการปล่อยโคมลอยโคมไฟ ระหว่างเวลา 21.00 – 01.00 น. ส่วนโคมควันสามารถปล่อยได้ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ระหว่างเวลา 10.00 – 12.00 น.
สำหรับ ท่าอากาศยานภูเก็ตได้มีการประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานหรือชุมชนรอบที่จะทำการปล่อยวัตถุต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อการบิน จะต้องจัดทำเอกสารขออนุญาตจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจังหวัดภูเก็ตจะดำเนินการแจ้งมายัง ท่าอากาศยาน.เพื่อให้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (Notice to Airmen: NOTAM) และแจ้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ต่อไป ทั้งนี้ ทอท.ยังได้ให้ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง มีการประชาสัมพันธ์ถึงอันตรายของโคมลอยต่อการบิน พร้อมทั้งแจกแผ่นพับรณรงค์การปล่อยโคมลอยโคมไฟโคมควันให้กับหน่วยงานและชุมชนรอบท่าอากาศยานอีกด้วย
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นเทศกาลยี่เป็งมีสายการบินแจ้งยกเลิกเที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน ณ ทชม. ทชร.และ ทหญ.จำนวนรวม 158 เที่ยวบิน ได้แก่ ที่ ทชม.มีการยกเลิกเที่ยวบินและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน จำนวน 148 เที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินที่ยกเลิก 60 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลา 88 เที่ยวบิน ด้าน ทชร.มีการยกเลิกเที่ยวบิน จำนวน 4 เที่ยวบิน และเปลี่ยนแปลงเวลา 4 เที่ยวบิน และที่ ทหญ.มีการยกเลิกเที่ยวบิน 2 เที่ยวบิน
และช่วงเทศกาลลอยกระทงจะมีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยานเป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือผู้โดยสารให้เดินทางถึงท่าอากาศยานเร็วกว่าปกติ โดยเผื่อเวลา 3 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องออกสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ และเผื่อเวลา 2 ชั่วโมงก่อนเวลาเครื่องออกสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ สอบถามเพิ่มเติมที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722
ทางด้าน วิทยุการบินฯ เตรียมพร้อมบริหารจราจรทางอากาศ เพื่อความปลอดภัยทางการบิน ในช่วงเทศกาลลอยกระทง โดยนายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า “ช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 2561 หลายจังหวัดได้เตรียมการจัดกิจกรรมเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม รวมถึงมีการปล่อยโคมลอย โคมควันในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งสถิติการปล่อยโคมลอย โคมควัน ในปี 2560 เฉพาะที่ออกประกาศนักบิน (Notice To Airmen : NOTAM) 16 ครั้ง จำนวน 1,454 โคม ลดลงจากปี 2559 ที่ออกประกาศนักบิน 53 ครั้ง จำนวน 7,265 โคม ลดลงเป็นจำนวน 5,811 โคม แม้ว่าจะมีการประกาศนักบินว่าจะมีการปล่อยโคมลอย แต่ยังพบว่ามีการปล่อยโคมลอยที่ไม่แจ้งประกาศนักบิน จำนวนกว่า 80 โคม และในปี 2561 มีสถิติการปล่อยโคมลอย โคมควัน ช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค. 61 จำนวน 540 โคม และมีการรายงานการพบเห็นโคมลอยและโคมควันจากนักบินจำนวน 7 โคม”
*** สำหรับคาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในเดือนเทศกาลลอยกระทงช่วง 15 วัน ระหว่างวันที่ 15 – 29 พฤศจิกายน 2561 จะมีปริมาณเที่ยวบินจำนวน 42,966 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,864 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีจำนวน 41,118 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 2,741 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.5 ทั้งนี้ สนามบินที่มีปริมาณเที่ยวบินมากที่สุด 5 อันดับ คือ สนามบินสุวรรณภูมิ มีปริมาณเที่ยวบิน 15,154 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 1,010 เที่ยวบิน สนามบินดอนเมือง มีปริมาณเที่ยวบิน 11,938 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 795 เที่ยวบิน สนามบินเชียงใหม่ มีปริมาณเที่ยวบิน 3,558 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 237 เที่ยวบิน สนามบินอุดรธานี มีปริมาณเที่ยวบิน 1,161 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 77 เที่ยวบิน และสนามบินแม่ฟ้าหลวง มีปริมาณเที่ยวบิน 954 เที่ยวบิน เฉลี่ยวันละ 63 เที่ยวบิน
ทั้งนี้ บวท. ได้เตรียมบริหารจัดการการเดินอากาศในช่วงเทศกาลลอยกระทงโดยวางแผนบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ประกอบด้วย การกำหนดพื้นที่ที่ต้องระวังเป็นพิเศษการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย คือบริเวณแนวขึ้น – ลงของเครื่องบิน และบริเวณโดยรอบสนามบิน และการกำหนดช่วงเวลาให้เครื่องบินหลีกเลี่ยงทำการบินในช่วงเวลาที่มีกิจกรรม อีกทั้งจัดเตรียมอัตรากำลังเพิ่มเติม และเสริมบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการควบคุมจราจรทางอากาศมากำกับดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วงเทศกาลดังกล่าว ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการจัดกิจกรรมขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนโดยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในท้องถิ่นตามประกาศจังหวัด รวมถึงแจ้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เมื่อ กพท. ได้ตรวจสอบและอนุญาตแล้ว จะประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องและออกประกาศนักบิน ร่วมถึงประสานผู้จัดกิจกรรมอย่างใกล้ชิดเพื่อให้จัดกิจกรรมอย่างระมัดระวัง
นอกจากนี้ นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เตือนประชาชนที่มีความประสงค์จะปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ขอให้เลือกซื้อโคมลอยที่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เลขที่ 808/2552 เพื่อลดความเสี่ยงจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น กรณีโคมลอยตกลงมาแล้วติดค้างสายไฟฟ้าแรงสูงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟฟ้าดับได้ หรือการใช้เชื้อเพลิงในปริมาณมากเกินไป หากไฟลุกไหม้ที่ตัวโคมแล้วตกลงสู่หลังคาบ้าน พื้นที่ป่าไม้ เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้อาคารบ้านเรือน ไฟป่า ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โคมลอยที่ได้มาตรฐาน มผช. 808/2552 มีด้วยกัน 3 ขนาด คือ โคมลอยขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ลักษณะโดยทั่วไป คือ ตัวโคมต้องใช้วัสดุและเชื้อเพลิงจากธรรมชาติ มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 90 เซนติเมตร ความสูงไม่เกิน 140 เซนติเมตร ใช้กระดาษว่าวชนิดบาง หากต้องใช้ลวดโลหะสำหรับผูกติดเชื้อเพลิงให้ใช้ลวดอ่อนที่มีความยาวไม่เกิน 30 เซนติเมตรต่อเส้น และต้องพิมพ์คำเตือนในฉลากด้วยข้อความว่า “ห้ามพ่วงหรือผูกติดพลุ ดอกไม้ไฟ หรือสิ่งอื่นใดไปกับโคมขณะปล่อย” “ห้ามใช้เชื้อเพลิงที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับตัวโคม เพราะอาจเกิดอันตรายได้” นอกจากนี้ ยังได้กำหนดปริมาณเชื้อเพลิงของโคมลอยไว้ไม่เกิน 55 กรัม ใช้เวลาการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที ซึ่งเหมาะสมกับระยะเวลาที่โคมลอยอยู่ในอากาศ
สมอ. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบผู้ผลิตโคมลอยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คำแนะนำในการผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด เมื่อประชาชนนำโคมลอยที่ได้มาตรฐานไปใช้ก็จะเกิดความปลอดภัย ทั้งนี้การปล่อยโคมลอย ควรยึดถือปฏิบัติตามประกาศมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัย ของส่วนราชการในพื้นที่โดยเคร่งครัด เพื่อให้การปล่อยโคมลอยเป็นการสืบสานวัฒนธรรมที่สวยงาม และคงอยู่คู่กับเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยตลอดไป
ข้อมูลจาก รัฐบาลไทย , fb ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย AOT OFFICIAL , fb บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด