ทีมงานไอที24ชั่วโมง ได้รับเชิญจากทาง HITACHI ร่วมงาน HITACHI Social Innovation Forum 2018 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2019 ซึ่งเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ และโชว์นวัตกรรมเทคโนโลยีสุดล้ำที่น่าสนใจจากฮิตาชิ โดยครั้งนี้ HITACHI ได้ประกาศลงทุนในไทย เปิดศูนย์ Lumada ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประวัติของบริษัท HITACHI สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในแขวงชิโยะดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทฮิตาชิ ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1910 โดยวิศวกรไฟฟ้าชื่อว่า นะมิเฮ โอะไดระ ในจังหวัดอิบาระกิ สินค้าชิ้นแรกของบริษัทฮิตาชิ คือ มอเตอร์เหนี่ยวนำไฟฟ้า กำลัง 5 แรงม้า ซึ่งถือเป็นมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่นแรกของญี่ปุ่น ทำให้ในเวลาต่อมา บริษัทของโอะไดระ ก็กลายเป็นบริษัทผู้นำในตลาดมอเตอร์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าของญี่ปุ่น
ซึ่ง HITACHI ได้พาสื่อมวลชนไทยไปทานข้าวที่ศูนย์อาหารของ HITACHI ซึ่งเป็นศูนย์ที่ร่มรื่น มีสนามกอล์ฟ ใช้เป็นสถานที่ต้อนรับแขกสำคัญชาวต่างชาติเยือนฮิตาชิ
และที่สำคัญเมนูอาหารนี้เป็น List แบบเดียวกับตอนสมัยที่ท่านจักรพรรดิมาเยือน HITACHI ที่ อิบาระกิด้วย
ปัจจุบันนี้ HITACHI ไม่ใช่แค่ผลิตผู้ใช้ไฟฟ้า แต่เป็นบริษัทรายใหญ่ ที่ทำหลายส่วนงานระดับใหญ่ดังนี้
- ระบบสารสนเทศและโทรคมนาคม
- ระบบพลังงาน
- ระบบโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและอุตสาหกรรม
- ระบบและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- เครื่องจักรสำหรับงานก่อสร้าง
- วัสดุและส่วนประกอบคุณภาพสูง
- ระบบยานยนต์
- Smart Life และระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- และอื่นๆ
นายโทชิอากิ ฮิกกาชิฮาระ ประธานบริหาร บริษัท ฮิตาชิ กรุ๊ป กล่าวว่า “ฮิตาชิ ยังมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการหาพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจ รวมถึงการนำเทคโนโลยี Internet of Things : IoT มาใช้งานและนำมาแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัล”
Social Innovation หรือนวัตกรรมเพื่อสังคม โดยสิ่งที่มุ่งหวังของ HITACHI มี 2 อย่างคือ 1.แก้ไขปัญหาของสังคม 2. พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
ซึ่งHitachi ต้องการจะใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยให้ดีขึ้น ท่ามกลางสังคมที่เปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วแต่ส่งผลกระทบต่อมนุษย์
HITACHI พัฒนา Lumada ชื่อนี้มาจาก illuminate + Data โดยแพลตฟอร์มนี้เป็นการรวมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการดำเนินงาน (Operational : OT) และเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) เข้ารวมกัน และใช้ AI เพื่อที่จะพัฒนามาเป็นดิจิทัลใหม่ล่าสุด นำนวัตกรรมใหม่จากดิจิทัลให้ลูกค้า
Lumada ช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้น แก้ปัญหาต่างๆได้เร็วไวขึ้น ด้วยการนำข้อมูล Big Data วิเคราะห์ เพื่อให้ได้นวัตกรรมดิจิทัลที่เร็วตอบโจทย์กับผู้ใช้งาน
Omika Works ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและออกแบบอุปกรณ์สำหรับนวัตกรรมเพื่อสังคม ได้นำเอา IoT อย่าง มาใช้จัดการงานในโรงงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานได้พัฒนาขึ้น โรงงานสามารถผลิตได้ไวมากขึ้นและมีคุณภาพ
นายทาดาชิ ฮิซานากะ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ HITACHI กล่าวว่า “HITACHI ยังคงให้ความสำคัญการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการผลิต ลิฟต์ และบันไดเลื่อน ในภูมิภาคเอเชียและอินเดีย ไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุน มีภูมิศาสตร์ที่ดี และโครงสร้างพื้นฐานก็แข็งแกร่ง ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลที่จะนำสู่ยุค Thailand 4.0 ซึ่งตรงกับ HITACHI ที่พยายามจะก้าวเข้าสู่สังคมยุค 5.0 ของญี่ปุ่น ดังนั้นการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะยุคนี้ที่มีการใช้เทคโนโลยี IoT จะทำให้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นด้วย
ซึ่ง HITACHI ได้เปิด ศูนย์ Lumada ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Hitachi Lumada Southeast Asia) ในประเทศไทย ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่าานมา เพื่อสนับสนุนและพัฒนา Lumada ในการให้บริการ IoT พัฒนาโรงงานอัจฉริยะให้กับผู้ประกอบการ ที่สนใจใช้ IoT เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ในตอนต่อไปจะไปดูในส่วนของเทคโนโลยีต่างๆของ HITACHI อย่างเจาะลึกกัน