ทุกวันนี้ เราจะได้ยินคำว่า smart home กันอยู่บ่อยๆนะคะ และก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกต่อไปแล้วหล่ะค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ เรามีเทคโนโลยีต่างๆที่รองรับและยังมี solution มากมาย ที่จะมาทำให้ที่อยู่อาศัยหรือสำนักงานของเรา มีอุปกรณ์ที่สามารถสื่อสารพูดคุยกันได้ ทำงานเชื่อมโยงกันได้เองอัตโนมัติ สั่งงานได้ผ่านแอปจากที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้
ส่วนตัวเอิ้นเองแล้วก็เป็นคนที่ชอบใช้ solution ที่เกี่ยวกับ smart home มาหลายปีแล้วหล่ะค่ะ แต่ไม่ใช่เพราะเป็นคนชอบเทคโนโลยีเท่านั้นนะคะ แต่เพราะเอิ้นเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ ทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายขึ้น ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยยิ่งขึ้นค่ะ โดยไม่จำเป็นต้องใช้คนมากมาย เพราะเราใช้เทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยนั่นเอง บทความนี้ เอิ้นขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Smart Home และฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ใช้สำหรับ Smart Home กันดีกว่าค่ะ
Smart Home คืออะไร
Smart Home หรือบ้านอัจฉริยะ คือ ที่ๆมีอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หลอดไฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ โทรทัศน์ ระบบเครื่องเสียง ที่จะสามารถจะสื่อสารกับอุปกรณ์อื่นๆได้ ทำงานเชื่อมโยงกันได้เองอัตโนมัติ หรือตั้งเวลาทำงานได้ และสามารถควบคุมจากระยะไกลได้ อาจจะควบคุมผ่านมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็ได้ค่ะ ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์กับเรามาก เพราะมันจะจัดการให้เราเองหมดเลยค่ะ ไม่ต้องไปคอยกดสั่ง มายุ่งมากวนเรา ทำให้เราสะดวกสบาย ประหยัดเวลา ประหยัดเงินในกระเป๋า และประหยัดพลังงานได้มากเลยล่ะค่ะ เช่นตั้งเวลาเปิด-ปิด เครื่องปรับอากาศเพื่อประหยัดไฟ และยังเพิ่มความปลอดภัยได้ผ่านระบบเตือนภัยต่างๆที่ทำงานคู่กับเซนเซอร์ต่างๆ ทำงานเชื่อมโยงสื่อสารกันเองได้ด้วย
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีผู้ที่ทำอุปกรณ์และโซลูชั่นสำหรับ Smart Home ออกมามากขึ้น ขอยกตัวอย่างระบบของ FIBARO Smart Home Automation นะคะ เรามาลองดูกันหน่อยค่ะ ว่าทำอะไรได้บ้าง 🙂
FIBARO Smart Home Automation
ลองนึกถึงระบบบ้าน คล้ายระบบร่างกายมนุษย์นะคะ ซึ่งระบบ FIBARO จะมี Fibaro home center ทำหน้าที่เสมือนสมองของมนุษย์ โดยจะรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 (Senses) ได้แก่ การรับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ซึ่งระบบบ้านอัจฉริยะจะรับรู้ได้ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Sensors ที่จะทำหน้าที่เสมือนประสาทสัมผัสของมนุษย์ค่ะ โดยจะถ่ายทอดสัญญาณไปยังสมอง หรือระบบศูนย์กลาง เพื่อสั่งการให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายตอบสนองการทำงาน เช่น แขน, ขา, การพูดคุย ซึ่ง แขน ขา ในระบบบ้านอัจฉริยะก็คืออุปกรณ์สั่งการต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ ปรับแสงสว่าง ควบคุมม่าน เปิด/ปิดแอร์ นั่นเองค่ะ
มาลองยกตัวอย่างการทำงานของระบบ Smart Home Automation เมื่อนำมาใช้ในสำนักงานกันหน่อยดีกว่าค่ะ
ลองนึกถึง Smart Office ที่ทุกอย่างทำได้เองอัตโนมัติเมื่อถึงเวลาที่ตั้งไว้ เช่น
- ทุกวันเวลา 6.00 น. – จะเปิดประตูคอยรอพนักงานได้เองอัตโนมัติ
- ทุกวันเวลา 7.30 น. – เปิดม่าน มีเซนเซอร์เช็คความเข้มแสงเพื่อปรับองศาของม่านให้ได้แสงแบบพอดีๆ เปิดแอร์ เปิดไฟ เปิดเครื่องทำน้ำร้อนไว้พร้อมชงกาแฟได้
- หากเราต้องการใช้ห้องประชุมก็สามารถควบคุมให้อุปกรณ์ต่างๆเปิดเซ็ตรอไว้ก่อนได้ก่อนที่เราจะไปถึง พอไปถึงปุ๊บ ทุกอย่างพร้อม
- ทุกวันเวลา 11.30 น. – หลังการประชุมระบบก็จะปิดไฟและอุปกรณ์ต่างๆได้เอง และหากประชุมเสร็จเร็วก็สามารถสั่งปิดไฟและอุปกรณ์ต่างๆได้ผ่านมือถือ
- ทุกวันเวลา 12.00 น. – เวลาพักเที่ยงของพนักงาน ตั้งเวลาไว้ให้แอร์และไฟดวงที่ไม่ได้ใช้ปิดเพื่อประหยัดพลังงาน
- ทุกวันเวลา 17.00 น. – เมื่อพนักงงานกลับบ้านระบบเตือนภัยและระบบกันขโมยเริ่มงานอัตโนมัติ ช่วยดูแลความปลอดภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ความสะดวกแบบนี้ก็ทำให้ออฟฟิศและพนักงานทุกคนพร้อมกับการเริ่มทำงานในทุกๆวัน สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยขึ้น เพราะมีตัวช่วยดีๆดูแลระบบในออฟฟิศค่ะ
FIBARO จะทำให้บ้านหรือสำนักงานของเราเป็น Smart Home Automation ได้อย่างไร?
อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้ทำงานอัตโนมัติ และควบคุมผ่านแอปได้ และมีเซนเซอร์รอบบ้านที่คอยตรวจจับรูปแบบต่างๆ เช่น การสัมผัส, การเคลื่อนไหว, เสียง, ควัน, ความชื้น, อุณหภูมิ ฯลฯ ซึ่งก็สามารถทำงานคู่กับอุปกรณ์ได้หลายแบบ แสดงผลผ่านหลอดไฟ, เครื่องปรับอากาศ, ผ้าม่าน, กล้องวงจรปิด, ประตูหน้าบ้าน, ระบบกันขโมย, สัญญาณเตือนภัยไฟไหม้, ประตูล็อคแบบดิจิตอล หรือแม้แต่ในอุปกรณ์ในสวนอย่างเครื่องรดน้ำต้นไม้ก็ยังสั่งได้ สามารถคุมได้ผ่านทางแอปบนมือถือ หรือแท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังช่วยแจ้งเตือนทุกความเคลื่อนไหวแบบทันที ทันทุกเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด
ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเริ่มทำระบบ ตั้งแต่บ้านเพิ่งเริ่มสร้าง ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินสาย อยากจะเพิ่มจุดควบคุมในอนาคตก็เพิ่มเติมได้ไม่จำกัด ใช้เวลาเพียง 1-2 วันในการติดตั้งระบบสำหรับบ้าน 1 หลัง จะกำหนดให้เป็นระบบกันขโมยก็ทำได้ เรียกได้ว่า เป็นทั้ง Smart home & security ก็ว่าได้ โดยระบบแบบนี้ ไม่ใช่จำกัดเฉพาะแค่บ้านเท่านั้นนะคะ แต่อาคาร ไม่ว่าจะเป็น สำนักงาน โรงแรม โรงพยาบาล การเกษตร ฯลฯ ก็สามารถนำระบบไปประยุกต์ใช้ ช่วยให้ชีวิตง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นพร้อมความปลอดภัยและประหยัดไฟได้มากขึ้นด้วยค่ะ
การเชื่อมต่อสัญญาณของระบบบ้านอัจฉริยะ จะใช้ FIBARO home center เชื่อมต่อกับเราเตอร์เพื่อแปลงสัญญาณ ไปแสดงผลยังอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน , แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ผ่านอินเทอร์เน็ต ให้เราสามารถสั่งงานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ทั้งในบ้าน และจากที่ไหนก็ได้บนโลกค่ะ ซึ่งการเชื่อมต่อของ FIBARO เป็นระบบไร้สาย ใช้ Z-Wave ที่จะช่วยเพิ่มระยะสัญญาณ เพิ่มความเสถียร และใช้พลังงานต่ำ ง่ายต่อการติดตั้ง และสามารถเพิ่มเติมอุปกรณ์ภายหลังได้สะดวก
เพื่อนๆเคยสังเกตไหมคะ เวลาเราจะนำอุปกรณ์อัจฉริยะมาใช้ในบ้านหรือออฟฟิศของเรา ส่วนใหญ่อุปกรณ์แต่ละตัว ก็จะคู่กับแอปฯของมันเองโดยเฉพาะ ยกตัวอย่าง หลอดไฟก็ใช้หนึ่งแอปฯ ประตูโรงรถก็หนึ่งแอปฯ ระบบรักษาความปลอดภัยหนึ่งแอปฯ ระบบเครื่องปรับอากาศเครื่องฟอกอากาศในบ้านอีกหนึ่งแอปฯ! ถ้าเรามีหลายๆอุปกรณ์แบบนั้นก็คง ต้องลงแอพเอาไว้มากมาย วุ่นวาย รกหน้าจอน่าดู และการจะควบคุมหลายๆอุปกรณ์พร้อมกันก็คงต้องลำบากเปลี่ยนแอปฯไปมาแน่นอน
แต่ FIBARO เชื่อมต่อทุกอุปกรณ์ในบ้านและที่ออฟฟิศของเรา ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดได้ในแอปฯเดียว! รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ตอบโจทย์มากๆค่ะ
นอกจากนี้หากที่บ้านเราซื้ออุปกรณ์ไฟฟ้ามาไว้อยู่แล้ว อยากจะเปลี่ยนให้อุปกรณ์ไฟฟ้าธรรมดาๆที่บ้านกลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อมาเข้ากับระบบของ FIBARO ก็แค่นำหัวต่อปลั๊กมาสวมที่ปลายปลั๊กเท่านี้ก็เรียบร้อย ไลฟ์สไตล์ไม่เปลี่ยน คุ้นเคยกับอุปกรณ์แบบไหนก็ใช้ตัวเดิม ประหยัดอีกต่างหาก (แบบนี้ธุรกิจชอบ!) แถมยังสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าเราใช้ไฟฟ้ามากน้อยแค่ไหนในแต่ละวันแต่ละเดือน แบบนี้เหมาะกับคนทำธุรกิจแน่นอนค่ะ เพราะสามารถช่วยในการคำนวณค่าไฟเพื่อการประหยัดมากขึ้นได้ด้วยแถมของที่มีอยู่แล้ว ก็นำมาใช้ร่วมกันได้
แม้แต่เครื่องปรับอากาศเดิมที่มีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ก็สามารถนำมาเชื่อมเข้ากับระบบของ FIBARO ได้ด้วยนะคะ ทำให้เราสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ตั้งเปิด – ปิดตามเวลา และ ตั้งเปิด – ปิด เป็นพื้นที่ได้ ถ้าเป็นอาคารสำนักงาน อันนี้เหมาะเลยค่ะ
ระบบ FIBARO – Smart Home Automation ประกอบด้วย
ระบบควบคุมแสงสว่าง , ระบบรักษาความปลอดภัย , ระบบป้องกันอุบัติเหตุ , ระบบกล้องวงจรปิด , ระบบรดน้ำอัจฉริยะ , ระบบควบคุมม่านไฟฟ้า , ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศ , ระบบประตูรั้วไฟฟ้า, ระบบล็อคประตู เรียกได้ว่าครบวงจรจริงๆค่ะ
SMART LIGHTING
เปิด-ปิด-หรี่ ไฟได้ผ่านแอพพลิเคชั่น ควบคุมไฟ RGB เปลี่ยนสีได้ผ่านแอป
SMART AIR CONDITIONER
ปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ , ตั้งเปิด – ปิดตามเวลา และ ตั้งเปิด – ปิด เป็นพื้นที่ได้
SMART GARDEN
ไม่ใช่แค่ภายในบ้าน หรือในอาคารเท่านั้น ระบบอัจฉริยะยังตามมาถึงการรดน้ำในสวนได้ด้วย ช่วยให้เราสามารถควบคุมการรดน้ำตามสภาพอากาศโดยอ้างอิงจากพยากรณ์อากาศได้เลย ไม่ต้องสั่งเอง แต่เขาจะทำงานให้อัตโนมัติจากข้อมูลพยากรณ์อากาศ หรือถ้าจะตั้งรอบการรดน้ำต้นไม้ได้เองก็ทำได้ พร้อมสั่งงาน เปิด – ปิด ได้ผ่านมือถือ
SMART CURTAIN
ควบคุมสั่ง เปิด-ปิด ม่านได้ทุกรูปแบบ ปรับระดับการเปิด – ปิดได้ตามต้องการ ปรับองศามู่ลี่ได้ตามต้องการ โดยสั่งได้จากที่ไหนก็ได้ผ่านมือถือ
SMART SURVEILLANCE
เชื่อมต่อกล้องวงจรปิดได้อย่างอิสระให้เราตรวจดูแต่ละห้องได้จากระยะไกลผ่านมือถือจากที่ไหนก็ได้บนโลก ถ่ายรูปพร้อมแจ้งเตือนทันที เมื่อมีผู้บุกรุก และทำงานร่วมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ได้
SMART ENTRANCE GATE
ตั้งโปรแกรมเปิด-ปิด อัตโนมัติ , เปิด-ปิด ได้จากทุกที่ ทุกเวลา แม้ไม่อยู่บ้าน
SMART SECURITY
ดูสถานะประตู หน้าต่าง การเคลื่อนไหวแบบ Real-time
เปิด-ปิดระบบกันขโมย ได้จากทุกที่ แม้ไม่อยู่บ้าน
โดยมีการแจ้งเตือนผ่านมือถือและอีเมล
SMART SAFETY ALARM
ระบบการแจ้งเตือนที่มีทั้งเตือนไฟไหม้ เตือนหน้าต่างถูกงัด หรือประตูเปิด มีผู้บุกรุก เตือนน้ำรั่วซึม เป็นต้น
SMART DOORLOCK
ล็อคและปลดล็อค จากที่ไหนก็ได้ ตั้งเวลาได้ตามต้องการ และสามารถ ดูสถานะล็อคแบบ Real-time
เรายังสามารถตั้งซีนต่างๆได้ด้วย เช่น โหมดออกจากบ้าน ก็อาจจะให้ไฟในห้องต่างๆ และเครื่องปรับอากาศปิดเองอัตโนมัติทันทีที่เราออกจากบ้านเป็นต้น
การจะทำ smart home เราก็ต้องมีทั้ง hardware และ software ควบคู่กันไปนะคะ ในส่วนของ software ก็คือแอปที่เราจะลงไว้ในมือถือหรือคอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผล และใช้สั่งการต่างๆนั่นเอง ซึ่ง FIBARO ก็มีแอปที่ใช้ได้ทั้งบน IOS และ Android ที่เพียงแอปเดียวก็ควบคุมอุปกรณ์ได้ทั้งหมด ไม่ต้องโหลดมาหลายแอปให้วุ่นวาย
ส่วนของ hardware ก็เช่น “sensor” ต่างๆที่จะมาคอยรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อส่งข้อมูลไปยัง “ตัวควบคุม” ที่ทำหน้าที่เหมือนสมอง ให้สั่งการอุปกรณ์ต่างๆให้ทำงานอัตโนมัติ และยังมีอุปกรณ์เสริมที่จะมาช่วยทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าเดิมของเราที่มีอยู่แล้ว กลายเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะขึ้นมาได้
ในส่วนของ FIBARO หัวใจสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนสมองก็มีอยู่ 2 แบบให้เลือกคือ Home Center 2 ที่รองรับได้มากถึง 200 อุปกรณ์ หรือจะแบบเบาๆ ก็คือ Home Center Lite ที่รองรับได้ 20 อุปกรณ์
Hardware สำหรับทำให้อุปกรณ์เดิมของเรามีความอัจฉริยะขึ้นมาก็ เช่น Dimmer Module, RGBW Module ที่จะทำให้หลอดไฟธรรมดากลายเป็นหลอดไฟอัจฉริยะเพื่อเข้าร่วมในระบบ smart home ของเราได้ , Roller Shutter Module hardware เพื่อทำให้ม่านของเรากลายเป็นม่านอัจฉริยะ รองรับม่านจีบและมู่ลี่ , wall plug ที่นำไปเสียบกับอุปกรณ์ไฟฟ้าเดิมที่เรามีอยู่แล้ว ทำให้เราสามารถสั่งเปิด-ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นๆ จากที่ไหนก็ได้ พร้อมวัดปริมาณการใช้ไฟฟ้า ได้ด้วย, A/C Controller ใช้ระบบ infrared ในการส่งข้อมูลเพื่อควบคุมแอร์ มี library แอร์ทั่วโลกในตัว รองรับการเปิด ปิด ปรับอุณหภูมิ ความแรงลม
และ sensor ก็เช่น Door & Window Sensor สำหรับติดตามประตูหน้าต่างเพื่อตรวจจับการเปิดปิด และส่งสัญญาณไปยังตัวควบคุม , Motion Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหว , Smoke Sensor ตรวจจับอุณหภูมิและความร้อนที่ผิดปกติ แจ้งเตือนแบบ real-time มีเสียงร้องในตัว , Flood Sensor เตือนน้ำรั่วซึม , The Swipe สั่งการด้วย 3D Sensor จับความเคลื่อนไหวของมือ สามารถซ่อนไว้ใต้โต็ะ หรือฝังกำแพงได้ด้วย เพราะสามารถทะลุได้ 5 ซม (แต่วัสดุห้ามเป็นโลหะนะ)
เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น เพื่อนๆลองดูจากวีดีโอนี้ได้ค่ะ 😀
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็น Hardware หรือ Software ระบบของ FIBARO ก็มีมาครบ จบในตัวค่ะ แถมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่แล้ว ก็สามารถเข้ามาร่วมในระบบอัจฉริยะของเราได้ ไม่ต้องไปซื้อใหม่ ก็น่าจะเหมาะกับผู้ที่มองหาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกในบ้าน หรือในสำนักงานของเรา ที่จะช่วยลดเวลา ช่วยให้เราประหยัดไฟมากขึ้น สามารถตรวจสอบดูสิ่งต่างๆภายในบ้านในอาคารได้ง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้นนะคะ หากท่านใดสนใจก็ลองสอบถาม Call center ที่ 02-088-8000 #4 นะคะ
เอิ้น-ปานระพี 🙂