จากโทรศัพท์มือถือธรรมดาๆและเต็มไปด้วยปุ่มกดตัวเลข และหน้าจอมือถือเล็กๆในอดีตและมีเสา มีฟีเจอร์ที่ไม่กี่อย่าง แต่ด้วยนวัตกรรมตั้งแต่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นแรก พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไร้เสา และมีสิ่งที่เหมือนกับคอมพิวเตอร์พกพา และใช้ง่ายที่เรียกว่า แอปพลิเคชั่น พร้อมกับเปิดตัว App Store ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2008 เป็นจุดเริ่มต้นและจุดเปลี่ยนโลกมือถือตลอดกาลและใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน
เพราะ App Store นั้น ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการริเริ่มธุรกิจใหม่ๆ สร้างปรากฏการณ์ความนิยมแอพไปทั่วโลก
นับตั้งแต่ Apple เปิดตัว App Store เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2008 พร้อมกับแอพจำนวน 500 แอพ ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ทั้งในเชิงวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และสังคมที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน ทั้งการทำงาน การเล่นสนุก การพบปะ การเดินทางและอีกมากมาย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี App Store เป็นแหล่งรวบรวมแอพที่ดีที่สุดและปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังเป็นตลาดแอพที่คึกคักสำหรับนักพัฒนาแอพทั้งรายย่อยและรายใหญ่จากทั่วโลก ปัจจุบันนี้ ผู้ใช้ iPhone และ iOS ใน 155 ประเทศเข้ามาเยี่ยมชมบ่อยขึ้น ใช้เวลานานขึ้น อีกทั้งยังดาวน์โหลดและใช้แอพกันมากกว่าที่เคย
แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมายนับตั้งแต่แอพได้เข้ามาสู่ iPhone และต่อด้วย iPad แต่ความสำเร็จและคำชื่นชมด้านล่างก็สะท้อนให้เห็นว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา App Store ได้ทำให้การแจกจ่ายซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างเสมอภาคและเปลี่ยนแปลงวิถึชีวิตของผู้คนไปอย่างมากมาย ซึ่งนับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง
I. App Store เปิดประตูสู่โอกาสให้แก่นักพัฒนา และให้ผู้ใช้ควบคุมประสบการณ์การใช้งานในรูปแบบใหม่ด้วยตนเอง
Phil Schiller รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของ Apple กล่าวว่า “ในช่วง 10 ปีแรก App Storeประสบความสำเร็จเกินกว่าที่เราคาดไว้มาก ไม่ว่าจะเป็นแอปล้ำๆ ที่เหล่านักพัฒนาคิดค้นขึ้น ไปจนถึงการที่แอพกลายไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ และนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เราภูมิใจมากที่นักพัฒนาทำได้ขนาดนี้และคิดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะต้องน่าทึ่งยิ่งกว่านี้แน่นอน”
ก่อนปี 2008 อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์มีบริษัทใหญ่ๆ 2-3 แห่งเป็นผู้ควบคุมอยู่ App Store เปิดประตูสู่โอกาสให้แก่นักพัฒนาทุกราย ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนารายย่อยหรือผู้ที่มีสตูดิโอขนาดใหญ่ ทุกคนสามารถนำเสนอไอเดียอันยอดเยี่ยม สร้างแอพที่มีคุณภาพสูง และส่งมอบผลงานของตนได้อย่างง่ายดายให้แก่ลูกค้าที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก จนในวันนี้มีมากกว่า 1 พันล้านคนแล้ว
ในประเด็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสิ่งที่ Apple ให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้น Apple จึงให้แนวทางที่ชัดเจนแก่นักพัฒนาและใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการคัดสรรแอปที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้มาไว้ในตลาดแห่งนี้ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการสำรวจและเข้าถึงแอป
II. การเติบโตของธุรกิจบนอุปกรณ์พกพา
ฮาร์ดแวร์ล้ำสมัยและซอฟต์แวร์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็วจาก Apple เมื่อนำมารวมกับไอเดียสุดสร้างสรรค์จากนักพัฒนาผู้ที่มองเห็นว่า iPhone จะเป็นอุปกรณ์ที่ลูกค้าต้องมีไว้ติดตัว ทำให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่ๆซึ่งมาเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนใช้ชีวิต ทำงาน และเล่นสนุกไปอย่างถาวร หรือจะเรียกว่าเป็นวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องก็ได้
ธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึง Instagram, Calm, Uber และ Instacart นำคุณสมบัติต่างๆ ของ iPhone ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป, Apple Pay, GPS และบริการการหาตำแหน่งที่ตั้ง ในขณะเดียวกัน ทั้งบริษัทที่มีมานานแล้วและบริษัทที่เริ่มต้นจากเว็บไซต์ เช่น Twitter, Facebook, eBay, Yelp, Airbnb และ Amazon ต่างก็เริ่มสร้างแอพเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง
ด้วยเหตุนี้ แอปจึงกลายเป็นหนึ่งในช่องทางที่สำคัญที่สุดที่ลูกค้าจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจต่างๆ และจัดการกับสิ่งที่ต้องทำ เช่น จองตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรม จองโต๊ะสำหรับอาหารเย็น เลือกซื้อของขวัญหรือจ่ายบิล
III. เกมได้รับความนิยมและมีผู้เล่นใหม่ๆ มากมาย
Shigeru Miyamoto ประธานและสมาชิกอาวุโสของ Nintendo กล่าวว่า “เราดีใจมากที่ App Storeทำให้เราได้ส่งต่อ Super Mario Run เกม Super Mario รูปแบบใหม่ที่เล่นได้ด้วยมือเดียวบน iPhone ให้แก่ลูกค้าหลายร้อยล้านคน App Store ทำให้เราได้แบ่งปันความสนุกจากเกม Nintendo ไปสู่ผู้เล่นใหม่ๆมากมาย และเราจะไม่หยุดคิดค้นเกมใหม่ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้าของ App Store”
Riccardo Zacconi, CEO ของ King และผู้สร้าง Candy Crush กล่าวว่า “เราเปิดตัว Candy Crush Saga บน App Store เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว และประโยชน์มหาศาลที่เราได้รับก็คือการที่ได้เข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ มากมายทั่วโลก เกมของเรามีผู้เล่นทั่วทั้ง 7 ทวีป แม้กระทั้งแอนตาร์กติกา นั่นแสดงให้เห็นว่า App Store ทรงพลังและเข้าถึงผู้คนได้มากมายจริงๆ”
App Store ทำให้การเล่นเกมเป็นกิจกรรมกระแสหลักได้ ก็เพราะว่ามีเทคโนโลยี Multi-Touch บนจอสัมผัสที่มาตั้งแต่ iPhone รุ่นแรก และ iPad บวกกับความสะดวกในการเล่นเกมทุกที่ทุกเวลา ลูกค้าต่างชื่นชอบเกมในยุคแรกๆอย่าง Super Monkey Ball, PAC-MAN, Angry Birds, Words With Friends, Real Racing และ Temple Run ซึ่งได้พัฒนาให้รองรับทั้งจอสัมผัสและการเอียงอุปกรณ์ได้ด้วยทำให้ iOS เป็นแพลตฟอร์มการเล่นเกมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก
เกมอื่นๆ อย่าง Heads Up!, Pokémon Go, HQ และ Fortnite ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมไปทั่วโลก ในขณะเดียวกันเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็ทำให้เกมคอนโซลคุณภาพเยี่ยมมาอยู่บนอุปกรณ์พกพาได้ ไม่ว่าจะเป็น Vainglory, The Witness และ Arena of Valor ลูกค้ากว่าพันล้านคนจึงได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมซึ่งหาที่ไหนไม่ได้
IV. การซื้อภายในแอพ การบอกรับสมาชิกเพื่อปลดล็อคประสบการณ์ใหม่ๆ
ในปี 2011 App Store เริ่มเปิดตัวแอพที่รองรับการบอกรับสมาชิก และภายในปี 2016 ได้เพิ่มคุณสมบัตินี้ไปยังแอพทั้ง 25 หมวดหมู่ ได้แก่ เกม เด็ก รวมทั้งสุขภาพและฟิตเนส แอพบน iOS กว่า 28,000 แอพตอนนี้รองรับการบอกรับสมาชิกแล้ว รวมถึง Netflix, iQiYi, Tinder, LinkedIn, Sing! By Smule, Headspace และDropbox ทำให้ผู้ใช้ใหม่หลายล้านคนสามารถสำรวจและสมัครใช้งาน หรือยกเลิกการบอกรับสมาชิกได้ทันที การบอกรับสมาชิกเพิ่มขึ้น 95 เปอร์เซนต์จากปีที่แล้ว และจนถึงเดือนมิถุนายน 2018 นักพัฒนามีรายได้จาก App Store ไปแล้วกว่าแสนล้านดอลล่าร์
V. ความบันเทิงในรูปแบบสตรีมมิ่งกำลังมาแรง
Richard Plepler ประธานและ CEO ของ HBO กล่าวว่า “ตอนที่เราตัดสินใจเปิดตัวแอพ HBO NOWเราไม่ได้คุยกันว่าพาร์ทเนอร์จะต้องเป็น Apple เท่านั้น การประกาศว่าเราจะให้บริการสตรีมมิ่งร่วมกับApple และการเปิดตัว HBO NOW บน App Store เป็นหนึ่งในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของ HBO
App Store เป็นศูนย์กลางการเติบโตของการรับชมวิดีโอบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ หน้าจอขนาดใหญ่และความละเอียดของจอภาพ iPhone และ iPad ทำให้ลูกค้าชมวิดีโอระหว่างเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริการสตรีมมิ่งอย่าง HBO NOW, Hulu, Netflix และ Sling TV และรายการคุณภาพมากมายจะทำให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับความบันเทิงที่พวกเขาต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา
VI. ความคิดสร้างสรรค์ การทำงาน และการศึกษาไปได้ไกลกว่าออฟฟิศและกระดานในห้องเรียน
ในปี 2010 iPad ถือกำเนิดขึ้นในฐานะผืนผ้าใบดิจิตอลขนาดใหญ่ให้ลูกค้าของเราได้ใช้เปิดประสบการณ์สร้างสรรค์และเรียนรู้สิ่งใหม่ เพราะพกพาง่ายและใช้งานได้หลากหลาย ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกจึงเลือกใช้iPad Pro เป็นเครื่องมือช่วยสร้างสรรค์และทำงานได้ในระดับที่ไม่คิดว่าจะทำได้·นอกจากนี้ ผู้ใช้งานทุกระดับยังเลือกใช้ iPad มาเป็นทั้งเครื่องมือช่วยทำงานและเล่นสนุกอีกด้วย วันนี้ ลูกค้าของเราสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับแอพมากถึง 1.3 ล้านแอพที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ เช่น Procreate, Lightroom, Microsoft Office 365 และ Prêt-à-Template ช่วยให้คุณคิดสร้างสรรค์ชิ้นงานได้ทุกที่ ทลายกำแพงห้องทำงานและสตูดิโอ แล้วออกไปหาแรงบันดาลใจที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
แอพเพื่อการศึกษาและอ้างอิงมากมายกว่า 200,000 แอพ เช่น Explain Everything และ The Elementsจาก Touch Press ช่วยให้ iPad กลายเป็นเครื่องมือส่งเสริมการเรียนรู้ที่ทั้งสมบูรณ์แบบและดึงดูดใจ ช่วยให้แสดงความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้เต็มที่ และส่งเสริมให้มีการทำงานร่วมกัน นอกจากนั้น แอพเพื่อการศึกษาอย่าง Froggipedia, WWF Free Rivers และ Boulevard AR ก็ได้ประยุกต์เอาเทคโนโลยีความจริงเสริม (AR) มาใช้ได้อย่างทันใจเพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมือนจริงยิ่งกว่าเคย
____________________________________
VII. แอพด้านสุขภาพ ฟิตเนส และการดูแลสุขภาพ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
Apple Watch และ HealthKit ช่วยให้นักพัฒนาสามารถริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมออกมาเป็นแอพด้านสุขภาพ ฟิตเนส และการดูแลสุขภาพ ที่ชาญฉลาดและโต้ตอบกับผู้ใช้ได้ ส่งผลให้ผู้ใช้แอพมีความแอ็คทีฟและใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ตั้งแต่ Apple Watch เปิดตัวมา แอพเหล่านี้มีจำนวนการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นถึง 75 เปอร์เซ็นต์ นำโดยแอพอย่าง Zova, Nike, Lose It!, Dexcom, One Drop, Glow, 10% Happier และ Yoga Glo
แพทย์มากกว่า 500 คนและนักวิจัยทางการแพทย์ได้ใช้เครื่องมือ ResearchKit และ CareKit ของ Appleเพื่อศึกษาวิจัยทางคลินิกที่มีผู้เข้าร่วมโครงการมากถึง 3 ล้านรายที่มีสภาพร่างกายต่างๆ กัน ตั้งแต่มีภาวะออทิซึม เป็นโรคพาร์กินสัน กำลังพักฟื้นที่บ้านหลังเข้ารับการผ่าตัด ไปจนถึงกำลังบำบัดโดยการกายภาพเครื่องมือที่ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้แอพสำหรับ iOS และ Apple Watch เพื่อตรวจสอบสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของตนเองได้
VIII. แอพการช่วยการเข้าถึงช่วยเสริมพลังให้ชุมชน
ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา ลูกค้าหลายล้านคนของเราสามารถใช้ประโยชน์จากแอพต่างๆ อย่าง Lyft, Twitter, Starbucks และ TED ที่รองรับคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงจำนวนมากและมีมาให้ในตัว iOS เช่นVoiceOver นอกจากนั้น แอพอื่นๆ อย่าง Voice Dream Reader และ CP Channel ต่างก็ให้ความช่วยเหลือจำเป็นที่ชุมชนผู้บกพร่องต้องการ ด้วยคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงที่ได้รับการออกแบบมาให้สอดรับกับการทำงานต่างๆ เป็นอย่างดี แอพเหล่านี้จึงสามารถช่วยเหลือผู้ใช้และช่วยให้ผู้บกพร่องเข้าถึงและมีประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้นมาก
____________________________________
IX. การเขียนโค้ดช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่
ทุกๆ ปี Apple จะจัดให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์หลายพันคนจากทั่วโลกมาร่วมพูดคุยกันเรื่องการพัฒนาล่าสุดเกี่ยวกับแอพใน Worldwide Developers Conference (WWDC) ตั้งแต่ปี 2013 Apple ได้แจกทุนให้นักเรียนกว่า 150 คนให้มาเข้าร่วมงาน และในปี 2018 Apple ได้แจกทุนให้นักเรียนผู้มีความสามารถมากถึง350 คน รวมถึงสมาชิกองค์กร STEM จาก 42 ประเทศ ผู้ได้รับทุนจะได้รับบัตรเข้างานประชุมและที่พักฟรีและยังได้เป็นสมาชิกโปรแกรมนักพัฒนาของ Apple อีก 1 ปีอีกด้วย ผู้ที่เคยได้รับทุนนี้ในปีที่ผ่านๆ มาได้เริ่มก่อตั้ง STEM ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อร่วมสนับสนุนให้เพื่อนๆ เรียนเขียนโค้ดและสร้างแอพมาช่วยแก้ปัญหาต่างๆ เช่น สุขภาพจิต ความปลอดภัย และการเปลี่ยนแปลงสภาพทางภูมิอากาศ
Apple เปิดตัวโปรแกรม Everyone Can Code ในปี 2016 เพื่อสนับสนุนการเรียน การเขียน และการสอนเขียนโค้ด และในวันนี้ มีนักเรียนมากถึง 10 ล้านคนทั่วโลกที่สามารถเข้าถึงเพื่อเรียนเขียนโค้ด แก้ปัญหาและสร้างแอพที่ช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตให้ดีขึ้นได้ และในปี 2016 นั่นเอง Apple ยังได้เปิดตัว Swift Playgrounds ซึ่งเป็นนวัตกรรมของแอพ iPad ที่นำแนวคิดการเขียนโค้ดมาสู่ชีวิตจริงผ่านอินเทอร์เฟซแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ ซึ่งเหมาะกับนักเรียนทุกระดับ และผู้เริ่มต้นที่สนใจศึกษาการเขียนโค้ดภาษา Swift ของApple
X. App Store โฉมใหม่ส่งเสริมให้ผู้ใช้ได้ออกค้นหาแอพ
ในปี 2017 Apple ได้เผยโฉม App Store ที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ผู้ใช้อยากเข้าชมทุกวัน มีแท็บเกมและแท็บแอพแยกกันเพื่อให้หาสิ่งที่ต้องการได้อย่างตรงใจเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ และได้รู้จักผู้สร้างแอพที่ตนเองรู้จักและชื่นชอบ ตอนนี้ App Store มีผู้เข้าชมมากถึง 500 ล้านคนต่อสัปดาห์ที่ใช้เวลาค้นหาแอพมากขึ้นกว่าเดิม และมีผู้อ่านเรื่องราวในแท็บวันนี้มากถึง 1 ล้านคน
XI. AR กำลังจะมาปฏิบัติวงการ
John Hanke, CEO ของ Niantic กล่าวว่า “เมื่อตอนที่เราก่อตั้ง Niantic เราหวังที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่จะสร้างให้แรงบันดาลใจให้ผู้คนออกสำรวจชุมชนที่ตัวเองอยู่ ได้ออกกำลังกาย และสนุกสนานไปกับเพื่อนๆ และครอบครัวในโลกจริง นอกจากจะช่วยให้คนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกเข้าถึง Pokémon GO และIngress ได้ง่ายแล้ว App Store ยังช่วยสร้างความโดดเด่นให้ชุมชนผู้เล่นของเราได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ที่เรียบเรียงอย่างดีเพื่อบอกเล่าและให้ความรู้กับผู้เล่นของเรา และยังช่วยให้ทีมนักพัฒนาปล่อยคุณสมบัติใหม่ๆ ออกมาให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย”
ความจริงเสริมคือเทคโนโลยีแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะช่วยนำประสบการณ์เสมือนจริงมาสู่โลกจริง และช่วยเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้ทำงานและเล่นสนุก ในปี 2017 Apple ได้เปิดตัว ARKit 1.0 และในวันนั้นเองที่ iOSได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์ม AR ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผู้ใช้ iPhone และ iPad สามารถใช้งานได้ วันนี้ แอพAR กว่า 3,000 แอพใน App Store เช่น Kings of Pool, Alice in Wonderland AR Quest และ Houzz ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อสินค้า เรียนรู้ และเล่นเกมได้น่าดึงดูดใจยิ่งกว่าเดิม Apple เปิดตัวการอัพเดทARKit ครั้งที่ 3 ให้นักพัฒนาได้รับชมที่ WWDC ในเดือนมิถุนายน 2018 ทำให้แอพ AR อย่าง LEGOสามารถแชร์ประสบการณ์เล่นเกมแบบหลายคนหรือทำงานร่วมกันโปรเจ็กต์ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ประสบการณ์ AR แบบบ่งชี้แบบเจาะจงเฉพาะบุคคลยังช่วยให้คุณเริ่มเล่นเกมปริศนาบนโต๊ะแล้วกลับมาเล่นต่อได้เสมอ
Core ML ช่วยให้แอพฉลาดขึ้นได้เพราะสามารถทำความเข้าใจรูปภาพ วิดีโอ และข้อความต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ผู้ใช้จึงได้สัมผัสประสบการณ์ที่สดใหม่และน่าตื่นเต้น Core ML สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การใช้ฟิลเตอร์แบบมีสไตล์ในรูปภาพด้วย BeCasso การเพิ่มเอ็ฟเฟ็กต์สนุกๆ ด้วยSnapchat และช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาด้านการมองเห็นสามารถเห็นโลกจริงได้ด้วย ทั้งหมดนี้ทำได้โดยยังรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้าไว้ได้
เรียกได้ว่าตั้งแต่ยุคมือถือกลายเป็นสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เราได้รู้จักกับ App Store คลังศูนย์รวมแอปคุณภาพจาก Apple ที่สามารถดาวน์โหลดได้ ซื้อแอปได้ ซื้อไอเทม และซื้อบริการบันเทิงต่างๆได้ และถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ Google ต้องหันมาสร้าง Play Store ตาม และวงการทีวีก็ต้องมีศูนย์รวมแอปก็หลักการคล้ายๆกับ App Store ทั้งสิ้น จนมาถึงตอนนี้ก็ครบรอบ 10 ปีแล้ว หากไม่มี App Store ในวันนั้นก็อาจไม่เห็นแอปต่างๆบนมือถือมากมายในวันนี้