5G เป็นคำที่คนไทยทุกคนเริ่มคุ้นเคย แต่คำว่า “The 5G Economy” อาจจะยังใหม่สำหรับคนไทย การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอดีตได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า การพัฒนาด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้าและการพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมต่อคนทั่วโลก และในศตวรรษที่ 21 นี้ เราก็จะได้เห็นเช่นกันว่า เทคโนโลยี 5G กำลังจะสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ที่จะทำให้เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ของทุกประเทศทั่วโลกพัฒนาไปสู่อีกภูมิทัศน์หนึ่งที่ยากแก่การจินตนาการและความเชื่อของคนทั่วไป
ทั้งนี้เนื่องจากมาตรฐานสากลของเทคโนโลยี 5G ที่ในทางวิศวกรรมโทรคมนาคมเรียกว่า “5G New Radio” มีรูปแบบการติดต่อสื่อสารและการเชื่อมต่อเครือข่าย ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่โทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่จะขยายไปสู่การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์ที่สวมใส่ (wearable device) เซ็นเซอร์ หุ่นยนค์ รถยนต์ แขนกล และจะก้าวไปสู่ยุคของเทคโนโลยีที่ทำให้คนแต่ละคนสามารถเชื่อมต่อกันได้ (people-to-people) และการเชื่อมต่อระหว่างคนกับข้อมูล (people-to-information) เกิดการผสานการเชื่อมต่อแบบครบวงจร ที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับทุกสิ่งทุกอย่างในโลกได้ จนจะทำให้เกิดระบบอัตโนมัติที่มีความชาญฉลาดยิ่ง
เทคโนโลยี 5G จะเป็นตัวเร่งในการผลักดันเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบัน โดยการใช้งาน 5G จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิต และระบบเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีการประเมินว่าห่วงโซ่คุณค่า 5G (5G value chain) จะก่อให้เกิดการสร้างและขยายแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 5G จะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนทั่วโลก
GSMA ระบุว่าภายในปี 2025 จะมีการใช้งาน 5G เฉพาะในเอเชียแปซิฟิกมากถึง 675 ล้านการเชื่อมต่อ และมีการเชื่อมต่อ IoT มากกว่า 1,100 ล้านการเชื่อมต่อ ซึ่งคิดเป็น 60% ของผู้ใช้งาน 5G ทั่วโลก ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 ทั่วโลกจะมีเครือข่าย 5G ครอบคลุม 1 ใน 3 ของประชากรโลก โดยจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้มากถึง 1.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2025 และสามารถสร้างตำแหน่งงานได้มากกว่า 17.3 ล้านตำแหน่งงาน
จากการศึกษาของ IHS Markit พบว่ายิ่งเริ่มมีการใช้งาน 5G เชิงพาณิชย์เร็วขึ้นเท่าไร ก็จะสามารถสร้างผลดีต่อเศรษฐกิจมากขึ้นเท่านั้น โดย IHS Markit ประมาณการว่า 5G จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจโลกได้มากถึง 12.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 4.6% ของผลผลิตทั่วโลกทั้งหมดในปี 2035 โดยการใช้งาน 5G จะส่งผลกระทบต่อทุกภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง การนำ 5G มาใช้งานและการบูรณาการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างแพร่หลาย จะทำให้ 5G กลายมาเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานโดยทั่วไป (General Purpose Technologies : GPTs) เหมือนอย่างเช่น ระบบไฟฟ้า โทรศัพท์ หรืออินเทอร์เน็ต เป็นต้น
นอกจากนี้ จากการศึกษาของ IHS Markit ยังพบว่า ภาคส่วนอุตสาหกรรมการผลิตจะเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีการใช้งาน 5G ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงที่สุด ซึ่งสูงเกือบ 3.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 28% ของการขายทั่วโลก (12.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ) เนื่องจาก 5G จะทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อระบบหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรม รองลงมาคือในภาคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีการประเมินไว้ว่า ภายในปี 2035 ห่วงโซ่คุณค่าของ 5G จะมีมูลค่ามากถึง 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และสามารถสร้างงานได้มากถึง 22 ล้านตำแหน่ง เนื่องจาก 5G จำทำให้เกิดการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ ตามมา
IDC คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G และอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากประมาณ 528 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2018 เป็น 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2022
ส่วน Whitepaper ของ Sierra Wireless เรื่อง “Preparing for the 5G Future” ระบุว่า นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมจาก ABI Research คาดการณ์ว่าผู้ให้บริการบรอดแบนด์ไร้สาย จะสามารถสร้างรายได้ในเครือข่าย 5G ได้มากถึง 247,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2025
สำหรับประเทศไทย การศึกษา Ericsson และ Arthur D Little Industry คาดการณ์ว่าในปี 2026 การนำเทคโนโลยี 5G, IoT และเทคโนโลยีด้านดิจิทัลไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ จะสามารถสร้างเม็ดเงินให้แก่เศรษฐกิจของประเทศไทยได้มากถึง 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมแบบดั้งเดิม ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพียง 1,736 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยอุตสาหกรรมการผลิตจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงมากอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองลงมาคืออุตสาหกรรมพลังงานและระบบสาธารณูปโภคจะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
จากการศึกษา Ericsson คาดว่าประเทศไทย จะมีจำนวนการลงทะเบียนใช้งาน LTE / 5G เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงปี 2017 – 2023 โดยมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ในปี 2023 ซึ่งประมาณการว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศไทย จะมีอัตราเพิ่มขึ้น 22% ดังนั้นผู้ประกอบการในประเทศไทยและรัฐบาลควรมีการเตรียมพร้อมในการรับมือกับ 5G เพื่อผลประโยชน์ของประเทศในทุกมิติ
ในช่วงเวลาจากนี้ไปเทคโนโลยี 5G จะถูกประยุกต์ใช้ในทุกอุตสาหกรรม เช่น การควบคุมหุ่นยนต์และเครื่องจักรที่ชาญฉลาด (machine intelligence), เครือข่ายเว็ปเคลื่อนที่ (ubiquitous web), โมบายบรอดแบนด์ (mobile broadband) และยานพาหนะไร้คนขับ (unmanned vehicles) ไปจนถึงซอฟต์แวร์ที่สามารถแปลภาษาได้ทุกภาษาด้วย AI บนสมาร์ทโฟน 5G ซึ่งเทคโนโลยี 5G จะทำลายอุปสรรคที่มนุษย์จะเข้าถึงการศึกษา การบริการสาธารณสุข อีกทั้งการปฏิวัติด้านดิจิทัลจะทำให้เกิดการสร้างงานอย่างมหาศาล และในทางกลับกันก็จะทำลายตำแหน่งงานรูปแบบเดิมออกไปจนสิ้น
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ภายในทศวรรษที่จะถึง ระบบเศรษฐกิจโลกจะเปลี่ยนผ่านสู่การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล 5G ใหม่ ที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจโลกวิ่งสู่ภูมิทัศน์ใหม่ในยุค “The 5G Economy” อย่างน่าตื่นเต้น และแน่นอนที่ประเทศไทย ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
Reference
https://www.businesswire.com/news/home/20181106005674/en/IDC-Forecasts-5G-Network-Infrastructure-Revenue-Reach
https://www.gsma.com/mobileeconomy/wp-content/uploads/2018/05/The-Mobile-Economy-2018.pdf
https://www.westbase.io/what-5g-means-for-business-will-look-like/
https://www.gsmaintelligence.com/research/?file=28401018963d766ca37d014fa9cbffb1&download
https://www.qualcomm.com/invention/5g/economy
https://www.technologyreview.com/s/603770/the-5g-economy-how-5g-will-impact-global-industries-the-economy-and-you/
https://cdn.ihs.com/www/pdf/IHS-Technology-5G-Economic-Impact-Study.pdf
————————-
บทความโดย
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
https://link.medium.com/vnV4JVinWR
25 พ.ย. 61