ทวิตเตอร์กล่าวขอโทษหาก ทวิตเตอร์มีส่วนทำให้ โดนัล ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี สิ่งนี้ได้กลายเป็นข่าวดังชั่วข้ามคืน เมื่อโดนัล ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times “ผมขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับทวิตเตอร์สักหน่อย ที่จริงผมอาจจะไม่ได้มาเป็นประธานาธิบดีก็ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกทวิตเตอร์ข่าวลวงข่าวปลอมในวันนั้น”
เมื่อผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์ Evan Williams ได้ยินดังนั้นก็ต้องขอออกมาพูดตอบโต้กับการที่ โดนัล ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี สักหน่อย โดยได้แสดงความเสียใจถ้าหากทวิตเตอร์เป็นส่วนที่สำคัญ ที่ทำให้การเลือกตั้งได้รับผลกระทบไปด้วย เขาได้กล่าวขอโทษถ้าหากโซเชียลมีเดียช่วยเอนคะแนน และเสียงสนับสนุนไปทางทรัมป์มากกว่า
เมื่อถาม Williams ถึงความคิดเห็นในการถอดถอนตำแหน่งของทรัมป์ เขาตอบตรงไปตรงมาว่า “หากที่ทรัมป์พูดว่า เขาอาจจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีเพราะทวิตเตอร์เป็นเรื่องจริง อย่างงั้นผมก็ต้องแสดงความเสียใจด้วยกับทรัมป์” แต่ถึงอย่างไรก็ดี ทางทำเนียบขาวก็ไม่ได้ตอบรับคำร้องขอของเขาในทันที
บทบาทของโซเชียลมีเดียวที่ทำให้ โดนัล ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดี มีคะแนนนำในการเลือกตั้ง ตอนนี้กลับกลายมาเป็นชนวนของสิ่งที่ทำให้เกิดความยุ่งเหยิง เพราะทั้งโซเชียลมีเดียวของเฟสบุ๊คหรือกูเกิ้ลเองก็เป็นแหล่งปล่อยข่าวปลอมด้วยกันทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เฟสบุ๊คได้ออกระบบสมองกลมาตรวจสอบ Clickbait และบรรดาข่าวปลอมบน Newsfeed ของทุกโพสแล้ว หากพบว่าเป็น Clickbait จริงทางเฟสบุ๊คก็มีบทลงโทษบัญชีผู้ใช้นั้นด้วยทันที.. อ่านต่อ
หลังจากเหตุการณ์นี้โดนัล ทรัมป์ก็เป็นฝ่ายถูกรุกโดนฉุดลงไปโดยไม่ได้ตั้งตัว ไม่มีข้ออ้างใดๆที่จะช่วยเขาได้ในตอนนี้ เนื่องจากตัวเขาเองเป็นคนที่ชอบโพสระบายลงบนทวิตเตอร์อยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมาเขาโพสว่า บารัค โอบามา และฮิลลารี่ คลินตัน ได้เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยเรื่อง ปฏิบัติการที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีตัวทรัมป์เองเป็นประเด็นในการสนทนา จากประเด็นนี้ทำให้ทั้งเจ้าหน้าที่ปัจจุบันและอดีตเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวเกรงว่า ทวิตเตอร์จะเป็นตัวการที่ทำให้ทรัมป์หลุดจากตำแหน่ง
ที่มา : CNET