Travis Kalanick ซีอีโอ UBER ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอถาวรแล้ว จากการเรียกร้องของผู้ถือหุ้น 5 รายใหญ่คือ Benchmark Capital, First Round Capital, Lowercase Capital, Menlo Ventures, Fidelity Investments ซึ่งมีสัดส่วนหุ้นรวมกันเกิน 1/4 ของหุ้นทั้งหมด เรียกร้องให้ลาออกทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ปรึกษานายทุนและหยุดพักงานชั่วคราว ก่อนตัดสินใจลาออกในวันนี้
Travis Kalanick ออกแถลงการณ์ กล่าวว่า “เขารัก Uber มากกว่าทุกสิ่งในโลก นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เขาก็รับข้อเสนอของนักลงทุนเพื่อให้ Uber เดินหน้าต่อไปได้”
สำหรับสาเหตุการลาออก หลังจากผู้ถือหุ้น 5 รายใหญ่เรียกร้องให้ Travis Kalanick ลาออกนั้น ไม่ได้เกิดจากการดำเนินธุรกิจ แต่เกิดจากนิสัยส่วนตัวของซีอีโอท่านนี้หลายเหตุการณ์ด้วยกัน เช่น Stalker นักข่าว จนล่าสุด ซีอีโอควงสาวสองคนไปขึ้น Uber แล้วซัดกับคนขับ ตลอดจนนำวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ดีนัก ของกลุ่มผู้บริหาร UBER ซึ่งก็เคยเป็นข่าวเช่นกัน อย่างเช่น อดีตพนักงานหญิงโวยปัญหาล่วงละเมิดทางเพศจากผู้บริหาร เรื่องเงินเดือนของพนักงานชาย-หญิง ที่ไม่เท่าเทียมกัน และการพูดจาลวนลาม
แม้ Travis Kalanick ลาออกจากตำแหน่ง ซีอีโอ UBER แล้ว แต่ก็ยังมีตำแหน่งคณะกรรมการบริษัท UBER อยู่ และมองดูบอร์ดบริหาร UBER ที่แทบจะไม่เหลือคน ทำให้น่าจับตามองว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหลังจากนี้
ข้อมูลจาก The New York Times