แม้จบและผ่านไปเรียบร้อยสำหรับงานแสดงเทคโนโลยีนวัตกรรมของโทรศัพท์มือถือโทรคมนาคมระดับโลก ในงาน Mobile World Congress 2017 ณ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน แต่ยังมีเรื่องราวเกี่ยวเทคโนโลยีที่น่าสนใจ มีประโยชน์และคาดว่าจะใกล้ตัวชีวิตเราในอนาคตด้วย ตอนนี้รอบๆตัวเราก็มีชีวิตที่สมาร์ทขึ้นตั้งแต่ Smart Phone , Smart TV , Smart Home , Smart Building แล้ว แต่ในเรื่องนี้จะมาชมในส่วนของ Smart City กันเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการพัฒนาเมือง ซึ่งท่านอาจคุ้นเคยกับสมาร์ทซิตี้ในประเทศไทยอย่างจังหวัดภูเก็ต และเทศบาลแสนสุข จังหวัดชลบุรี กันมาแล้ว แต่คราวนี้เรามาดูสมาร์ทซิตี้ จากต่างประเทศกันบ้าง
Smart City ที่นครไถหนัน
บริษัท FarEasTone ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจากไต้หวัน ได้เล่าเบื้องหลังการทำโครงการเมืองอัจฉริยะ Smart City ในนครไถหนัน ซึ่้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศจีน จากเมืองธรรมดาๆเมืองหนึ่งกลายเป็นเมืองที่มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด โดยมีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการและการจัดการเมืองอัจฉริยะในนครไถหนัน โดยแบ่งเป็น 5 ส่วนด้วยกันคือ
- ระบบจัดการน้ำอัจฉริยะ
- ระบบการจัดการด้านขนส่งคมนาคมอัจฉริยะ
- ระบบการรักษาสุขภาพ (Health Care)
- การศึกษาผ่านทางโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพา
- O2O Mobile Commerce การซื้อขายและชำระเงินผ่านทางมือถือ
โดยพัฒนาระบบเครือข่าย 4G ให้ครอบคลุมนครไถหนัน บวกกับการทำงานของเซ็นเซอร์ ที่คอยวัดระดับน้ำ และดูสภาพจราจรของรถประจำทางและตามแยกต่างๆอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารด้วยบริการ Free-wifi ประสานงานกับหน่วยงานสาธารสุขและหน่วยงานรัฐบาลในการดำเนินการสร้างเทคโนโลยีการบันทึกสุขภาพผ่านทางแอปพลิเคชั่นบนมือถือและบัตรประชาชน การพัฒนาการศึกษาด้วย Video On Demand + การสร้างแบบทดสอบการเรียนรู้ออนไลน์+ ระบบการติดตามนักเรียน + ตำราการเรียนการสอนผ่านทางระบบ Cloud ทั้งนี้ที่นครไถหนันจะสามารถเรียนผ่านทางมือถือได้ผ่านทางแอป Cloudplay ที่ทางผู้ให้บริการมือถือ FarEasTone จัดทำขึ้น และส่งเสริมการขายแบบไร้เงินสดด้วยแอป Payment ผ่านทางมือถือ โดยตามร้านค้าที่ร่วมโครงการจะมีบาร์โค้ดให้สแกน ซึ่งบางร้านมีโปรโมชั่นให้ผู้ใช้ได้รับประทานอาหารฟรีด้วย
Smart City ที่สหรัฐอเมริกา
ที่สหรัฐอเมริกา ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่าง AT&T ก็ได้นำเสนอเรื่อง Smart City เช่นกันแต่นำเสนอระบบย่อยมากถึง 11 ระบบ ตามรูป
โดยสิ่งที่น่าสนใจที่น่าจะนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยนั่นคือ เรื่องระบบแจ้งเตือนขยะ ซึ่งตามเมืองหลวงก็จะมีประมาณขยะที่ค่อนข้างเต็มอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ขยะใกล้เต็มระบบจะส่งข้อมูลส่งยังศูนย์กลางให้รถขยะคอยเก็บขยะทันที
และระบบรักษาความปลอดภัยบนพื้นที่สาธารณะ ซึ่งในบางเวลามีสถานการณ์ผิดปกติเช่นการก่อเหตุร้ายต่างๆ ซึ่งรอบตัวเมืองมีกล้อง CCTV คอยจับพฤติกรรมตามสี่แยก รถบัส เกี่ยวกับเหตุร้ายเช่นการใช้ปืนยิง การขโมยทรัพย์สิน ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนบอกพิกัดที่เกิดเหตุเรียกตำรวจมาจับทันที ตลอดจนมีวีดีโอหลายมุมที่จับได้เป็นหลักฐานสำคัญในการสืบสวนและดำเนินคดี
ทั้งนี้ต้องมีระบบไอทีคอยทำงานอย่างเป็นอัตโนมัติ ทั้งเรื่องเครือข่าย 4G , 5G , IoT , Big Data ในการทำงานร่วมกันในแต่ละระบบและต้องมีระบบฉุกเฉินรักษาความปลอดภัยของระบบอีกขั้นหนึ่งเพื่อป้องกันการแฮกระบบควบคุมทั้งเมืองที่กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ Smart City
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของเมืองอัจฉริยะ Smart City จากต่างประเทศอย่างจีนและสหรัฐอเมริกา ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี และทั้ง 2 เรื่องนี้ถูกแสดงในโซนนวัตกรรมที่ฮอลล์ 4 ซึ่งเป็นฮอลล์หลักของงาน Mobile World Congress 2017 ด้วย