เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เปิดตัวบริการ “พร้อมเพย์” (PromptPay) อย่างเป็นทางการ เริ่มให้บริการรับเงินและโอนเงินทางเลือกใหม่โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หรือหมายเลขประจำตัวประชาชน แทนเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคารได้แล้ว เพิ่มความสะดวก และประหยัด ในการรับเงินและโอนเงินให้กับประชาชน นับเป็นก้าวสำคัญสู่การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ National e-Payment เพื่อวางรากฐานสู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย
ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว กล่าวว่า “การที่ประเทศไทยจะก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ดังนั้นภาครัฐจึงมีบทบาทที่ส าคัญในการสนับสนุนทุกภาคส่วน โดยการจัดการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ การเปิดใช้บริการ “พร้อมเพย์” (PromptPay) ในวันนี้ เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการเงินของประเทศ เพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน ลดอุปสรรคในการทำธุรกิจ ส่งเสริมธุรกิจ SMEs และ e-Commerce ซึ่งจะน าไปสู่การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในที่สุด ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันพัฒนาบริการพร้อมเพย์ให้สำเร็จได้ด้วยดี และสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนอย่างเต็มรูปแบบได้ในวันนี้”
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า “การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment เป็นงานที่กระทรวงการคลังให้ความสำคัญมาก ประกอบด้วย 6 โครงการย่อย ซึ่งพร้อมเพย์เป็นโครงการแรก นอกจากนี้ยังมีโครงการการขยายการใช้บัตรเดบิตและการติดตั้งเครื่องรับบัตร หรือ EDC การปรับปรุงระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ การบูรณาการสวัสดิการและ e-Payment ภาครัฐ การสื่อสารให้ความรู้กับประชาชน และสุดท้ายเป็นโครงการพัฒนาตลาดทุน วันนี้บริการพร้อมเพย์สำหรับการโอนเงินระหว่างบุคคล สามารถให้ประชาชนที่รอ ได้ใช้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้แล้ว นอกจากนี้เราจะเริ่มเปิดให้นิติบุคคลลงทะเบียนใช้พร้อมเพย์ และจะเริ่มให้บริการโอนเงินได้ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ “
ดร. วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า “ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมสนับสนุนและผลักดันแผนยุทธศาสตร์ National e-Payment โดยรับผิดชอบหลักใน 2 โครงการคือ โครงการพร้อมเพย์ และโครงการขยายการใช้บัตรเดบิต ในขั้นตอนการพัฒนาระบบพร้อมเพย์นั้น ทุกฝ่ายได้ให้ความสำคัญ กับความมั่นคงปลอดภัยของระบบเป็นอย่างยิ่งทั้งในส่วนของระบบกลางระบบงานของธนาคารแต่ละแห่ง และการเก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า โดย ธปท. ได้ติดตาม ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้ซักซ้อมและเตรียมการให้ธนาคารต่าง ๆ สามารถดูแลและให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้บริการได้อย่างถูกต้อง มีวิธีแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงทีและได้มีการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น เช่น กสทช. กำหนดมาตรฐานและแนวปฏิบัติเพื่อให้การใช้บริการพร้อมเพย์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น”
สำหรับรายละเอียดการให้บริการพร้อมเพย์ (PromptPay) สามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสอบถามที่ธนาคารทุกแห่ง
ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย