วันที่ 6 กันยายน 2560 ณ makuhari messe เมืองชิบะ ได้มีการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV Nissan LEAF 2018 (นิสสัน ลีฟ 2018) ตัวใหม่ล่าสุดเป็นที่แรกในโลก มีสื่อมวลชนจากทั่วโลกมาร่วมงานเป็นจำนวนมากซึ่งทีมงานไอที 24 ชั่วโมงก็ได้รับเชิญมาร่วมงานนี้ที่ญี่ปุ่นเช่นเดียวกันพร้อมๆกับเก็บเรื่องราวและบรรยากาศมาฝากจากญี่ปุ่น
บรรยากาศในงานเปิดตัว NISSAN LEAF 2018 รถยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ารอบปฐมทัศน์ของโลก เนืองแน่นไปด้วยสื่อมวลชนจากทั่วโลก มารอชมการเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ของ Nissan LEAF 2018 โดยมี มร.ฮิโรโต๊ะ ไซกาวา ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด (Mr.Hiroto Saikawa- President & CEO Nissan Moto Co., Ltd) กล่าวต้อนรับ พร้อมบอกเล่าถึง วิวัฒนาการของรถยนต์ EV ของนิสสัน และวิสัยทัศน์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน
นิสสันผลิตรถยนต์มา 84 ปี โดยที่ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากว่า 70 ปีแล้ว จึงจัดเป็นผู้นำในการผลิตรถ EV เพราะทำรถพลังงานไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน โดยรถยนต์ EV คันแรกของนิสสัน คือ Tama ผลิตในปี 1947 ซึ่งตรงกับช่วงสงครามที่น้ำมันขาดแคลนจึงต้องใช้พลังงานไฟฟ้า และก็ได้มีการพัฒนาเรื่อยมา จนมาถึง NISSAN LEAF รุ่นแรกในปี 2010 และมีการปรับปรุงมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึง NISSAN LEAF ใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวในงานนี้
หลังจากงานเปิดตัวเสร็จสิ้น สื่อมวลชนก็ได้ชมนิทรรศการที่นำเสนอเทคโนโลยีของ ลีฟใหม่ ภายใต้แนวคิดด้านการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ด้านต่างๆ ใน ลีฟ ยูนิเวอร์ส อาทิ เทคโนโลยีการขับขี่ที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน การขับเคลื่อนที่ให้พลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษ การผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม และรวมถึงด้านการออกแบบต่างๆ ซึ่งแต่ละส่วนล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งสิ้น
นิสสัน ลีฟ ใหม่ ถูกออกแบบด้วยรูปโฉมที่จะสร้างความเร้าใจให้กับผู้พบเห็น ด้วยการยกระดับมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตใหม่ ด้วยหัวใจ 3 ข้อของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ ได้แก่ การขับขี่ด้วยระบบอัจฉริยะ (Nissan Intelligent Driving) ระบบพลังงานอัจฉริยะ (Nissan Intelligent Power) และการบูรณการอย่างอัจฉริยะ (Nissan Intelligent Integration)
นิสสัน ลีฟ คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% และมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ ขับขี่สงบเงียบ และด้วยการพัฒนายานยนต์ภายใต้แนวคิด นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) ทำให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจกับมุมมองรอบด้าน และสามารถตรวจจับวัตถุต่างๆที่อยู่รอบๆตัวรถได้ดีขึ้น ดีไซนด์ภายในออกแบบใหม่ให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
ไฮไลท์ของเทคโนโลยีใน NISSAN LEAF ใหม่นี้ ก็คือ ProPILOT, ProPILOT Park, e-Pedal และแบตเตอรี่ที่ชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ถึง 400 กม. แถมยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี V2G และ V2H อีกด้วย
ProPILOT ขับเองอัตโนมัติ
คือเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติในช่องจราจรเดียว (ยังไม่สามารถแซงไปอีกเลนได้) เมื่อเทคโนโลยีนี้ทำงาน รถจะรักษาระยะห่าง จากรถคันหน้าได้โดยอัตโนมัติด้วยการใช้ความเร็วที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ล่วงหน้า (ระหว่าง 30 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง) เทคโนโลยีนี้ยังช่วยบังคับทิศทางและรักษาตำแหน่งอยู่กึ่งกลางช่องจราจร เมื่อรถคันหน้าจอด
นิสสัส ลีฟ ใหม่ กับ ProPILOT Park จอดเองอัตโนมัติ
คือการช่วยจอดรถให้อัตโนมัติ เมื่อใช้งานระบบนี้ เทคโนโลยี โปรไพลอต พาร์ค จะ ควบคุมพวงมาลัย ควบคุมคันเร่ง เบรก การเปลี่ยนเกียร์ และเบรกมือเพื่อให้ตัวรถเข้าช่องจอด หรือจอดแบบขนานได้โดย อัตโนมัติได้อย่างปลอดภัยโดยอาศัยเทคโนโลยี image processing ขั้นสูง โดยใช้ high-resolution camera 4 ตัว ร่วมกับข้อมูลที่ได้จาก ultrasonic sensor รอบๆคัน 12 ตัว มาประมวลผลร่วมกัน
นิสสัน ลีฟใหม่ กับ e-Pedal ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่
e-Pedal เป็นนวัตกรรมท่ีทำให้ผู้ขับขี่เริ่มขับเคลื่อนรถยนต์ เร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดนิ่ง ด้วยการเพิ่มหรือลดแรงกดดันท่ีใช้กับ คันเร่ง เมื่อปล่อยคันเร่ง ระบบเบรกทั้งสองคือระบบเบรกจ่ายพลังงานคืน (regenerative brake) และระบบ เบรกปกติ จะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อทำให้รถหยุดนิ่ง รถยนต์จะอยู่นิ่งอยู่กับท่ีแม้จะอยู่บนเนินท่ีลาดชัน จนกว่าคัน เร่งจะถูกกดอีกครั้ง
นิสสัน ลีฟใหม่ กับ แบตเตอรี่และการชาร์จไฟที่เจ๋งกว่าเดิม
เมื่อพูดถึงรถ EV สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด และคนคำนึงถึงกันมากที่สุด ก็คือเรื่องเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บพลังงาน และความเร็วในการชาร์จ ซึ่ง Nissan LEAF ใหม่นี้ มาพร้อมกับวิวัฒนาการของแบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานได้เพิ่มขึ้น โดยไม่ได้เพิ่มขนาดของแบตเตอรี่ทำให้แต่เดิม ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งจะวิ่งได้ 280 กม. แต่ นิสสัน ลีฟ 2017 นี้ ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง สามารถวิ่งได้ถึง 400 กม.
สำหรับเวลาในการชาร์จ หากชาร์จแบบ quick charge จะใช้เวลา 40 นาทีสำหรับการชาร์จ 80%
ไม่ใช่แค่ชาร์จไฟเข้ารถ แต่รถยังทำหน้าที่จ่ายไฟให้คนอื่นได้ด้วย V2G และ V2H
นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากๆก็คือ ยังมีเทคโนโลยี V2G หรือ Vihicle to Grid ซึ่งหากเป็นประเทศที่มีระบบ smart grid ก็จะสามารถส่งไฟส่วนเกินจาก LEAF คืนสู่ Grid สร้างรายได้ได้ด้วย นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี V2H หรือ Vihicle to Home ทำให้ LEAF ยังสามารถเป็นที่เก็บไฟฟ้าสำรอง เพื่อจ่ายไฟให้กับบ้านหรืออาคารในยามฉุกเฉินหรือในยามที่ต้องการได้ด้วย
การจำหน่าย
สำหรับการเริ่มวางจำหน่าย จะขายในญี่ปุ่นก่อนเป็นที่แรกด้วยความพร้อมในทุกประการไม่ว่าจะเป็นความต้องการในการใช้รถเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมของชาวญี่ปุ่นและโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมสำหรับรถพลังงานไฟฟ้ามีสถานีชาร์จไฟถึง 28,000 สถานี
ราคานิสสัน ลีฟ ใหม่
ในส่วนเรื่องของราคายังไม่มีการเปิดเผยในขณะนี้ และกับคำถามที่ว่าจะเข้าไปขายในประเทศไทยหรือไม่เราได้รับคำตอบว่ามีการวางแผนที่จะเข้าไปจำหน่ายในประเทศไทยแต่จะเป็นเวลาใดนั้นต้องรอฟังอัพเดทกันอีกครั้งหนึ่งรวมถึงเรื่องราคาด้วย
NISSAN LEAF 2018 จะเข้าไทยไหม?
หลังจากที่เราได้สอบถามกับคุณ อันตวน บาร์เตส ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ก็ได้รับคำตอบว่า เตรียมจะเข้าไทย แต่ว่าจะเข้าเมื่อไหร่ และราคาเท่าไหร่นั้น ขอให้รอติดตามการอัพเดตจากทางนิสสันอีกครั้ง
นอกจากนี้ คุณอันตวน บาร์เตส ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้กล่าวในงานเปิดตัว Nissan Leaf 2018 ว่า “เป้าหมายของผม คือ การทำให้นิสสันมีบทบาทหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย และหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ยึดลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของนิสสัน คือ การเพิ่มความหลากหลายของรถยนต์ในประเทศไทยด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่าง นิสสัน ลีฟ ใหม่ อย่างไรก็ดีผมไม่สามารถเปิดเผยถึงกำหนดการและเวลาในการเปิดตัวรวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ได้ ผมเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้าสุดยอดเทคโนโลยีแห่งยุคจะเป็นอีกหนึ่งยานยนต์ที่เพิ่มสีสันให้กับรถยนต์รุ่นต่างๆของนิสสันที่วางจำหน่ายในประเทศไทย” นายบาร์เตส กล่าว
การเปิดตัวในครั้งนี้ตอกย้ำกลยุทธ์ด้านยานยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และความมุ่งมั่นของนิสสัน ในการใช้เทคโนโลยี e-POWER และยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อนำประเทศไทยไปสู่อนาคตและสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น
“เนื่องจากความกังวลเรื่องสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น นวัตกรรมอย่าง e-Power และรถยนต์ไฟฟ้าอย่างนิสสัน ลีฟ ใหม่จึงเป็นทางออกที่จะนำเราไปสู่โลกการขับขี่แห่งอนาคตที่ชาญฉลาด สะอาด และยั่งยืน ทั้งนี้ยังมีราคาที่เข้าถึงได้และรักษาสุนทรียะในการขับขี่ไว้ด้วย” บาร์เตส กล่าว พร้อมเสริมว่า นิสสันกำลังพัฒนากลยุทธ์ยานยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดมุ่งหมายให้ทุกคนเป็นเจ้าของได้ รูปทรงที่ดึงดูดใจและสะดวกสบายกับทุกรูปแบบความต้องการในการขับขี่ในทุกประเทศทั่วโลก
“สำหรับประเทศไทย นิสสันกำลังพูดคุย และทำงานกับรัฐบาล หน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นและผู้กำหนดนโยบายในเรื่องกลยุทธ์ยานยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้รถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จเป็นจริงได้” นายบาร์เตส กล่าว