จากข่าวใหญ่ที่เป็นประเด็นข่าวร้อนที่ กสทช. สั่งให้ facebook , google , Netflix ต้องมาลงทะเบียน OTT ภายในวันที่ 22 กรกฎาคม 2560 หากไม่ลงจะมีความผิดทางกฎหมายนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 มีประชุมของ กสทช. เรื่องการกำกับการแพร่ภาพและเสียงผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต (OTT) โดย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.เปิดเผยว่า เลื่อนเส้นตายการลงทะเบียน OTT ออกไปก่อน จากที่เคยกำหนดไว้เป็นวันที่ 22 ก.ค. และจากข้อมูลอาจเป็นไปได้ว่า การให้ facebook , google ลงทะเบียน OTT นั้นจะผิด พรบ. กสทช.
นายฐากร กล่าวว่า มติที่ประชุม กสทช. ยังเห็นควรจะเดินหน้าการกำกับกิจการ OTT เนื่องจากเป็นการให้บริการในประเทศไทย จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย แต่เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการกำกับดูแลที่จะไม่มีข้อโต้แย้งในอนาคต จึงมีมติให้คณะอนุกรรมการ OTT ยกร่างหลักเกณฑ์การกำกับกิจการ OTT ให้เสร็จภายใน 30 วัน เพื่อเสนอให้บอร์ด กสทช. พิจารณา ก่อนนำออกประชาพิจารณ์รับความฟังความเห็นสาธารณะ ก่อนที่จะปรับปรุงและเสนอให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติเพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา โดยมีกรอบเวลาดำเนินงานทั้งหมด 90 วัน
ขณะที่ทางด้าน Google ประเทศไทย โฆษกของ Google เผยว่า ระบุว่ายังไม่สามารถบอกอะไรชัดเจนเรื่องความเคลื่อนไหวก่อนวันที่ 22 ก.ค. เนื่องจากยังต้องการข้อกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร หากลงทะเบียน OTT แล้ว กระบวนการต่อไปคืออะไร การดำเนินงานจะเป็นไปในรูปแบบไหนต่อ อย่างไรก็ตาม ทาง Google กำลังศึกษาเรื่องกฎหมายเพิ่มเติมอย่างเต็มที่
และทางด้าน น.ส. สุภิญญา กลางณรงค์ อดีตกรรมการ กสทช. ได้โพสต์ขึ้น twitter ส่วนตัว โดยสาระสำคัญใน twitter เผยว่า “ กสทช. ยื่นคำขาดกับ Google และ Facebook ว่า ถ้าไม่มายื่นขอประกอบกิจการ จะขัด พรบ.โทรทัศน์ แต่ พรบ.โทรทัศน์ ห้ามบริษัทต่างชาติมาขอทำทีวี โดย พรบ.ประกอบกิจการโทรทัศน์ ระบุชัดเจนว่า ห้ามต่างชาติถือหุ้นกิจการทีวีเกินร้อยละ 25 ดังนั้น กฎหมายห้าม Facebook และgoogle มาทำทีวีในไทยอยู่แล้ว ประเด็นข้อ กม.คือพรบ.ประกอบกิจการโทรทัศน์มีกฎสำคัญห้ามต่างชาติถือหุ้นในกิจการทีวีเกินร้อยละ25 ดังนั้นถ้าตีความสื่อออนไลน์ OTT เป็นทีวีจะยุ่ง facebook และ google และ OTT เข้าข่ายเป็นทีวีแบบไม่ใช้คลื่นฯ ตาม พรบ.โทรทัศน์ ซึ่งต้องห้ามไม่ให้ต่างชาติมาขอ แล้วเขาจะมาขอได้อย่างไร
ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ , Blognone , twitter @supinya